xs
xsm
sm
md
lg

สคพ.มอง 3 ธุรกิจรุ่ง-ร่วงรับ AEC เชื่ออนาคตเงินทุนไหลเข้าอาเซียนแน่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา เผยแนวโน้มการลงทุนโลก หลังไทยเข้าสู่ AEC ชี้ 3 อุตสาหกรรมรุ่ง-ร่วง แนะเตรียมรับมือ เชื่ออาหารแปรรูป กระทบจากวัตถุดิบที่น้อยลง ในขณะที่เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน จะย้ายฐานการผลิตไปแหล่งค่าแรงงานต่ำ ส่วนธุรกิจเสื้อผ้าสำเร็จรูปโตสูงสุดรับแฟชั่นโลก โอกาสสูงต่างชาติย้ายฐานผลิตมาไทย คาดอนาคตเงินทุนทะลักเข้าประเทศอาเซียนหลังตลาดเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ

นายวีระศักดิ์ โค้วสุรัตน์ ผู้อำนวยการบริหารสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) (สคพ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์การลงทุนโลกหลังจากประเทศไทยเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community) ว่า ในปี 2563 ทุกประเทศในอาเซียนจะกลายเป็นเขตการผลิตเดียว ตลาดเดียว ซึ่งจะมีการเคลื่อนย้ายปัจจัยการผลิตได้อย่างเสรี และสามารถใช้ทรัพยากรจากแต่ละประเทศ ทั้งวัตถุดิบและแรงงานมาร่วมในการผลิต มีมาตรฐานสินค้า ภายใต้กฎระเบียบเดียวกัน จากการตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ถือเป็นเป้าหมายที่ท้าทายสำหรับไทยในอีก 8 ปี ข้างหน้า ซึ่งไทยจำเป็นต้องเร่งดำเนินการและเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ

ทั้งนี้ทางสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา ได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจในไทยที่จะมีโอกาสย้ายฐานการผลิตหลังประเทศไทยเข้าสู่ AEC ได้แก่ ผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูป เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน และเสื้อผ้าสำเร็จรูป ซึ่งธุรกิจอาหารทะเลแปรรูป ถือเป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าในตลาดสูง แต่วัตถุดิบในปัจจุบันเริ่มเหลือน้อยลง ดังนั้นอาจจะได้รับผลกระทบจากการเข้าสู่ AEC ส่วนธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน มีโอกาสสูงที่ประเทศเกาหลี จีน และญี่ปุ่น จะย้ายฐานการผลิตจากไทย เพื่อไปหาแหล่งที่มีค่าแรงงานที่ต่ำกว่า ในขณะที่ธุรกิจเสื้อผ้าสำเร็จรูป ถือเป็นธุรกิจที่มีอนาคตสดใส มีโอกาสสูงที่ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่เวทีโลก แต่ต้องมีการพัฒนาเรื่องการออกแบบ ซึ่งไม่มีการย้ายฐานการผลิตแน่นอน แต่กลับจะมีการดึงให้ประเทศอื่นๆ เข้ามาลงทุนด้านการผลิตในไทยมากขึ้น

สำหรับการนำเสนอข้อมูลผลการศึกษารายงานการลงทุนโลก 2011 (WIR 2011) โดยผู้แทนจากอังค์ถัด (UNCTAD) ที่ทาง สคพ. จะจัดขึ้นในวันที่ 26 กรกฎาคม 2554 ณ ห้องชาเทรียม บอลรูม ชั้น 4 โรงแรมชาเทรียม ริเวอร์ไซด์ นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลการลงทุนของโลก ที่พบว่าในอนาคตเงินทุนส่วนใหญ่จะพุ่งเข้าหาประเทศในแถบเอเชีย และแอฟริกา ที่จากเดิมเงินทุนส่วนใหญ่จะกระจุกตัวในประเทศแถบยุโรป และอเมริกา ในขณะที่ธุรกิจภาคบริการจะมีโอกาสเติบโตสูง เช่น ภาคประกันภัย โรงแรม ขนส่ง โรงพยาบาล การศึกษา และการบิน รวมถึงธุรกิจแฟรนไชส์ที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นการรายงานข้อมูลดังกล่าวจะเน้นไปที่กลุ่มภาครัฐและเอกชน รวมถึงผู้ประกอบการแฟรนไชส์และเอสเอ็มด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น