ส.อ.ท. เสนอคลัง ตั้งกองทุน 50,000 ลบ. ดอกเบี้ยต่ำ ช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs รับมือวิกฤตการเงินจากสหรัฐฯ พร้อม เสนออีกหลายมาตรการรับรอง
นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ส.อ.ท.เตรียมเสนอ แนวทางให้กระทรวงการคลังช่วยเหลือผู้ประกอบการ ขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) โดยเสนอตั้งกองทุนเอสเอ็มอี 50,000 ล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ
นอกจากนั้น เสนอให้เตรียมรับมือกับวิกฤติการเงินโลกด้วยการดูแลสภาพล่องไม่ให้มีปัญหา กำหนดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นให้เหมาะสม หรือปรับลดลง
เร่งรัดลงทุนในโครงการเมกะโปรเจกท์ให้อุตสาหกรรมต่อเนื่องฟื้นตัว การให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกระตุ้นการลงทุนทั้งในและต่างประเทศเพื่อให้บรรยากาศการลงทุนดีขึ้น และการเร่งสร้างความเชื่อมั่นผู้บริโภคในประเทศให้กลับมาใช้จ่าย
อีกทั้งให้จัดหาวงเงิน 30,000 ล้านบาท ทดแทนวงเงินเดิมของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อให้โครงการที่เคยกู้เงินและเบิกใช้ยังไม่หมด กู้ต่อเนื่อง ลดภาษีเงินได้นิติบุคคลเหลือร้อยละ 20-25 ยกเว้นภาษีนำเข้าและอุปกรณ์ และหักค่าใช้จ่ายเป็น 2 เท่า สำหรับสินค้าที่รักษาสิ่งแวดล้อม และต้องการให้ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล และกระทรวงด้านเศรษฐกิจจากหลายพรรคการเมืองประสานงานร่วมกันรับมือวิกฤติเศรษฐกิจโลก
นายสันติ กล่าวว่า กรณีที่ ส.อ.ท.เสนอให้ลดอัตราดอกเบี้ย เพราะขณะนี้มีความจำเป็นต้องดูแลเศรษฐกิจโดยรวม เนื่องจากดอกเบี้ยหลายประเทศเริ่มมีทิศทางลดลง ซึ่งหากลดดอกเบี้ยจะทำให้ภาคเอกชนมีต้นทุนที่ต่ำลง ส่วนการ ใช้เงิน 700,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤตสถาบันการเงินในสหรัฐ คาดว่าคงยังไม่เพียงพอ เพราะต้องติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดเพื่อดูแลผลกระทบต่อเนื่อง เพราะขณะนี้ปัญหาได้แพร่กระจายไปยังยุโรป ญี่ปุ่น ซึ่งอาจจะลุกลามไปอีกหลายประเทศ และแม้จะกระทบการส่งออกของไทย แต่ยังเชื่อมั่นว่า เป้าหมายที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งไว้ว่าจะขยายตัวร้อยละ 15 น่าจะทำได้ เนื่องจากขณะนี้คำสั่งซื้อจากสหรัฐยังมีเข้ามาต่อเนื่อง อาทิ กลุ่มไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อัญมณีและสิ่งทอ มีคำสั่งซื้อมูลค่ารวมกันกว่า 10,000 ล้านบาทแล้วช่วงปลายปี