xs
xsm
sm
md
lg

อีเกิล 119 ยังลอยนวล-ลักบัตรเครคิตคนตายรูดส่วนตัว

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายเอกอัมรินทร์ อุราเลิศ อาสาสมัครกู้ภัย ที่ถูกออกหมายจับ
ประธานศูนย์พญาอินทรี แจงเหตุ “เอกอัมรินทร์ อุราเลิศ” อีเกิล 119 ตกเป็นผู้ต้องหาลักทรัพย์นำบัตรเครดิตผู้ประสบเหตุเพลิงไหม้คอนโดฯ หรูสี่พระยาไปรูดส่วนตัว ย้ำอีเกิล 119 พ้นสภาพสมาชิกนานแล้ว ยันไม่คิดปกป้องผู้ต้องหาถ้าได้รับการติดต่อจะแนะให้มอบตัวต่อ ตร.ทันที มองเป็นเรื่องเล็ก ผู้ต้องหาน่าจะทำด้วยอารมณ์ชั่ววูบ วอนศาลน่าจะปรานีเพราะไม่เคยกระทำความผิด

วันนี้ (12 ก.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. นายศักดิ์ศรี แสนสุข ประธานศูนย์ปฏิบัติการพิเศษพญาอินทรี และนักคอลัมนิสต์ชื่อดัง นสพ.สยามกีฬา พร้อมด้วย นายสวัสดิ์ เจริญวรชัย ผอ.หน่วยปฏิบัติการพญาอินทรีผจญเพลิง นายสมชัย บวรลาภ หน.หน่วยชุดพญาอินทรีผจญเพลิง นายธีระพล รุ่งดวงดี หน.ชุดปฏิบัติการผจญเพลิงพญาอินทรีพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่องค์กรอาสาสมัครศูนย์ปฏิบัติการพญาอินทรี กว่า 30 คน ร่วมกันจัดงานแถลงข่าวกรณีที่นายเอกอัมรินทร์ อุราเลิศ 26 ปี อาสาสมัคร รหัส อีเกิล 119 ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาลักทรัพย์ในบริเวณที่มีเหตุเพลิงไหม้ คอนโดสี่พระยาริเวอร์วิว และข้อหาใช้บัตรเครดิตของผู้อื่นโดยมิชอบ ที่ห้องหงส์ทอง โรงแรมดีลักษณ์ เพลส ถ.เพชรบุรี แขวงคลองตัน เขตวัฒนา กทม.

นายศักดิ์ศรี กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นตนเพิ่งรู้เรื่องเมื่อประมาณวันที่ 4-5 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 คนโทรศัพท์มาหาตน ทราบชื่อคนแรกว่าดาบหาญ และอีกคนยศผู้กองไม่ทราบชื่อ ทั้ง 2 รายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.พลับพลาไชย2 โทรศัพท์มาบอกตนว่ามีเรื่องลับสุดยอดจะขอปรึกษาอาจารย์หน่อย โดยให้เหตุผลว่ามีเจ้าหน้าที่ในศูนย์ของตนไปขโมยทรัพย์สินในที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ ตนจึงได้นัดเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นายไปเจอกันที่สถาบันอุเทนถวาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำเอกสารมาให้ดู เห็นว่ามีรูปใบหน้าของนายเอกอัมรินทร์ พร้อมแจ้งว่าบุคคลนี้นำบัตรเครดิตของผู้เสียหายไปรูดซื้อโทรศัพท์มือที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านถนนพระราม 4 ประมาณ 20,000 บาท แต่ข่าวใส่ไข่ไปว่า 150,000 บาท ผมจึงสงสัยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจรู้ได้อย่างไร ปรากฏว่าพนักงานขายที่เข้ากะประจำในช่องจ่ายเงินในวันและเวลาที่เกิดเหตุ ได้ยินเสียงวิทยุสื่อสารเครื่องสีแดงของนายเอกอัมรินทร์ เปิดเสียงดังมาก เมื่อตำรวจได้ฟังจากคำให้การก็พุ่งเป้าไปที่เครือข่ายอาสาสมัครหลายๆหน่วยงานที่ใช้วิทยุชนิดนี้ ซึ่งหนึ่งในหน่วยงานนั้นก็คือศูนย์ของตน

นายศักดิ์ศรี กล่าวต่อไปว่า ด้วยวิญญาณของความเป็นนักข่าวเก่า จึงอยากจะช่วยราชการ ทั้งที่จริงๆ จะบอกไปก็ได้ว่าไม่รู้จัก ผมได้เดินทางไปพบ สว.สส.สน.พลับพลาไชย 2 พร้อมกับค้นหาเอกสารหมายเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักของนายเอกอัมรินทร์นำไปให้ สำหรับนายเอกอัมรินทร์ได้มาสมัครเข้ารับอบรมเป็นสมาชิกของศูนย์พญาอินทรี เมื่อปี 2549 แต่หลังจากนั้นก็ไม่ต่ออายุ ซึ่งหมายถึงพ้นสภาพการเป็นสมาชิกไปแล้ว ขณะเดียวกัน ตนได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกอย่าง แต่สื่อมวลชนบางสำนักกลับนำเสนอข่าวออกมาว่า พญาอินทรีไม่ยอมให้ความร่วมมือ ซึ่งผมขอยืนยันว่าหากผู้ต้องหารายนี้ติดต่อมาตนจะแนะนำให้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะมันไม่ใช่เรื่องใหญ่โต เข้าใจว่าน่าจะเป็นเรื่องของอารมณ์ชั่ววูบ แต่เขาไม่เคยกระทำความผิดศาลน่าจะปราณี และตนยอมรับว่าเคยรู้จักกับนายเอกอัมรินทร์มาก่อน แต่จะไม่ปกป้องสมาชิกที่ประพฤติไม่ดีอย่างนี้ อย่างไรก็ตามทุกองค์การมีคนชั่วปะปนอยู่เสมอ ทั้งตำรวจ ทหาร แม้แต่วงการนักข่าวเองก็ดี

“สำหรับการแถลงข่าวในวันนี้ ผมไม่ได้จัดขึ้นมาเพื่อแก้ตัว หรืออ้างเหตุผลใดๆ และผมขอยืนยันว่าได้ตั้งศูนย์พญาอินทรีขึ้นมาเพื่อความบริสุทธิ์ใจ ใช้เงินส่วนตัวทำมานานกว่า 10 ปีแล้ว ปัจจุบันมีสมาชิกที่ผ่านการอบรมไปแล้ว 42 รุ่น กว่า 10,000 ไม่รวมสมาชิกต่างจังหวัด เป็นศูนย์เดียวที่จะต้องอบรม 4 วันเต็ม มีการฝึกอบรมด้านการดับเพลิงและจริยธรรมด้วย เราจะไม่เคลื่อนย้ายคนเจ็บไม่เก็บคนตาย สมาชิกคนไหนที่ประพฤติตัวไม่ดีก็พร้อมจะเอาออก หน่วยของผมไม่เคยมีปัญหายิงกับใคร เวลาที่มูลนิธิใหญ่ยิงกัน สื่อมวลชนก็ยังโดนปิดข่าวถามว่าทำไมต้องปิดก็เพราะช่วยรักษาแหล่งข่าวเอาไว้ ฝากบอกสื่อมวลชนด้วยว่างานทุกสายมีอุดมการณ์ โดยเฉพาะหนังสือพิมพ์คมชัดลึก ซึ่งเปิดประเด็นโจมตีผม พาดหัว 9 โจรกู้ภัยตัวแสบ ทั้งๆ ที่ผมเป็นที่ปรึกษาของเครือเนชั่น ไม่รู้ว่าไปทำอะไรให้ใครเสียผลประโยชน์บ้างหรือเปล่า อย่างท่านสุทธิชัย หยุ่น เจ้าของรหัสเรียกขาน อีเกิลปาปา 01 ก็ยังมีชื่ออยู่ในศูนย์วิทยุของผม”

ด้าน นายธีระพล กล่าวว่า วันที่เกิดเหตุตนพร้อมลูกทีมในหน่วย จำนวน 7 คนได้ไปช่วยระงับเหตุเพลิงไหม้จนกระทั่งเสร็จสิ้นในช่วงเวลา 08.00 น. ตนและลูกทีมจึงลงมาด้านล่าง พร้อมกับให้ผู้เสียหายตรวจค้นตามร่างกายว่าไม่ได้ซุกซ่อนของมีค่าหรือสิ่งของใดๆลงมา ส่วนรายงานข่าวจากสื่อมวลชนที่แจ้งว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับเจ้าหน้าที่กู้ภัย 9 คน ทางตนและลูกทีมอีก 7 คนพร้อมที่จะให้ตรวจสอบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ ส่วนนายเอกอัมรินทร์ ตนไม่รู้จักและไม่เคยเห็นหน้าเนื่องจากอยู่คนละส่วนกัน จึงไม่รู้ว่าวันเกิดเหตุขึ้นไปอยู่บนตึกด้วยหรือไม่ และไม่ทราบว่าได้ทรัพย์สินมาได้อย่างไร แต่ขอยืนยันว่าตนและลูกทีมทั้ง 7 คนไม่ได้กระทำความผิดใดๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น