xs
xsm
sm
md
lg

ตร.เตรียมขยายผลจับเพิ่ม ศึกมรดกเลือดตระกูล “นิลพัฒนากร”

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายสมชาย นิลพัฒนากร
ศึกชิงมรดกเลือดตระกูล “นิลพัฒนากร” ส่อวุ่น ตำรวจยัน 2 พี่น้องผู้ต้องหาตามหมายจับ มีหลักฐานชี้ชัดร่วมฆ่าพี่ชายในฐานะผู้จัดการมรดก เหตุขัดผลประโยชน์เงินกงสี เตรียมขยายผลจับเพิ่ม ด้าน “อัศวิน” สั่งควบคุมการสืบสวนสอบสวนอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ความจริงปรากฏออกมาชัดเจนและให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย

วันนี้ (7 พ.ค.) พ.ต.อ.ธีระพงษ์ คล้ายแก้ว ผกก.สน.พลับพลาไชย 2 เปิดเผยความคืบหน้ากรณีกองบัญชาการตำรวจนครบาลขออนุมัติหมายจับ นายสมชาย นิลพัฒนากร และ น.ส.ธัญพร นิลพัฒนากร สองพี่น้องตระกูล “นิลพัฒนากร” ซึ่งทำธุรกิจเดินเรือข้ามฝากและขนส่งสินค้าทางน้ำทั่วโลก ในข้อหาฆ่าคนตาย ภายหลังการสืบสวน พบว่า มีหลักฐานชี้ชัดว่า บุคคลทั้งสองมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรม นายสมศักดิ์ นิลพัฒนากร พี่ชายคนที่ 2 ในบรรดาพี่น้องทั้งหมด 7 คน เชื่อขัดผลประโยชน์เงินกงสีมูลค่ามหาศาล ว่า จากแนวทางการสืบสวนประกอบกับพยานหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุพบพิรุธต้องสงสัยหลายจุด รวมถึงปัญหาความขัดแย้งภายในครอบครัว เนื่องจาก นายสมศักดิ์ นิลพัฒนากร ผู้ตายเป็นผู้ได้รับมอบหมายจากพ่อแม่ให้เป็นผู้จัดการมรดกและดูแลเรื่องรายรับรายจ่ายของกิจการภายในครอบครัว

ผกก.สน.พลับพลาไชย 2 กล่าวต่อว่า จากผลการชันสูตรศพผู้ตาย พบว่า มีบาดแผลถูกกระสุนขนาด 11 มม.ยิงเข้าที่ขาทั้งสองข้าง และถูกกระสุนปืนขนาด 7.65 ยิงเข้าที่หน้าอก 1 นัดส่วนอาวุธปืนนั้นไม่ได้ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ จึงเป็นไปได้ว่าไม่น่าจะเป็นการฆ่าตัวตาย นอกจากนี้ยังพบรอยเลือดลักษณะหยดอยู่ที่พื้นเป็นจุดๆ เป็นทางยาวคล้ายกับมีการเคลื่อนย้ายลักษณะยกศพก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปถึงแต่หากเป็นการยิงตัวตายนั้นหยดเลือดจะกระจายเป็นจุดเดียวทั่วบริเวณ

ผกก.สน.พลับพลาไชย 2 กล่าวต่อว่า อาจเป็นไปได้ว่า คนที่กระทำการจะต้องมีมากกว่า 2 คนซึ่งอาจเป็นคนในครอบครัว หรือบุคคลจากภายนอกที่รับงานมาลงมือก็เป็นได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำเพิ่มเติมนายสมชาย และ น .ส.ธัญพร ที่เข้ามอบตัวตามหมายจับเมื่อค่ำวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา และมีการยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวไปในวงเงิน 4 แสนบาท เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธขอให้การในชั้นศาลเป็นสิทธิของผู้ต้องหาที่สามารถทำได้ อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนได้เตรียมขออนุมัติหมายจับผู้ร่วมกระทำการที่เกี่ยวข้องอีก 2 คนภายในสัปดาห์หน้า

ด้าน พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น.กำชับสั่งการให้ พ.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบก.จร ช่วยงานสำนักงาน ผบช.น. ควบคุมการสืบสวนสอบสวนอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ความจริงปรากฏออกมาชัดเจนและให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายให้ดำเนินการตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ โดยล่าสุดประสานไปยังพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 2 เจ้าของคดีตรวจสอบรายละเอียดข้อเท็จจริงและผลการตรวจชันสูตรศพและหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ต่างๆ

ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก เวลา 00.15 น.วันที่ 4 ม.ค.2550 พ.ต.ต.ธงชัย อยู่เกษ สารวัตรเวร สน.พลับพลาไชย 2 รับแจ้งเหตุมีคนยิงตัวตายภายในบ้านเลขที่ 1346/1 ตรอกสะพานมอญ ถ.ทรงวาด แขวงและเขตสัมพันธวงศ์ ซึ่งอาคารพาณิชย์เก่า 3 ชั้น บริเวณชั้นล่างภายในห้องน้ำ พบศพนายสมศักดิ์ นิลพัฒนากร อายุ 56 ปี นอนจมกองเลือด มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่คอด้านซ้าย มีอาวุธปืนขนาด 7.65 ตกอยู่ 1 กระบอก และยังมีปลอกระสุนปืนขนาดเดียวกันตกอยู่ 1 ปลอก จากการสอบปากคำน้องชายของผู้ตายให้การว่า พี่ชายมีโรคประจำตัวหลายโรค ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายดื่มสุราและมีปากเสียงกับน้องชาย จากนั้นได้เข้าไปในห้องน้ำแล้วยิงตัวเองเสียชีวิตด้วยอาวุธปืนที่น้องชายมอบให้ แต่เบื้องต้นตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อว่า นายสมศักดิ์ ยิงตัวตาย เนื่องจากพบพิรุธคำให้การกระทั่งพบข้อพิรุธหลายอย่าง และมีพยานหลักฐานน่าเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับบุคคลทั้งสองอย่างแน่นอน เพราะในวันเกิดเหตุมี น.ส.ธัญพร และหลานอยู่กับผู้ตาย รวม 3 คน แต่ น.ส.ธัญพร กลับโทรหานายสมชาย ให้มาบ้านที่เกิดเหตุก่อนแล้วจึงแจ้งตำรวจ ทั้งที่ตลอดเวลาที่ผ่านมา บุคคลทั้งสองพยายามยืนยันและแสดงความบริสุทธิ์ของตัวเองอยู่ตลอดเวลา แต่ตำรวจมีพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่บ่งชี้ว่า ทั้งสองเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมครั้งนี้อย่างแน่นอน

สำหรับครอบครัวดังกล่าวทำธุรกิจเรือข้ามฝากมานานนับ 30-40 ปี ตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ ซึ่งเริ่มเดินเรือเป็นเจ้าแรก โดยทิ้งมรดกตกทอดเป็นเงินกงสีจำนวนหลายสิบล้านบาทเพื่อให้ลูกหลาน และมอบหมายให้นายสมศักดิ์เป็นผู้ดูแลจัดสรรผลประโยชน์ให้พี่น้องทุกคน แต่สืบเนื่องจากผู้ตายเป็นคนโผงผาง พูดจาตรงไปตรงมา ไม่กลัวใคร ทำให้พี่น้องหลายคนไม่พอใจมา เนิ่นนานหลายปีจนกลายเป็นชนวนเหตุฆาตกรรมดังกล่าว โดยจัดฉากว่าเป็นการฆ่าตัวตายเอง เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า ก่อนที่นายสมศักดิ์ จะเสียชีวิต น่าจะมีการเจรจาตกลงอะไรกันบางอย่าง เพราะมีรอยกระสุนปืนที่ขาและหัวเข่า ก่อนจะยิงศีรษะ ขณะเดียวกัน ยังพบจดหมายลาตายในที่เกิดเหตุ แต่ปรากฏว่าข้อความในจดหมายไม่ได้เป็นลายมือของนายสมศักดิ์แต่อย่างใด
กำลังโหลดความคิดเห็น