ใครๆก็ยกนิ้วให้แบงก์กสิกรไทย ที่หันมาใช้กลยุทธ์ขยายสินเชื่อด้วยการปล่อยกู้ถึง 800 ล้านให้บริษัทที่ชื่อว่า “ตั้งธนสิน”เพื่อนำไปปล่อยกู้ต่อ โดยมีบรรดาเถ้าแก่ SMEs เป็นกลุ่มเป้าหมาย หลายคนถามว่า “คิดได้อย่างไร?”
กลับมาที่ตั้งธนสิน ธุรกิจของบริษัทนี้จริงๆแล้ว ก็คือ โรงรับจำนำที่คนไทยคุ้นเคย แต่เป็นโรงรับจำนำที่บริหารโดยคนรุ่นใหม่ “สิทธิวิชญ์ ตั้งธนาเกียรติ”
แบงก์กสิกรไทยปล่อยกู้ครั้งนี้ไม่มีความเสี่ยงแน่ เพราะมีตั้งธนสินเป็นตัวรับความเสี่ยงไว้แทนทั้งหมด
สิทธิวิชญ์ กรรมการผู้จัดการ ตั้งธนสิน บอกว่า ได้เปิดให้บริการตั้งแต่เมื่อปี 2548 นับถึงวันนี้ก็ย่างเข้าสู่ปีที่ 5 แล้ว
ทั้งนี้ โดยใช้ชื่อแบรนด์ว่า “อีซี่ มันนี่” พร้อมนำระบบบริหารจัดการสมัยใหม่มาใช้ในการให้บริการ ตั้งแต่การตกแต่งสำนักงานในสไตล์โมเดิร์น,การนำระบบไอทีมาใช้ อย่างเช่น เครื่องสแกนลายนิ้วมือ จนถึงการพัฒนาระบบดูแลรักษาและประเมินราคาทรัพย์สินที่ดีและเป็นธรรม เพื่อสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้แก่ธุรกิจโรงรับจำนำ
“เราต้องการแก้ทัศนคติที่คนส่วนใหญ่มักมองโรงรับจำนำด้านลบ และเพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ด้วย”
สิทธิวิชญ์ บอกว่า ในช่วง 4 ปี จาก 2548-2551 “อีซี่ มันนี่” ได้ให้บริการรับจำนำไปแล้ว 380,000 รายรวมหมุนเวียนเป็นเงินกว่า 4,600 ล้านบาท โดยลูกค้าหลักเป็นลูกค้าทั่วไปรายย่อยๆ
แต่ในปีนี้พบว่ามีกลุ่มผู้ประกอบการระดับ SMEs เข้ามาใช้บริการของ “อีซี่ มันนี่” เพิ่มขึ้นถึง 70-80% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยทรัพย์สินที่นำมาจำนำส่วนใหญ่เป็นเพชร,ทองคำ,ของแบรนด์เนม
ทั้งนี้ เพราะ SMEs ถูกกระทบจากภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจและความไม่สงบทางการเมือง ต้องการเงินกู้เพื่อเสริมสภาพคล่อง
“เมื่อแบงก์เข้มงวดในการปล่อยกู้ SMEs ก็ต้องหันมาใช้บริการของโรงรับจำนำมากขึ้น เพราะเข้าถึงได้ง่ายกว่า และรวดเร็วกว่า อย่างอีซี่ มันนี่ สามารถอนุมัติในเวลาเพียงไม่กี่นาที”
ด้วยเหตุนี้ ในปีนี้ “อีซี่ มันนี่”จึงประกาศกลยุทธ์ใหม่ขยายตลาดสู่กลุ่มลูกค้าที่เป็น SMEs โดยได้เงินกู้ 800 ล้านบาทจากแบงก์กสิกรไทยมาสมทบใช้เป็นเงินทุนในการขับเคลื่อน
ในสถานการณ์อย่างขณะนี้ สิทธิวิชญ์ บอกว่า “อีซี่ มันนี่” เป็นแหล่งที่ดีที่ SMEs จะนำทรัพย์สินมาแปลงเป็นทุนเพื่อรับเงินไปหมุนเวียนในธุรกิจ ซึ่งนอกจากจะเข้าถึงง่าย รวดเร็วกว่าแล้ว ยังคิดดอกเบี้ยเพียงเดือนละ 1.25% หรือปีละ 15% เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ในการรับจำนำ “อีซี่ มันนี่” จะจำกัดไว้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อ 1 รายการทรัพย์สิน แต่ SMEs สามารถจำนำทรัพย์สินได้หลายรายการ
ปัจจุบัน “อีซี่ มันนี่” มีทั้งหมด 6 แห่ง กระจายอยู่ใน 5 จังหวัดรอบๆกรุงเทพฯ ประกอบด้วย
1. โรงรับจำนำเมืองรังสิต ตั้งอยู่ ณ อาคารเลขที่ 36 ถ.รังสิต – ปทุมธานี อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี (ติดโรงพยาบาลปทุมเวช ปทุมธานี)
2. โรงรับจำนำพระนครศรีอยุธยา ตั้งอยู่ ณ อาคารเลขที่ ค.21/8 ถนนนเรศวร ตำบลหอรัตนไชย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (ติดกับธนาคารกรุงไทย สาขาเจ้าพรหม)
3. โรงรับจำนำโรจนะ ตั้งอยู่ ณ อาคารเลขที่ 75-76 หมู่ที่ 1 ตำบลธนู อำเภออุทัย
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (ตรงข้ามโตโยต้าแกรนด์)
4. โรงรับจำนำเมืองนนทบุรี ตั้งอยุ่ ณ อาคารเลขที่ 10/18-19 หมู่ที่ 5 ถนนพิบูลสงคราม ตำบลสวนใหญ่ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี (ใกล้เมเจอร์ท่าน้ำนนท์)
5. โรงรับจำนำตลาดนอก ตั้งอยู่ ณ อาคารเลขที่ 8,10,12 ถนนบรรทัด ตำบลปากเพรียว อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี (ใกล้ธนาคารทหารไทย สระบุรี)
และ6. โรงรับจำนำเอกชัย ตั้งอยู่ ณ อาคารเลขที่ 1300/114 ถนนเอกชัย ตำบลมหาชัย อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร (ใกล้โรงพยาบาลสมุทรสาคร)
สำหรับสำนักงานใหญ่ของ “อีซี่ มันนี่” ตั้งอยู่ที่เดียวกับโรงรับจำนำเมืองรังสิต ปทุมธานี นี่คือ แหล่งทุนยามฉุกเฉินในยุคเศรษฐกิจถดถอยอีกแหล่งหนึ่ง ซึ่งน่าสนใจทีเดียวสำหรับ SMEs
&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&
***ข้อมูล โดยนิตยสาร SME Today ฉบับที่ 80 ประจำเดือนมิถุนายน 2552 ***
