xs
xsm
sm
md
lg

เจ๊พรเคาะกะลาค้าปลีกจับขึ้นบัญชีควบคุม-บิ๊กโฟร์โวย!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"พรทิวา" เล่นเป็น เตรียมพิจารณาขึ้นบัญชีคุม "ธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง" วันนี้ กำหนดมาตรการให้ยักษ์ใหญ่ต้องแจ้งแผนขยายสาขาล่วงหน้า เตือนภัยโชห่วยและทำแผนช่วยได้ทัน หลังไม่ประสบความสำเร็จในการดันกฎหมายค้าปลีก จับตาล๊อบบี้ถอดวาระประชุมวุ่นวายแน่ พร้อมประกาศข่าวดีลดค่าครองชีพวันนี้ ด้านค้าปลีกเอกชนงงทำไมต้องเจาะจงแค่บิ๊กโฟร์นี้ ชี้หากเป็นจริงกระทบแผนลงทุนแน่

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า วันนี้ (30 ม.ค.) กรมการค้าภายในได้เตรียมเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ที่มีนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เป็นประธาน พิจารณานำธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง เข้าเป็นบริการควบคุมภายใต้พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 เพื่อดูแลระบบการค้าปลีกและค้าส่งในประเทศให้เป็นธรรม พร้อมกับเสนอสินค้าอีก 4 รายการ ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง กาแฟกึ่งสำเร็จรูป และแป้งสาลี ด้วย

สำหรับการควบคุมจะคุมเฉพาะระดับร้านไฮเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งเป็นร้านค้าปลีกที่มีขนาดใหญ่ แต่จะไม่คุมถึงห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีกขนาดย่อย ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ซึ่งต่อไปหากร้านค้าในกลุ่มไฮเปอร์มาร์เก็ตจะขยายสาขา ต้องนำแผนขยายสาขาธุรกิจแจ้งให้กระทรวงพาณิชย์รับทราบก่อนการขยายสาขาทุกครั้ง

การกำหนดมาตรการดังกล่าว ทำให้กระทรวงพาณิชย์จะได้รับทราบล่วงหน้าว่าจะมีสาขาขนาดใหญ่ของค้าปลีกค้าส่งไปตั้งที่ใด เพราะเป็นการรับรู้แผนล่วงหน้า ขณะที่ค้าปลีกค้าส่งได้ระบุว่าได้มีการแจ้งแผนการขยายสาขาต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเป็นปกติอยู่แล้วนั้น แต่เป็นการแจ้งหลังจากที่มีการขยายสาขาไปแล้ว ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์จะได้แจ้งเตือนภัยไปยังร้านค้าปลีกรายย่อย (โชห่วย) ในพื้นที่ให้รู้ตัวล่วงหน้า รวมทั้ง จะได้มีมาตรการเข้าไปให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาผลกระทบได้ด้วย

ทั้งนี้ ร้านค้าปลีกค้าส่งรายใหญ่ ที่เข้าข่ายอยู่ในบัญชีบริการควบคุมนี้ เช่น เทสโก้ โลตัส บิ๊กซี คาร์ฟูร์ และแมคโคร

รายงานข่าวแจ้งว่า สาเหตุที่ต้องนำธุรกิจค้าปลีกค้าส่งมาใส่ไว้ในบัญชีบริการควบคุม เพราะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีเงินทุนหมุนเวียนสูงถึง 1.4 ล้านล้านบาท ส่งผลกระทบต่อประชาชน วิถีชีวิตของคนจำนวนมาก ทั้งการจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้า การค้าขายของธุรกิจชุมชน โดยเฉพาะโชห่วย ตลาดสด ร้านค้าเฉพาะอย่าง เช่น ร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า

นอกจากนี้ หากปล่อยให้ธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง ซึ่งเป็นธุรกิจปลายทางของระบบการค้าถูกกำหนดโดยบุคคล หรือบริษัทเพียงไม่กี่แห่ง จะมีผลต่อกระทบต่อสินค้าอื่นตามมา โดยผู้ผลิตสินค้าเกษตร หรืออุตสาหกรรม อาจถูกบีบ หรือกำหนดหลักเกณฑ์การรับซื้อสินค้า และหลักเกณฑ์ค่าธรรมเนียมการบริหารที่ไม่เป็นธรรม เพราะไม่มีทางเลือกช่องทางจำหน่าย จากการถูกผูกขาดจากห้างค้าปลีกค้าส่งรายใหญ่เพียงไม่กี่ราย

ขณะเดียวกัน การใช้วิธีการขึ้นบัญชีควบคุมภายใต้พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการนี้ เป็นอีกแนวทางหนึ่งในการช่วยแก้ไขปัญหาค้าปลีกค้าส่งได้เร็วกว่าการรอให้มีพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง เพราะต้องใช้ระยะเวลาในการพิจารณาอีกนานกว่าจะผ่านออกมาเป็นกฎหมาย และจนถึงขณะนี้ยังไม่ไปถึงไหน ทั้งที่ใช้ระยะเวลาในการผลักดันมาแล้วกว่า 7 ปี พร้อมกันนี้ ยังจะมีการออกกฎกระทรวงภายใต้กฎหมายที่มีอยู่ เพื่อนำมาใช้ในการควบคุมธุรกิจค้าปลีกค้าส่งด้วย

รายงานข่าวว่า นโยบายนี้ เป็นส่วนหนึ่งของแผนที่ช่วยดูแลการค้าปลีกรายย่อยและรายใหญ่ให้แข่งขันกันได้อย่างเป็นธรรม ตามนโยบายของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่แถลงต่อสภาผู้แทนราษฎร หลังเข้ารับตำแหน่ง และเป็นไปตามข้อเสนอคณะกรรมการร่วมระหว่างภาครัฐและเอกชน (กรอ.) ที่ต้องการให้ดูแลการขยายสาขาของธุรกิจขนาดใหญ่ เพราะการขยายสาขาโดยปราศจาการควบคุมได้ทำลายธุรกิจค้าปลีกรายย่อยในชุมชนท้องถิ่น ต้องปิดกิจการไปแล้วหลายหมื่นแห่ง สร้างความเสียหายต่อธุรกิจชุมชน ซึ่งเป็นฐานรากเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม จะต้องจับตาดูว่าธุรกิจค้าปลีกค้าส่งรายใหญ่จะมีการล็อบบี้ผู้บริหารระดับสูงรัฐบาล และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ เพื่อถอดวาระการพิจารณาดังกล่าวออกจากการประชุมกกร.ในวันนี้หรือไม่

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า วันเดียวกันนี้ นางพรทิวาจะร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการ (เวิร์กชอป) เรื่อง ยุทธศาสตร์การบริหารจัดการตลาดและราคาสินค้า ร่วมกับภาคเอกชน 170 คน ได้แก่ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมการค้า กลุ่มธุรกิจผู้ผลิตอาหาร กลุ่มธุรกิจผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มธุรกิจผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า ห้างค้าปลีกค้าส่ง โรงแรม โรงพยาบาล ภัตตาคาร โรงภาพยนตร์ ค่ายเพลง สหกรณ์รถแท๊กซี่ หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดแนวทางลดค่าครองชีพร่วมกัน ซึ่งคาดว่าจะมีการประกาศข่าวดีถึงการขอความร่วมมือให้สินค้าในกลุ่มเป้าหมาย 50 รายการปรับลดราคาลงมา

***บิ๊กโฟร์หวั่นกระทบแผนลงทุน

แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการค้าปลีก กล่าวให้ความเห็นว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด ของเรื่องดังกล่าวนี้แต่อย่างใด แต่หากออกมาจริงถือว่าเป็นเรื่องที่จะสร้างความไม่ชอบธรรมให้กับผู้ประกอบการอย่างมาก เพระผู้ประกอบการค้าปลีก 4 รายใหญ่นี้ก็ถือว่า เข้ามาทำธุรกิจในไทยอย่างถูกต้อง สร้างความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภคในการจับจ่ายซื้อสินค้าราคาต่ำ

แหล่งข่าวกล่าวว่า การขยายสาขาใหม่ๆของผู้ประกอบการแต่เดิมก็ต้องขออนุญาตจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว ไม่ได้ขยายสาขาโดยพลการ ดังนั้นการที่จะมีกฎหมายใหม่นี้เข้ามาควบคุมอีกก็ยิ่งเพิ่มภาระให้กับผู้ประกอบการมากขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตาม การที่ภาครัฐมักจะอ้างว่า ธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่มักจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้ร้านค้าปลีกโชวห่วยดั้งเดิมของไทยต้องได้รับผลกระทบอย่างมากนั้น และที่ผ่านมาก็ต้องปิดตัวเองไปเป็นจำนวนมาก เพราะได้รับผลกระทบจากค้าปลีกขนาดใหญ่ที่เปิดสาขาจำนวนมาก ซึ่งจริงๆแล้วหากมองให้เป็นธรรม ร้านโชห่วยที่ล้มหายตายจากไปนั้น มีต้นเหตุมาจากการรุกขยายสาขาของเซเว่นอีเลฟเว่นมากกว่า เพราะถือเป็นธุรกิจประเภทเดียวกันที่เน้นความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภคตั้งอยู่ตามย่านชุมชนต่างๆ

แหล่งข่าวกล่าวว่า ทุกวันนี้มีกฎหมาต่างๆที่เข้ามาควบคุมการขยายธุรกิจ การทำธุรกิจของพวกค้าปลีกรายใหญ่หรือไฮเปอร์มาร์เก็ตอยู่แล้ว ทั้งพรบ.ผังเมือง กฎหมายควบคุมอาคาร เป็นต้น ที่จะเข้ามาควบคุมในการขยายสาขาเพราะต้องขออนุญาติ ไม่ใช่ว่าจะขยายได้ตามความสะดวก มีการทำตามขั้นตอนตลอด

“เรายังไม่เห็นรายละเอียดที่ชัดเจนว่าจะเป็นอย่างไร จะทำกันแบบไหน และทำไมต้องเฉพาะเจาะจงมาคุมที่ 4 รายใหญ่นี้เท่านั้นด้วย ทั้งๆที่ผู้ประกอบการรายใหญ่ที่ใช้พื้นที่จำนวนมาก ก็มีอีกตั้งหลายราย ซึ่งถ้าหากมีกฎหมายนี้เข้ามาคุมจริงๆแล้ว คงจะยิ่งส่งผลกระทบต่อการลงทุนของค้าปลีก 4 รายใหญ่แน่นอน และต้องกระทบถึงแผนการลงทุนในไทยตามมาอีกด้วย”

ทั้งนี้ในวันนี้ทางกระทรวงพาณิชย์จะมีการเรียกผู้ประกอบการภคเอกชนที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมทำเวิร์กชอปเรื่อง ยุทธศาสตร์การบริหารจัดการตลาดและราคาสินค้า ร่วมกับภาคเอกชน 170 คน คาดว่า คงจะมีภาคเอกชนจำนวนมากสอบถามในเรื่องดังกล่าวนี้แน่นอน

สำหรับความเคลื่อนไหวของค้าปลีกขนาดใหญ่นั้นโดยเฉพาะรายใหญ่สุดอย่างเช่น กรณีของ เทสโก้โลตัส นั้น ล่าสุด นายสตีฟ แฮมเมทท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ผู้บริหารกลุ่มเทสโก้โลตัสในไทย กล่าวก่อนหน้านี้ไม่นานว่า เทสโก้โลตัสเตรียมงบประมาณการลงทุนในไทยไว้ไม่ต่ำกว่า 7,000 ล้านบาทในปีนี้ใกล้เคียงกับทุกปี เพราะยังมั่นใจในศักยภาพระยะยาวของประเทศไทย

นอกจากนั้นแล้ว เทสโก้โลตัสยังได้เพิ่มศักยภาพสาขาเดิมที่เคยเปิดไปแล้ว โดยมีแผนที่จะปรับให้เป็นรูปแบบ พลัส เทสโก้โลตัส ซึ่งเป็นรูปแบบใหม่ที่จะเพิ่มพื้นที่พลาซ่าหรือชอปปิ้งมอลล์มากขึ้นให้ใหญ่กว่าพื้นที่ขายในสโตร์ของเทสโก้โลตัสเอง เพื่อหารายได้จากการเก็บค่าเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะทยอยปรับจากสาขาเดิมอย่างต่ำ 7-8 สาขา และได้เปิดรูปแบบพลัสสาขาแรกไปแล้วที่ เทสโก้โลตัสสาขาศรีนครินทร์ ด้วยงบลงทุนขยายอีก 800 ล้านบาท

นอกจากนั้นในส่วนของเทสโก้โลตัสเอ็กซ์เพรส ก็จะขยายสาขาต่อเนื่องด้วยเช่นกันไม่ต่ำกว่าปีที่แล้วที่เปิดไป 69 สาขา

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ความพยายามขยายธุรกิจในไทยของค้าปลีกใหญ่เหล่านี้ นอกจากจะเปิดสาขาเพิ่มแล้ว ยังขยายสู่รูปแบบคอมมูนิตี้มอลล์อีกด้วย เช่น กรณีของคาร์ฟูร์ก็ทดลองเริ่มไปแล้วหลายสาขาเช่นที่อุดมสุข ส่วนเทสโก้โลตัสก็เปิดไปแล้วหลายแห่งด้วยรูปแบบที่มีถึง 3 แบรนด์เช่น โอเอซิส และปาร์ค เป็นต้น

ขณะที่บิ๊กซีเองก็มีการลงทุนในรูปแบบมินิบิ๊กซี ที่ใช้พื้นที่เล็กลงกว่าบิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์เดิม เพื่อง่ายต่อการเข้าถึงชุมชนและง่ายต่อการหาทำเลดีๆ เพราะหากใช้พื้นที่มากๆ แบบเดิมก็เป็นเรื่องที่ยากในปัจจุบันนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น