ถ้านึกถึงข้าวหน้าไก่ ทุกคนก็ต้องมุ่งตรงไปห้าแยกพลับพลาไชย เพราะชื่อเสียงที่สั่งสมมานานหลายสิบปี ด้วยรสชาติและบริการที่เป็นกันเองที่สืบทอดมาจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ทำให้วันนี้ข้าวหน้าไก่ห้าแยกพลับพลาไชย ที่มีชื่อติดหน้าร้านว่า “ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้องอาหารพูนเลิศ” ก็ยังขึ้นเป็นเบอร์ 1 รายเดียว สำหรับคนเมืองหลวง
นางสาวชยพร พูนล้ำเลิศ ทายาทร้านข้าวหน้าไก่ ห้าแยกพลับพลาไชย รุ่นที่ 3 ลูกสาวเจ้าของร้าน คือ นายชาญชัย นางนุจรี พูนล้ำเลิศ เล่าว่า สำหรับร้านข้าวหน้าไก่พูนเลิศ ได้จดทะเบียนการค้าในชื่อของ “เหลาะงาทิ้น” ที่มาของชื่อเหลาะงาทิ้น มาจาก เจ้าของสูตรที่เป็นบรรพบุรุษ คือ “นายเหลาะ” ที่เดินทางมาจากประเทศจีน และเข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่ในประเทศไทย และได้ทำข้าวหน้าไก่หาบขาย และมีสัญลักษณ์ คือ นกหวีดที่เอาไว้เป่าเรียกลูกค้า พอลูกค้าได้ยินเสียงนกหวีดก็จะออกมากินกัน ซึ่งมีลูกค้าเยอะมาก จนลูกค้าแนะนำให้ไปตั้งร้านขายได้แล้ว จึงได้ตัดสินใจมาตั้งร้านตั้งแต่บัดนั้น เป็นเวลาเกือบ ร้อยปี
จุดขายที่ทำให้ร้านข้าวหน้าไก่ห้าแยกแห่งนี้ สามารถรักษายอดขายได้เป็นอย่างดี และเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตลอด ก็มาจากการพิถีพิถัน ในทุกเรื่องโดยเฉพาะเรื่องของรสชาติที่รักษารสชาติได้คงเส้นคงวาเหมือนยุคแรกสมัยที่หาบขาย ซึ่งพิสูจน์ได้จากลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการที่เคยมากินตั้งแต่เด็กอายุ 10 ปี จนวันนี้ อายุ 30 ปี ก็ยังคงมากินอยู่ หรือ ผู้หลักผู้ใหญ่ นักชิม ทั้งหลายต่างก็เคยเป็นลูกค้าประจำที่ร้านแห่งนี้ ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ถึงความคงเส้นคงวาของรสชาติที่คงไว้มานานเฉียดร้อยปี และบริการที่เป็นกันเองในอดีตอย่างไรก็ยังคงเป็นเช่นนั้น
นางสาวชยพร เล่าว่า ด้วยชื่อเสียงของร้าน ซึ่งเป็นที่รู้จักมานาน ทำให้ที่ผ่านมามีลูกจ้างของที่ร้าน ซึ่งอยู่กับเรามาหลายปี แล้วลาออกไป และก็เอาสูตรของเราไปเปิดร้านเอง แต่ลูกค้าก็ไม่ติดเหมือนที่นี่ เพราะด้วยรสชาติ และชื่อเสียงเหมือนเป็นแบรนด์โลโก้ของทางร้าน ทำให้ลูกค้าก็ยังคงที่จะเลือกมากินที่ร้านของเรามากกว่า บางครั้งถุงใส่ซึ่งมีโลโก้ของทางร้านหมด ลูกค้ายังขอให้เราช่วยใส่นามบัตร หรือ อะไรก็ได้ที่แสดงว่า เขาได้ซื้อข้าวหน้าไก่จากร้าน เรา และเราเองก็ยังคงยืนยันว่าเราไม่มีสาขาที่ไหน
“ส่วนข้าวหน้าไก่ในชื่อของ “เหลาะงาทิ้น” นั้น นอกจาก ที่ร้านห้าแยกพลับพลาไชยแห่งนี้ แล้ว ก็มีญาติ ซึ่งเป็นลูกชายคนโตของคุณปู่ ได้แยกไปเปิดร้านขายที่สำโรง ซึ่งต่อมาร้านข้าวหน้าไก่ของคุณลุง (นายสมอาจ พูนล้ำเลิศ)ก็ได้ไปเปิดขายที่มาบุญครอง ส่วนช่องทางการขายอื่นก็จะมีในส่วนของพี่ชาย คือนายพรชัย พูนล้ำเลิศ แยกไปทำงานสายการบินบางกอกแอร์เวย์ ก็ได้รับข้าวหน้าไก่ที่ร้านแห่งนี้ ไปขายที่ โรงพยาบาลกรุงเทพฯ”
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ต้องการจะทำข้าวหน้าไก่ ขายทางร้านก็ไม่ได้หวงสูตรแต่อย่างใด เพราะที่ผ่านมา ได้มีการบอกสูตรผ่านหนังสือพิมพ์และนิตยสารหลายฉบับ ส่วนเคล็ดลับของข้าวหน้าไก่แห่งนี้ เริ่มตั้งแต่ข้าวสวย ซึ่งทางร้านเลือกใช้ข้าวสารเก่ามาหุง เพราะจะให้ข้าวที่เป็นเม็ดไม่แฉะเกินไป ส่วนไก่ถือเป็นสูตรเด็ดเฉพาะที่ทางร้านพิถีพิถัน ในการทำ เลือกใช้เนื้อไก่เฉพาะส่วนสะโพกนำมาต้มและหั่นเป็นชิ้นๆ เหมือนลูกเต๋า และนำมาต้มรวมกับน้ำซุปสูตรพิเศษ มีเคล็ดลับอยู่ที่การเคี่ยวแป้งให้เหนียวหนืดได้ที่กำลังดี ชิมรสชาติช้าวหน้าไก่ น้ำราดหอมเหนียวนุ่มรสกลมกล่อม เข้ากับเนื้อไก่นุ่มๆ ข้าวเม็ดนิ่มไม่แฉะ กินแกล้มกับพริกชี้ฟ้าสดและผักชี
ทั้งนี้ นอกจากข้าวหน้าไก่ ที่เป็นอาหารจานเด็ดของทางร้านแล้ว ก็ยังมีเมนูเด่นยอดนิยมอย่าง ข้าวเหนียวหมูแดง ที่ถือได้ว่าเป็นเมนูคู่ร้านแห่งนี้ ส่วนประกอบของเมนูได้แก่ ข้าวเหนียวนึ่งร้อน ทับด้วยหมูแดงนุ่มๆ กุนเชียงนิ่ม ราดด้วยซีอิ้วหวาน และโรยหน้าด้วยผักชีกับพริกชี้ฟ้าซอย และนอกจาก 2 จานนี้แล้วทางร้านก็ยังมีอาหารอื่นๆ ให้เลือกทานอีก เช่น บะหมี่ เกี้ยว หน้าไก่ ,ปูผัดเปรี้ยวหวานไก่ กุ้ง , ซี่โครงหมู, ยำต่างๆ เช่น ยำกุ้ง, ยำกบ และแกงจืด ฯ
โดยราคาข้าวหน้าไก่ จานละ 30 บาท ใส่ห่อ 35 บาท ส่วนข้าวเหนียวหมูแดง 35 บาท ส่วนเมนูอื่นๆ ราคาเริ่มต้นที่ 25 บาท ไปจนถึง 50 บาท สำหรับร้านแห่งนี้ ยืนยันถึงรสชาติดั้งเดิมมาตั้งแต่รุ่นปู่ ส่วนการบริการของเราเป็นลักษณะของความสนิทสนมคุ้นเคยกัน ทุกคนในร้านจะเป็นกันเองกับลูกค้า ที่ผ่านมาจะมีลูกค้าประจำค่อนข้างมาก เป็นเครื่องวัดได้ถึงการบริการ และรสชาติ ที่เป็นมาตรฐานมาจนถึงปัจจุบัน
สนใจโทร.0-2688-9254
