“เอสเอ็มอีแบงก์” ชงแผนทำงานปี 55 เสนอบอร์ด ชูปล่อยสินเชื่อธุรกิจหลักตามนโยบายรัฐ เผยยุทธศาสตร์เร่งขยายฐาน ตจว. ให้เงินทุนควบคู่พัฒนาศักยภาพ ตั้งเป้าสินเชื่อเพิ่ม 10,000 ลบ. ลดหนี้เน่าไม่เกิน 10% ในอีก 2ปีข้างหน้า คาดแผนสมบูรณ์ออกในเดือน พ.ย. นี้
นายโสฬส สาครวิศว กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) เปิดเผยว่า จากการประชุมผู้บริหารเอสเอ็มอีแบงก์ เพื่อวางแผนการดำเนินงานประจำปี พ.ศ.2555 ได้กำหนดยุทธศาสตร์หลักเน้นปล่อยสินเชื่อไปที่ 4 กลุ่ม ได้แก่ ธุรกิจพลังงานทดแทน ลอจิกติกส์ โอทอป และผู้ประกอบการรายย่อย ซึ่งถือเป็นกลุ่มธุรกิจที่ตรงกับความต้องการส่งเสริมของรัฐบาล ส่วนวิธีการทำงานจะมุ่งส่งเจ้าหน้าที่ลงภาคสนามให้บริการลูกค้าอย่างใกล้ชิด เน้นหัวใจแห่งการบริการ ช่วยพัฒนาลูกค้าให้เกิดความเข้มแข็งควบคู่กับให้เงินทุน
นอกจากนั้น จะเพิ่มสัดส่วนขยายฐานลูกค้าในต่างจังหวัดให้มากยิ่งขึ้น จากปัจจุบันที่เอสเอ็มอีแบงก์มีจำนวนลูกค้ารวมประมาณ 50,000 ราย แบ่งเป็นลูกค้ากรุงเทพฯ – ปริมณฑล ประมาณ 30% และลูกค้าภูมิภาค ประมาณ 70% ทว่า ในด้านสัดส่วนวงเงินกู้ กลุ่มลูกค้ากรุงเทพฯ-ปริมณฑลกลับมีอัตราสูงกว่า ดังนั้น ทางเอสเอ็มอีแบงก์ต้องการขยายฐานลูกค้าส่วนต่างจังหวัดให้เพิ่มขึ้น เพื่อให้ทั้งปริมาณ และวงเงินกู้มีสัดส่วนใกล้เคียงกันทั้งสองกลุ่ม
นายโสฬส ระบุต่อว่า เป้าหมายในการปล่อยสินเชื่อในปี 2555 คาดจะเติบโตประมาณ 10% หรือมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท จากสินเชื่อคงค้างที่คาดว่าในสิ้นปีนี้ (2554) จะถึง 100,000 ล้านบาท ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าแน่นอน เนื่องจากยอดสินเชื่อของเอสเอ็มอีแบงก์ มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึง ทิศทางเศรษฐกิจของประเทศและของโลกที่คาดว่าปีหน้าจะชะลอ ทำให้ธนาคารพาณิชย์จะลดการปล่อยสินเชื่อให้ธุรกิจรายย่อย ซึ่งความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ประกอบการกลุ่มนี้จะไหลเข้าเป็นลูกค้าของเอสเอ็มอีแบงก์
ส่วนเป้าการลดหนี้เสีย ตั้งเป้าภายในอีก 2 ปีข้างหน้า (2556) จะเหลือไม่เกิน 10% จากที่คาดการณ์สิ้นปีนี้ จะเหลือประมาณ 16% โดยวิธีการสำหรับรายที่ยังพอมีศักยภาพจะเข้าไปช่วยเหลือประกบแบบตัวต่อตัวเพื่อให้ธุรกิจกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง ส่วนในรายที่ไร้ขีดความสามารถจริงๆ หรือล้มเลิกกิจการไปแล้วจะขายทอดตลาดต่อไป
ทั้งนี้ จะนำเสนอแผนดังกล่าวเพื่อผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการบริหารเอสเอ็มอีแบงก์ โดยคาดว่าแผนจริงจะออกมาประมาณเดือนพฤศจิกายน เพื่อใช้เป็นแนวทางทำงานประจำปี 2555 ต่อไป