กรมส่งเสริมการส่งออกเผยถึงสถานการณ์ส่งออกเฟอร์นิเจอร์ ต้นปี2554 ยังสดใส มีการส่งออกเพิ่มขึ้น ในตลาดใหม่ เช่น จีน อินเดีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตั้งเป้าส่งออกทั้งปี 1,290 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตปีก่อน 10% ส่วนการจัดงาน TIFF 2011 มีผู้ร่วมออกงาน 900 คูหา ตั้งเป้าผู้เข้าชมงาน 34,000 ราย ที่ไบเทค บางนา ระหว่างวันที่ 16-20 มีนาคม นี้
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายในงานแสดงสินค้าเฟอร์นิเจอร์ที่ดีที่สุดและสวยที่สุดในเมืองไทย ในชื่อ “TIFF 2011” ถึงสถานการณ์การส่งออกเฟอร์นิเจอร์ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ว่า ยังมีเป็นไปในทิศทางที่ดี มีการส่งออกเพิ่มขึ้นในแถบภูมิภาคเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย และอินเดีย และมีการขยายตลาดใหม่ในกลุ่มที่มีกำลังซื้อ เช่น จีน อินเดีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
สำหรับในปีที่ผ่านมา มีมูลค่าการส่งออก 88.62 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 1.69 ในขณะที่เป้าหมายการส่งออกเฟอร์นิเจอร์ทั้งปี 2554 คาดว่าจะอยู่ที่ 1,290 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตขึ้นจากปีก่อน 10% ซึ่งการจัดงาน TIFF 2011 จะช่วย เพิ่มโอกาสในการส่งออกสินค้ามากขึ้น และส่งเสริมให้มูลค่าการส่งออกเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
“กลุ่มเป้าหมายที่เดินทางเข้ามาชมงาน TIFF 2011 มีหลายประเทศที่น่าสนใจ โดยเฉพาะตลาดใหม่ที่มีกำลังซื้อและมีความต้องการสินค้า เช่น จีน อินเดีย รัสเซีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และตลาดที่มีอัตราการขยายตัวสูง เช่น อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส ไต้หวัน และแอฟริกาใต้ ซึ่งผู้ประกอบการไทยจะต้องอาศัยความได้เปรียบที่มีทั้งด้านวัตถุดิบที่หลากหลาย คุณภาพฝีมือแรงงาน คุณภาพสินค้าที่ดี รวมทั้งกลยุทธ์การเจาะตลาดเฉพาะ Niche Market การรับงานลักษณะ Contract Project การส่งเสริมภาพลักษณ์แก่เฟอร์นิเจอร์ไม้ของไทยในด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม การพัฒนาตราสินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักในตลาดโลกแทนการรับจ้างผลิต การสร้างความแตกต่างให้กับสินค้าและเพิ่มมูลค่าในด้านคุณภาพความประณีต รูปแบบที่โดดเด่น สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของตลาดต่างประเทศ รวมถึงการให้บริการที่ดี ส่งมอบสินค้าตรงตามเวลา และใช้ประโยชน์จากการเปิดตลาดการค้าเสรี (FTA) ที่ไทยมีกับต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย อินเดีย และอาเซียน” นางพรทิวา กล่าว
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวเพิ่มเติมว่างาน TIFF 2011 ในปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-20 มีนาคมนี้ ที่ไบเทค บางนา ภายใต้คอนเซ็ปต์ Finding Green Piece โดยมีผู้ประกอบการกว่า 220 บริษัท 900 คูหา นำเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์สวยคอลเล็คชั่นใหม่และเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มาจัดแสดงให้ผู้ซื้อ ผู้นำเข้า รวมทั้งเจ้าหน้าที่แผนกจัดซื้อในธุรกิจบ้านจัดสรร โรงแรม และรีสอร์ต ชมและเจรจาธุรกิจการค้า และ 2 วันสุดท้ายของงานยังเปิดจำหน่ายปลีกให้กับผู้สนใจทั่วไป โดยคาดว่าจะมีผู้เดินทางจากนานาประเทศมาชมและซื้อสินค้าในงานนี้กว่า 34,000 คน แบ่งเป็นผู้ชมจากต่างประเทศ 8,000คน และผู้ชมจากในประเทศ 26,000 คน
“จุดเด่นของงาน TIFF 2011 คือการเป็นงานเฟอร์นิเจอร์ที่สวยที่สุดและรวบรวมเฟอร์นิเจอร์ที่สวยงามไว้มากที่สุดในที่เดียวซึ่งจัดเพียงปีละครั้งเท่านั้น และในปีนี้ยังได้เปิดตัวกลยุทธ์ SOOK หรือ Small Order OK เพื่อรุกตลาดมากขึ้น จากเดิมที่ผู้ซื้อจะต้องสั่งซื้อจำนวนมาก หลายคอนเทนเนอร์ เมื่อมีการเปิดตัวกลยุทธ์ SOOK บูธของผู้ประกอบการที่ติดโลโก้ SOOK จะยินดีต้อนรับลูกค้าไม่ว่าจะสั่งจำนวนมากหรือสั่งจำนวนน้อย แม้เพียงชิ้นเดียว และพร้อมที่จะปรับดีไซน์ตามความต้องการของลูกค้าได้ ซึ่งจะทำให้เราได้ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม (Niche) มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าโรงแรม รีสอร์ทหรือลูกค้าที่ทำงาน Project Contract ซึ่งจะทำให้เฟอร์นิเจอร์ไทยมีมูลค่าเพิ่มโดยไม่ต้องแข่งขันเรื่องราคา” นางนันทวัลย์ กล่าว
นอกจากจะมีเฟอร์นิเจอร์มาจัดแสดงแล้ว งาน TIFF 2011 ยังมีนิทรรศการที่น่าสนใจ ซึ่งจะเป็นการโชว์ศักยภาพด้านการออกแบบสร้างสรรค์เฟอร์นิเจอร์สู่สายตากลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ นิทรรศการเปลี่ยนขยะให้เป็นทอง: รับกระแสโลกร้อนและสร้างคุณค่าให้วัสดุเหลือใช้ ซึ่งจะนำเฟอร์นิเจอร์ที่ผลิตจากวัสดุเหลือใช้มาจัดแสดง นิทรรศการ American Hard Wood Design Camp โครงการที่สนับสนุนให้นักศึกษามีทักษะด้านการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ซึ่งสามารถผลิตเพื่อจำหน่ายได้จริง และนิทรรศการ DEmark โชว์ผลงานการออกแบบที่โดดเด่นที่ได้รับรางวัล Design Excellence Award และ G Mark จากประเทศญี่ปุ่น
“TIFF 2011 จะเป็นโอกาสของผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์ไทยที่จะได้แสดงศักยภาพ ได้เจรจากับนักธุรกิจทั้งรายใหญ่และรายเล็กที่เดินทางมาร่วมงานจากทั่วโลก และยังเป็นงานที่น่าสนใจสำหรับบริษัท ห้างร้าน โรงแรม และประชาชาชนทั่วไป ที่กำลังมองหาเฟอร์นิเจอร์คุณภาพส่งออกที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่สวยและทันสมัย ซึ่งในเมืองไทยสามารถหาได้จากงาน TIFF งานเดียว ซึ่งถ้าใครจะไปเจรจาธุรกิจแนะนำให้ไปวันที่ 16-18 มีนาคม ตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็น ส่วนวันที่ 19-20 มีนาคม ตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึง 3 ทุ่ม เป็นวันจำหน่ายปลีก” นางนันทวัลย์ กล่าว
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายในงานแสดงสินค้าเฟอร์นิเจอร์ที่ดีที่สุดและสวยที่สุดในเมืองไทย ในชื่อ “TIFF 2011” ถึงสถานการณ์การส่งออกเฟอร์นิเจอร์ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ว่า ยังมีเป็นไปในทิศทางที่ดี มีการส่งออกเพิ่มขึ้นในแถบภูมิภาคเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย และอินเดีย และมีการขยายตลาดใหม่ในกลุ่มที่มีกำลังซื้อ เช่น จีน อินเดีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
สำหรับในปีที่ผ่านมา มีมูลค่าการส่งออก 88.62 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 1.69 ในขณะที่เป้าหมายการส่งออกเฟอร์นิเจอร์ทั้งปี 2554 คาดว่าจะอยู่ที่ 1,290 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตขึ้นจากปีก่อน 10% ซึ่งการจัดงาน TIFF 2011 จะช่วย เพิ่มโอกาสในการส่งออกสินค้ามากขึ้น และส่งเสริมให้มูลค่าการส่งออกเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
“กลุ่มเป้าหมายที่เดินทางเข้ามาชมงาน TIFF 2011 มีหลายประเทศที่น่าสนใจ โดยเฉพาะตลาดใหม่ที่มีกำลังซื้อและมีความต้องการสินค้า เช่น จีน อินเดีย รัสเซีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และตลาดที่มีอัตราการขยายตัวสูง เช่น อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส ไต้หวัน และแอฟริกาใต้ ซึ่งผู้ประกอบการไทยจะต้องอาศัยความได้เปรียบที่มีทั้งด้านวัตถุดิบที่หลากหลาย คุณภาพฝีมือแรงงาน คุณภาพสินค้าที่ดี รวมทั้งกลยุทธ์การเจาะตลาดเฉพาะ Niche Market การรับงานลักษณะ Contract Project การส่งเสริมภาพลักษณ์แก่เฟอร์นิเจอร์ไม้ของไทยในด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม การพัฒนาตราสินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักในตลาดโลกแทนการรับจ้างผลิต การสร้างความแตกต่างให้กับสินค้าและเพิ่มมูลค่าในด้านคุณภาพความประณีต รูปแบบที่โดดเด่น สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของตลาดต่างประเทศ รวมถึงการให้บริการที่ดี ส่งมอบสินค้าตรงตามเวลา และใช้ประโยชน์จากการเปิดตลาดการค้าเสรี (FTA) ที่ไทยมีกับต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย อินเดีย และอาเซียน” นางพรทิวา กล่าว
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวเพิ่มเติมว่างาน TIFF 2011 ในปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-20 มีนาคมนี้ ที่ไบเทค บางนา ภายใต้คอนเซ็ปต์ Finding Green Piece โดยมีผู้ประกอบการกว่า 220 บริษัท 900 คูหา นำเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์สวยคอลเล็คชั่นใหม่และเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มาจัดแสดงให้ผู้ซื้อ ผู้นำเข้า รวมทั้งเจ้าหน้าที่แผนกจัดซื้อในธุรกิจบ้านจัดสรร โรงแรม และรีสอร์ต ชมและเจรจาธุรกิจการค้า และ 2 วันสุดท้ายของงานยังเปิดจำหน่ายปลีกให้กับผู้สนใจทั่วไป โดยคาดว่าจะมีผู้เดินทางจากนานาประเทศมาชมและซื้อสินค้าในงานนี้กว่า 34,000 คน แบ่งเป็นผู้ชมจากต่างประเทศ 8,000คน และผู้ชมจากในประเทศ 26,000 คน
“จุดเด่นของงาน TIFF 2011 คือการเป็นงานเฟอร์นิเจอร์ที่สวยที่สุดและรวบรวมเฟอร์นิเจอร์ที่สวยงามไว้มากที่สุดในที่เดียวซึ่งจัดเพียงปีละครั้งเท่านั้น และในปีนี้ยังได้เปิดตัวกลยุทธ์ SOOK หรือ Small Order OK เพื่อรุกตลาดมากขึ้น จากเดิมที่ผู้ซื้อจะต้องสั่งซื้อจำนวนมาก หลายคอนเทนเนอร์ เมื่อมีการเปิดตัวกลยุทธ์ SOOK บูธของผู้ประกอบการที่ติดโลโก้ SOOK จะยินดีต้อนรับลูกค้าไม่ว่าจะสั่งจำนวนมากหรือสั่งจำนวนน้อย แม้เพียงชิ้นเดียว และพร้อมที่จะปรับดีไซน์ตามความต้องการของลูกค้าได้ ซึ่งจะทำให้เราได้ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม (Niche) มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าโรงแรม รีสอร์ทหรือลูกค้าที่ทำงาน Project Contract ซึ่งจะทำให้เฟอร์นิเจอร์ไทยมีมูลค่าเพิ่มโดยไม่ต้องแข่งขันเรื่องราคา” นางนันทวัลย์ กล่าว
นอกจากจะมีเฟอร์นิเจอร์มาจัดแสดงแล้ว งาน TIFF 2011 ยังมีนิทรรศการที่น่าสนใจ ซึ่งจะเป็นการโชว์ศักยภาพด้านการออกแบบสร้างสรรค์เฟอร์นิเจอร์สู่สายตากลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ นิทรรศการเปลี่ยนขยะให้เป็นทอง: รับกระแสโลกร้อนและสร้างคุณค่าให้วัสดุเหลือใช้ ซึ่งจะนำเฟอร์นิเจอร์ที่ผลิตจากวัสดุเหลือใช้มาจัดแสดง นิทรรศการ American Hard Wood Design Camp โครงการที่สนับสนุนให้นักศึกษามีทักษะด้านการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ซึ่งสามารถผลิตเพื่อจำหน่ายได้จริง และนิทรรศการ DEmark โชว์ผลงานการออกแบบที่โดดเด่นที่ได้รับรางวัล Design Excellence Award และ G Mark จากประเทศญี่ปุ่น
“TIFF 2011 จะเป็นโอกาสของผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์ไทยที่จะได้แสดงศักยภาพ ได้เจรจากับนักธุรกิจทั้งรายใหญ่และรายเล็กที่เดินทางมาร่วมงานจากทั่วโลก และยังเป็นงานที่น่าสนใจสำหรับบริษัท ห้างร้าน โรงแรม และประชาชาชนทั่วไป ที่กำลังมองหาเฟอร์นิเจอร์คุณภาพส่งออกที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่สวยและทันสมัย ซึ่งในเมืองไทยสามารถหาได้จากงาน TIFF งานเดียว ซึ่งถ้าใครจะไปเจรจาธุรกิจแนะนำให้ไปวันที่ 16-18 มีนาคม ตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็น ส่วนวันที่ 19-20 มีนาคม ตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึง 3 ทุ่ม เป็นวันจำหน่ายปลีก” นางนันทวัลย์ กล่าว
