xs
xsm
sm
md
lg

ส.ของเล่นหวั่นโดนสวมสิทธิ์เมดอินไทยแลนด์ หลังเปิด China city complex

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นางดวงใจ คูห์ศรีวินิจ นายกสมาคมอุตสาหกรรมของเล่นไทย
สมาคมอุตสาหกรรมของเล่นไทย ออกโรงเตือน เปิด China city complex อาจเจอพ่อค้าจีนหัวใสสวมสิทธิ์ของเล่นเปลี่ยนกล่องใช้ MADE IN THAILAND ส่งออกไปต่างประเทศ ด้านรัฐถ้าไม่เข้มงวดมาตรฐาน ได้เห็นสินค้าไร้มาตรฐานเต็มเมืองแน่ ชี้เอสเอ็มอีไทยพร้อมรับมือปรับตัวผลิตสินค้ายึดหลัก Quality,Design,Commission

นางดวงใจ คูหศรีวินิจ นายกสมาคมอุตสาหกรรมของเล่นไทย เปิดเผยถึงผลกระทบจากที่ทางรัฐบาลจีน มีโครงการจะเข้ามาเปิด (China city complex) ศูนย์กลางการกระจายสินค้าของใช้ใหญ่ที่สุดในโลกในประเทศไทย บนพื้นที่ 7 แสน ตารางเมตร บนถนนบางนา-ตราด ด้วยเงินลงทุนกว่า 1,500 ล้านดอลล่าร์สหรัฐหรือ ประมาณ 4.5 หมื่นล้านบาท ในครั้งนี้

ในส่วนของอุตสาหกรรมของเล่นไทย ซึ่งกว่า 90% เป็นผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอี จะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน และสิ่งที่สมาคมฯ มากที่สุด คือการเข้ามาสวมสิทธิ์เปลี่ยนกล่อง ที่เป็น MADE IN THAILAND ในกลุ่มของเล่น เพราะต้องยอมรับว่า ปัจจุบันของเล่นที่ผลิตจากประเทศไทย ที่มีตรา MADE IN THAILAND เป็นที่ยอมรับทั่วโลกว่าเป็นของเล่นที่ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะในกว่า 60 ประเทศที่ไทยมีการส่งออกไปจำหน่าย ไทยเองใช้เวลาสร้างชื่อ MADE IN THAILAND มานานกว่า 20 ปี

สาเหตุที่เรากลัวการสวมสิทธิ์ในครั้งนี้ เพราะในส่วนของอุตสาหกรรมของเล่นไทย ที่ผ่านมา เราเคยโดนผู้ประกอบการด้านของเล่น จากประเทศจีน มาสวมสิทธิ์ใช้ตรา MADE IN THAILAND และส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศบราซิล และประเทศแถบอเมริกาใต้ หลังจากนั้นสิ่งที่ตามมา คือ ทำให้ของเล่นของไทยเราโดนตั้งกำแพงภาษี เพราะกลายเป็นว่าสินค้าของเล่นจากไทยมีการส่งออกไปยังประเทศเหล่าเพิ่มสูงถึง 80% เข้าหลักการ การตั้งกำแพงภาษีของประเทศเขา

นอกจากนี้ ที่ผ่านมาหน่วยงานภาครัฐของไทยเองก็ยังไม่ได้มีมาตรการ ดูแลกวดขันการนำเข้า ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน หรือแม้แต่การผลิตในประเทศเอง รัฐก็ยังไม่รัดกุมที่จะตรวจสอบการขอมาตรฐานให้รัดกุม ทำให้ปัจจุบันเห็นของเล่นจากผู้ผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน ออกมาในตลาดเป็นจำนวนมาก ทำให้ผู้ผลิตที่ทำตามมาตรฐานหมดกำลังใจและหันไปผลิตสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน เชื่อว่าต่อไปถ้ามีการเปิด China city complex สินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานจะเต็มตลาดไปหมด

สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจะต้องปรับตัว โดยผลิตสินค้า ที่มีความโดดเด่น 3 ส่วน คือ Quality,Design,Commission และภาครัฐต้องมีความรัดกุม ควบคุมดูแลมาตรฐานให้ได้ เพราะต้องยอมรับว่า ผู้บริโภคคนไทยเองก็ชื่นชอบของถูก โดยไม่ได้ให้ความสำคัญกับมาตรฐานมากนัก และเราก็คงจะไปสู้กับตลาดจีนที่ขายสินค้าราคาถูกไม่ได้
กำลังโหลดความคิดเห็น