บ่อตกปลาลุ่มน้ำอะเมซอน ท้าทายนักตกจากต่างแดน

ตกปลาการพักผ่อน และกีฬาท้าทายของชายอกสามศอก ด้วยเสน่ห์ของการตกปลาที่หลายคนชื่นชอบ ทำให้การตกปลาตามบ่อน้ำธรรมชาติ ไม่เพียงพอ และสะดวกสบายอีกทั้งค่าใช้จ่ายสูง จึงเป็นที่มาของบ่อตกปลา แหล่งพักผ่อนสังสรรค์ช่วงวันหยุด


การพัฒนาของบ่อตกปลา จากเดิมที่เน้นการพักผ่อน และการบริการในแบบกึ่งร้านอาหาร เริ่มไม่เพียงพอสำหรับนักตกปลาทั้งหลาย ทำให้ปัจจุบันบ่อตกปลามีการนำปลาแปลกๆที่ตกยาก รวมถึงปลาที่หายากตามแหล่งน้ำธรรมชาติ มาเพาะเลี้ยงกันในบ่อตกปลา สร้างความท้าทายให้กับเหล่านักตกปลาได้พิสูจน์ฝีมือ

สำหรับปลาที่เหล่านักตกปลาทั้งหลาย แสวงหาและต้องการจะแสดงฝีมือก็ต้องเป็นปลาขนาดยักษ์จากลุ่มน้ำโขง อย่างปลาบึก หรือ ที่นิยมกันมากปัจจุบันและท้าทายความสามารถไม่แพ้ปลาลุ่มน้ำโขง อย่างปลาดุร้ายจากแถบลุ่มน้ำอะเมซอน อย่าง ปลาช่อนอะเมซอน ปลาปากจระเข้ ปลาเปคู หรือ รวมถึงปลาที่ดุร้ายอย่าง ปลาปิรันย่า ฯลฯ

ปัจจุบันบ่อตกปลาที่มีปลาเหล่านี้รวมอยู่ด้วยในเมืองไทยมีไม่มากนัก และหนึ่งในนั้น เป็นบ่อตกปลาน้องใหม่ ทางแถบลุ่มแม่น้ำท่าจีน ที่อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี ของ “นายดนัย คล้ายจินดา” เจ้าของบ่อตกปลาคล้ายจินดาฟิชชิ่ง ซึ่งเปิดให้บริการบ่อตกปลา พร้อมอาหารและที่พักโฮมสเตย์ บนพื้นที่ 15 ไร่

นายดนัย เล่าว่า สำหรับบ่อตกปลาคล้ายจินดา เปิดให้บริการตกปลามาได้ประมาณ 4 ปี โดยเริ่มจากทำบ่อตกปลาบึก เพราะเป็นปลาขนาดใหญ่ลุ่มน้ำโขง ที่เลือกปลาบึก เพราะเห็นว่าเป็นปลาขนาดใหญ่ ในช่วงนั้นอยู่ในกระแสและได้รับความนิยมในกลุ่มของนักตกปลา และเนื่องจากปลาบึกเป็นปลาน้ำลึกตกยากจึงไม่ได้รับความนิยม ระยะหลังเปลี่ยนมาเป็นปลาน้ำจืดที่มีในแหล่งน้ำทั่วไป เช่น ปลานิล ปลาสวาย ปลาเทโพ ปลาทับทิม ปลาแรด ฯลฯ

และในระยะหลังความนิยมตกปลาในแถบลุ่มน้ำอะเมซอนกันมาก และเป็นเทรนด์การตกปลาในปัจจุบัน เราจึงได้นำปลาลุ่มน้ำอะเมซอน ปลาปากจระเข้ และปลาช่อนอะเมซอน มาเลี้ยงเพื่อดึงกลุ่มนักตกปลา ที่ชื่นชอบความท้าทายได้มาแสดงฝีมือกันด้วย ซึ่งมีอยู่อย่างละ 15 ตัว การเลี้ยงปลาตามธรรมชาติ ส่วนหนึ่งเพื่อนำมาเป็นอาหารของปลาในกลุ่มนี้ด้วย เพราะไม่เช่นนั้นจะไปกินปลาซึ่งเราเลี้ยงไว้หมด

ส่วนขนาดของปลาในกลุ่มลุ่มน้ำอเมซอน จะต้องมีขนาดตั้งแต่ 5 -20 กิโลกรัม ถึงจะอนุญาตให้ตกได้ ส่วนคันเบ็ดที่ใช้จะใช้แบบตีเหยื่อปลอม ซึ่งกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบตกปลาในกลุ่มนี้จะเป็นนักตกปลาจากต่างประเทศ อย่างยุโรป และญี่ปุ่น ให้ความสนใจ เสาะแสวงหาหาแหล่งตกปลาเหล่านี้ เพราะเป็นปลาที่ตกยาก การตกปลาแบบนี้ต้องมีทักษะ และฝีมือ เป็นการท้าทายความสามารถ อย่างมาก

นายดนัย กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางบ่อของเราจะเป็นที่รู้จักกันในกลุ่มของคนที่ชื่นชอบการตกปลาบึก และปลาไม่มีเกล็ดทั้งหลาย แต่เนื่องจากการตกปลาในลักษณะนั้น จะต้องใช้ทักษะและฝีมืออย่างมาก ทำให้ความนิยมตกปลาแบบในกลุ่มคนไทยน้อยลงไป เราจึงหันมาเปลี่ยนเป็นการเลี้ยงเพื่อตกปลาเกล็ดแทน ปลาที่ตกได้จากบ่อของเราจะเป็นปลานิล ขนาด 1 กิโลกรัม ครึ่ง ถึง 2 กิโลกรัม ซึ่งคนที่ต้องการตกปลานิลขนาดใหญ่ก็รู้จักกันว่าต้องมาตกที่บ่อคล้ายจินดา

ปัจจุบันปลาเกล็ดก็เป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มของนักตกปลา โดยเฉพาะการใช้คันเบ็ดแบบชิวหลิว เทรนด์ของคันเบ็ดชิวหลิวนั้นมาแรงมาก เพราะมีน้ำหนักเบา ไว้ใช้สำหรับตกปลาขนาดไม่ใหญ่มาก และตกได้ง่ายไม่ยุ่งยาก เหมือนกับเบ็ดแบบตีเหยื่อปลอม ชิวหลิว เป็นวิวัฒนาการมาจากคันไม้ไผ่ในอดีต สามารถตกทั้งปลาเล็กและปลาใหญ่ได้

สำหรับกลุ่มลูกค้าของบ่อตกปลาคล้ายจินดา แบ่งเป็นกลุ่มของนักตกปลาประมาณ 50% และกลุ่มของคนทั่วไป 50% โดยราคาค่าใช้บริการคิดค่าบริการเป็นคันเบ็ด ค่าเช่าคันละ 100 บาท ลูกค้านำเบ็ดมาเอง แต่เราจะผูกเหยื่อให้ ลูกค้าใช้บริการได้ทั้งวัน ซึ่งปลาที่ตกได้สามารถนำออกได้เฉพาะปลาเกล็ด 2 กิโลกรัมเท่านั้น ส่วนปลาอื่นๆ คิดกิโลกรัมละ 60 บาท ถึง 100 บาท แล้วแต่ชนิดของปลา

กลุ่มลูกค้าที่มาตกเพื่อจะนำปลาออกไปจะมีในสัดส่วนที่มากพอสมควร แต่ส่วนใหญ่เพื่อผ่อนคลายและพักผ่อน หรือ เกิดจากความชอบ เพราะโดยส่วนตัวที่มาเปิดบ่อตกปลาดังกล่าวไม่ได้คาดหวังเรื่องรายได้ในขณะนี้ แต่ที่ทำเพราะความชอบส่วนตัว เป็นคนชอบตกปลา และตระเวนตกปลามาเรื่อยตั้งแต่สมัยวัยรุ่น พอวันหนึ่งมีกิจการของตัวเอง และพอมีเงินก้อนหนึ่ง ก็เก็บเงินมาทำบ่อตกปลา ซึ่งการทำบ่อตกปลาไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องใช้ทุนมากพอสมควร ที่ผ่านมาใช้ทุนไปแล้วหลายล้านบาท คาดว่าน่าจะคืนทุนได้ไม่ต่ำกว่า 10ปี

ส่วนจุดเด่นของบ่อตกปลาคล้ายจินดา จะต่างจากบ่อตกปลาทั่วไป เพราะเน้นบรรยากาศแบบใกล้ชิดธรรมชาติ แม้แต่ที่พัก ทำเป็นลักษณะของเรือนเชือกผูก เป็นการหลังคามุงจาก หรือ คนทั่วไปเรียกว่า กระท่อม บรรยากาศโดยรอบห้อมล้อมไปด้วยท้องนา และต้นไม้ ไม่มีสิ่งปลูกสร้างที่เป็นตึกหรือ อาคารแต่อย่างใด เหมาะสำหรับคนที่ต้องการพักผ่อนแบบใกล้ชิดธรรมชาติ

โทร. 08-1621-7312 , www.klayjinda .com