แม้กระแสนาโนเทคโนโลยีในเมืองไทยปัจจุบันจะไม่เฟื่องฟูเมื่อเทียบกับเมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า ในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจที่ผ่านมา หลายบริษัทได้รับผลกระทบอย่างมากและประสบความยากลำบากทางการเงิน บางบริษัทถึงขั้นปิดกิจการไปเป็นจำนวนไม่น้อย
เพิ่มค่าด้วยนาโนเทคโนโลยี
หนึ่งในบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจนี้ แต่สามารถปรับตัวจนสามารถฝ่าวิกฤตมาได้ คือ บริษัท นาโนบิซ จำกัด ซึ่งเป็นแบรนด์ของคนไทยที่เน้นการใช้นาโนเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพให้กับตัวสินค้า
ทั้งนี้ นายสุชีพ วนธารกุล ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ บริษัท นาโนบิซ จำกัด กล่าวว่า นาโนบิซเป็นบริษัทของคนไทยเพียงไม่กี่บริษัทตั้งแต่ยุคแรก ๆ ของนาโนเทคโนโลยีบูมที่ยังคงกิจการอยู่
บริษัท นาโนบิซ จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี 2547 โดยได้นำผลิตภัณฑ์ตัวแรกของบริษัท ได้แก่ สเปรย์กันน้ำกันเปื้อน ที-โค้ท (T-COTE water repellent nano spray) ซึ่งเลียนแบบปรากฏการณ์จากธรรมชาติของน้ำกลิ้งบนใบบัว มาสาธิตและแสดงในงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ เมื่อเดือนตุลาคม 2547 ได้รับการตอบรับและได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างมาก
ต่อมาในงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์ เดือนสิงหาคม 2548 บริษัทได้นำตัวอย่างผลิตภัณฑ์อีกหลายชนิด อาทิเช่น ถุงดูดซับกลิ่นและต่อต้านเชื้อโรค เส้นใยทำความสะอาด น้ำหอมแคปซูล เนคไทผ้านาโน ฯลฯ มาสาธิตและแสดงในงาน ยังคงได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมากเช่นเคย
หลังจากนั้นทางบริษัทได้นำผลิตภัณฑ์ตัวอย่างที่แสดงในงาน มาปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพ อาทิเช่น เนคไทและผ้าพันคอกันน้ำกันเปื้อนและต่อต้านเชื้อโรคที่ทำจากผ้าไหมไทย สเปรย์กันน้ำกันเปื้อน (T-COTE ) สเปรย์น้ำหอมแคปซูล (SNIF ) สารดูดกลิ่นและต่อต้านเชื้อโรคเพียวริก (PURIX) เส้นใยทำความสะอาด ( ZAPPY ) เป็น
นาโนไม่ใช่จุดขายช่วงวิกฤต
เมื่อต้องเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจที่ผ่านมา บริษัทก็ได้รับผลกระทบมากพอสมควร จึงต้องพบกับสภาวะที่ ลูกค้าเริ่มหดหายและปริมาณการสั่งสินค้าเริ่มลดลง
หลายบริษัทที่เคยสั่งเนคไท ผ้าพันคอ สำหรับแจกตอนช่วงเทศกาลต่างๆ ก็หายไปเพราะมาตรการรัดเข็มขัด ต้องประหยัด สินค้าทุกตัวยอดตก โดยเฉพาะ สเปรย์กันน้ำกันเปื้อน ทีโค้ท กับสเปรย์น้ำหอมแคปซูล สนิพ เรียกได้ว่า ขาดทุนเลยทีเดียว ”แต่บริษัท นาโนบิซ จำกัด ก็สามารถปรับตัวจนฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจมาได้โดยอาศัยกลยุทธ์การบริหารจัดการระบบและสินค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
“ต้องบอกว่าเราโชคดี เนื่องจากนาโนบิซดำเนินธุรกิจด้วยการเริ่มต้นแบบพอเพียง ไม่ได้ใช้วิธีกู้หนี้ยืมสิน จึงไม่มีปัญหาต้องเร่งใช้หนี้คืน เมื่อเกิดวิกฤตเช่นนี้ก็ใช้ วิธีลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นทั้งหมด พยายามหมุนเงินอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่สต๊อคเกินจำนวนมากเกินไป ไม่งั้นเงินลงทุนจะไปจมอยู่ที่สินค้า ยกเลิกการจำหน่ายสินค้าบางตัวที่มีขั้นตอนการผลิตที่ยุ่งยากหรือยอดขายไม่มากพอ และโฟกัสไปที่สินค้าที่ยังคงขายดี ”
เลือกทำตลาดในกลุ่มสินค้าที่ขายดี
โดยทางบริษัทได้ทำวิจัยทางการตลาด พบว่าความต้องการของผู้บริโภคนั้นส่วนใหญ่อยู่ที่สินค้าหลักของบริษัทอยู่ 2 ตัว คือ “แซปปี้” เส้นใยทำความสะอาดและ “เพียวริก” ถุงดูดกลิ่น สนองความต้องการของผู้บริโภคด้านการทำความสะอาด และดูดกลิ่นได้อย่างดี
นอกจากนั้น ทางบริษัทยังปรับระบบการผลิตเป็นแบบ outsource มากขึ้น โดยมีการจ้างทำสินค้าบางอย่างที่มีความซับซ้อนและยุ่งยากในการผลิต และมีการควบคุมระบบคุณภาพให้ได้มาตรฐาน ทำให้ช่วยลดผลกระทบจากต้นทุนราคาวัตถุดิบที่เพิ่มมากขึ้นถึง 25% แต่ยังคงสามารถช่วยผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าได้ในราคาที่ลดลงมาได้อีกประมาณ 5-10%
นายสุชีพ ชี้ว่า ปัจจุบัน บริษัทเน้นส่งเสริมการตลาดในผลิตภัณฑ์ 2 ตัวคือ เส้นใยทำความสะอาด “แซปปี้” และ ถุงดูดกลิ่นและต่อต้านเชื้อโรค “เพียวริก” โดยมีการวางจำหน่ายในหลายๆสาขาของ TOPS ซุปเปอร์มาร์เก็ต และ ปีนี้ได้เพิ่มขยายสาขาครอบคลุมทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด
เส้นใยทำความสะอาด แซปปี้ ( ZAPPY ) หรือที่บางคนเรียกว่า “ฟองน้ำมหัศจรรย์” ประกอบด้วยเส้นใยขนาดเล็กมากระดับนาโน มีคุณสมบัติพิเศษคือ สามารถเช็ดทำความสะอาดคราบสกปรกตามผนัง เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ได้เป็นอย่างดีเกือบทุกพื้นผิว โดยเฉพาะคราบเหนียวเหนอะหนะที่เอาออกยากตามผนังครัว บนเตาแก๊ส และคราบน้ำมันเครื่อง หากลองใช้แซปปี้ขัดออก จะพบว่าทำได้ง่ายๆ
“ ส่วนสินค้าที่ได้รับความนิยมอีกตัวคือ เพียวริก ( PURIX ) ถุงดูดกลิ่นและต่อต้านเชื้อโรค เป็นการนำกะลามะพร้าวมาผ่านกระบวนการให้ เกิดรูพรุนขนาดเล็กจำนวนมากผสมกับ นาโนซิลเวอร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขจัดกลิ่นอับได้ดีกว่าถุงดูดกลิ่นทั่วไป ผู้บริโภคนิยมใช้เพื่อขจัดกลิ่นอับในรถยนต์และวางในตู้เย็นเพื่อขจัดกลิ่นคาวและกลิ่นอาหารต่างๆ สิ่งที่ทำให้บริษัทฯ ฝ่าฟันวิกฤตมาได้คือความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อตัวสินค้า”นายสุชีพกล่าว
ส่วนช่องทางการขายทางบริษัทเลือกวางใน ท็อปซุปเปอร์มาร์เก็ต เพราะตรงกลุ่มเป้าหมาย โดยในช่วงปลายเดือนตุลาคมจนถึงเดือนสิ้นปีจะมีการจัดโปรโมชั่นพิเศษ เพราะเป็นการวางจำหน่ายในท็อปครั้งแรก
โทร. 08-9767-3071 www.nanobiz.co.th