xs
xsm
sm
md
lg

ผ้าต่อวาไรตี้ ‘NUCHA’ แฮนด์เมดใส่ไอเดียเฉียบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


งานหัตถกรรมผ้าต่อ หรือที่เรียกกันว่า “ควิลท์” และ “แพทช์เวิร์ค” ได้ถูกหยิบมาต่อยอด สร้างสรรค์เป็นเสื้อผ้า และเครื่องใช้ต่างๆ เกิดเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างจุดเด่นของงานแฮนด์เมด กับการใช้งานจริงได้เหมาะสม ช่วยให้ธุรกิจของผู้ประกอบการรายเล็กๆ แจ้งเกิดสำเร็จ อีกทั้ง มีส่วนช่วยสร้างงานสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนบ้านเกิดด้วย
ปิยะนุช ม่วงยิ้มพงษ์
ผู้บุกเบิกธุรกิจดังกล่าว คือ ปิยะนุช ม่วงยิ้มพงษ์ จุดเริ่มต้นมาจากความรู้สึกที่คล้ายกับใครอีกหลายคนที่อยากหนีวงจรมนุษย์เงินเดือน จึงตัดสินใจลาออกเพื่อสร้างธุรกิจของตัวเอง

“ส่วนตัวดิฉันชอบงานตัดเย็บ และบ้านเกิดที่กิ่งอำเภอดงเจริญ จังหวัดพิจิตร ก็จะมีแรงงานตัดเย็บฝีมือดีอยู่แล้ว ดังนั้น ธุรกิจที่ตั้งใจจะทำ อยากให้เกี่ยวกับการตัดเย็บ เมื่อลองไล่ดูสินค้าในตลาด เพื่อจะคัดหาสินค้าที่เหมาะสม จนมาสะดุดที่งานผ้าต่อ ซึ่งเวลานั้น ยังไม่มีในตลาดมากนัก เห็นว่า เป็นงานที่มีเสน่ห์น่าสนใจในตัวเอง แตกต่าง และสามารถนำไปแตกไลน์เป็นสินค้าชนิดต่างๆ ได้มาก ทำให้คิดว่าน่าจะเป็นโอกาสของเรา” ปิยะนุช เล่าถึงแรงบันดาลใจ
ผ้าคลุมเตียง คิงไซส์
เมื่อตัดสินใจจะทำธุรกิจนี้ ได้ไปเรียนการทำผ้าต่อจากโรงเรียนสอนอาชีพแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ จากนั้น ให้พี่สาวมาเรียนสมทบเพิ่ม เพื่อไปฝึกสอนแก่ชาวบ้าน สำหรับเป็นแรงงานผลิต เพราะชาวบ้านในท้องถิ่นไม่เคยทำงานด้านนี้มาก่อน นอกจากนั้น ตัวเธอยังไปเข้าโครงการสร้างผู้ประกอบการใหม่ ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมเพื่อเรียนรู้การบริหารธุรกิจด้วย

ปิยะนุช ระบุว่า บุกเบิกธุรกิจเมื่อปี พ.ศ.2546 ใช้เวลาเตรียมตัวทุกๆ ด้านร่วม 1 ปี กว่าสินค้าจะออกสู่ตลาดได้จริง โดยใช้เงินลงทุนเบื้องต้น ประมาณ 2 แสนบาท แบ่งเป็นค่าวัตถุดิบ ค่าแรงงาน และค่าเช่าพื้นที่เพื่อเปิดร้าน เป็นต้น

การทำตลาด เริ่มจากออกงานแสดงสินค้า เพื่อทดลองตลาด ดูผลตอบรับจากลูกค้า จนทุกอย่างลงตัวทั้งฝีมือการผลิตและปริมาณสินค้าที่มากพอจะป้อนให้ตลาด จึงเปิดหน้าร้านของตัวเองแห่งแรกที่สวนลุมไนท์บาร์ซา พร้อมกับจัดตั้งเป็นกลุ่มผ้าต่อนุชาขึ้นที่ จ.พิจิตร สำหรับเข้าโครงการสินค้าโอทอป ช่วยเพิ่มช่องทางตลาด

เจ้าของธุรกิจ ระบุว่า สิ่งสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จและยืนอยู่ได้จนถึงปัจจุบัน คือ นำคำแนะนำของลูกค้ามาปรับปรุงพัฒนาสินค้าอย่างสม่ำเสมอ จากตอนระยะแรกเน้นทำชิ้นใหญ่ๆ เช่น ผ้าคลุมเตียง และผ้าห่ม เป็นหลัก แม้ลูกค้าจะชื่นชอบความสวยงาม แต่ติดปัญหาราคาสูง


จากปัญหาดังกล่าว จึงลองนำงานผ้าต่อมาทำเป็นงานชิ้นเล็กๆ รวมถึงนำไปเสริม หรือแซมกับสินค้าแฟชั่นอื่นๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น เสื้อยืด หมวก กระเป๋าหิ้ว กระเป๋าสะพาย กระเป๋าใส่เศษสตางค์ ปลอกหมอน ฯลฯ ช่วยให้สินค้าหลากหลาย และโดดเด่นน่าสนใจยิ่งขึ้น ที่สำคัญ ราคาไม่สูงเกินไป ง่ายต่อการตัดสินใจซื้อ
ร้านที่ชั้น 1 เจเจ มอลล์
ในระยะ 1-2 ปีแรก ปิยะนุช ยอมรับว่า เป็นช่วงประคับประคองธุรกิจให้อยู่รอด จนเข้าสู่ปีที่ 3 ถึงเริ่มมีกำไรเป็นกอบเป็นกำ จุดสำคัญเนื่องจากเพิ่มตลาดจากขายปลีกหน้าร้านอย่างเดียวมาสู่ขายส่งควบคู่กันไปด้วย โดยย้ายมาเปิดหน้าร้านที่จตุจักรพลาซ่า โซนB ซอย 6 ห้อง 06-07 และเจ เจ มอลล์ ห้อง F73 ซึ่งเป็นศูนย์กลางร้านค้าปลีกค้าส่ง

“การขายส่งแม้ว่าจะได้คำสั่งซื้อครั้งละมากๆ รายได้สูงกว่า แต่มีความยุ่งยากมาก ดังนั้น สิ่งสำคัญ ผู้ประกอบการต้องรู้ตัวเองว่า มีความพร้อมหรือยัง ทั้งตลาด การผลิต แรงงาน แบบและปริมาณสินค้ามากพอจะขายส่ง การสต๊อกสินค้า การดูแลต้นทุน ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ถ้าไม่พร้อมจริงๆ ไม่ควรผลิตขายส่ง สำหรับหน้าใหม่ควรจะเริ่มทำเล็กๆ ขายปลีกสะสมประสบการณ์เตรียมความพร้อมทุกอย่างเสียก่อน” ปิยะนุช ให้คำแนะนำ

ด้านการบริหารธุรกิจนั้น ปิยะนุชจะรับผิดชอบการออกแบบลวดลาย ตลอดจนวางแผนธุรกิจ ทั้งการตลาดและจัดจำหน่าย ส่วนพี่สาวเป็นฝ่ายควบคุมการผลิตอยู่ที่ จ.พิจิตร โดยมีสมาชิกกลุ่มรวมประมาณ 30-40 คน จัดระบบรักษามาตรฐานสินค้า โดยแบ่งการผลิตเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนแรกจ่ายงานเป็นชิ้นๆ ให้ชาวบ้านรับไปทำที่บ้าน เช่น การด้น การสอย ส่วนที่สอง จะเป็นลูกจ้างประจำทำหน้าที่เย็บประกอบชิ้นส่วนต่างๆ จนสมบูรณ์ ทุกขั้นตอนจะมีการตรวจสอบคุณภาพ เพื่อให้งานออกมาได้มาตรฐานเดียวกัน ส่วนการจ่ายค่าแรงมีทั้งเงินเดือนประจำและจ่ายตามรายชิ้น เพื่อสร้างแรงจูงใจ

สินค้าผ้าต่อนุชา มีมากกว่า 40 รายการ ราคาเริ่มต้นที่หลักสิบถึงสูงสุด 7,000 บาท คือผ้าห่มขนาดคิงไซด์ ทั้งหมดเป็นแฮนด์เมด ส่วนวัตถุดิบผ้าที่ใช้เป็นผ้าคัดตอนเกรดเอ กลุ่มลูกค้าหลัก คือ สุภาพสตรีวัยทำงานที่ชอบงานแฮนด์เมด ฐานะระดับกลางบนขึ้นไป สัดส่วนการตลาดเกือบทั้งหมดจะขายในประเทศ ส่วนต่างประเทศมีคำสั่งซื้อบ้างเล็กน้อย ตลาดหลัก ได้แก่ ฝรั่งเศส

ในแง่ปัญหานั้น ปิยะนุช ระบุมาที่ตัวเองเป็นหน้าใหม่ในการทำธุรกิจ ทุกด้านไม่ว่าจะเป็นการผลิต ตลาด บริหาร ฯลฯ ล้วนต้องเริ่มต้นใหม่จากศูนย์ทั้งสิ้น ประกอบกับการเป็นผู้ประกอบการรายเล็กๆ เงินทุนสายป่วนจึงไม่ยาวนัก ดังนั้น การประคองธุรกิจกว่าจะตั้งตัวให้อยู่รอดได้จึงเป็นเรื่องยากลำบากมาก

อย่างไรก็ตาม นับถึงวันนี้ กล่าวได้ว่า ธุรกิจยืนอยู่ได้ค่อนข้างมั่นใจ มีฐานลูกค้าขาประจำ และคำสั่งซื้อสม่ำเสมอ โดยแนวทางธุรกิจในอนาคต จะพยายามเพิ่มสินค้า และขยายสาขา เพื่อเสริมความเข้มแข็งให้ธุรกิจ รวมถึง จะนำคำติชมจากลูกค้า ไปพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง

********************

โทร.08-1840-2562 , www.nuchahandmade.com
กำลังโหลดความคิดเห็น