xs
xsm
sm
md
lg

ผ่อนเกณฑ์ร่วมลงทุน SMEs เสริมสภาพคล่องรับมือพิษ ศก.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายภักดิ์ ทองส้ม รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)
สสว. ผ่อนหลักเกณฑ์ร่วมลงทุน ช่วยผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงแหล่งทุนง่ายขึ้น นำไปเสริมสภาพคล่องแก่ธุรกิจ รับมือวิกฤตการเงินโลก

นายภักดิ์ ทองส้ม รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า จากผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ทำให้ผู้ประกอบการ SMEs ทั้งภาคการผลิต ภาคการค้าและการบริการ ได้รับผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ดังนั้น สสว. อยากให้ SMEs ใช้เครื่องมือทางการเงินในลักษณะของการร่วมลงทุน (Venture Capital) ซึ่งเป็นการสนับสนุนด้านเงินทุนที่สามารถสร้างความพร้อมในด้านเงินทุนให้แก่กิจการนั้นๆ ควบคู่กับการให้ความช่วยเหลือและให้คำแนะนำในด้านการดำเนินธุรกิจ การจัดการการเงิน และการวางมาตรฐานของระบบบัญชี

นายภักดิ์ เผยต่อว่า สสว. ได้ปรับหลักเกณฑ์พิจารณา เพื่อให้ SMEs เข้าถึงแหล่งทุนได้สะดวกขึ้น จากเดิมให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมที่มีนวัตกรรม (Innovation) แต่เนื่องจาก SMEs ไทยยังขาดความพร้อม จึงมีจำนวนน้อยที่สามารถเข้าสู่กระบวนการได้ ดังนั้น สสว. ปรับมามุ่งเน้นแก่ผู้ประกอบการที่สามารถผลิตสินค้าหรือบริการที่มีการสร้างมูลค่าเพิ่ม การสร้างความแตกต่าง การพัฒนาองค์ความรู้ใหม่มาต่อยอดธุรกิจ การผลิตเพื่อทดแทนการนำเข้าหรือการผลิตเพื่อการส่งออก เป็นต้น เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของ SMEs และสถานการณ์ปัจจุบันมากยิ่งขึ้น

สำหรับการร่วมลงทุน ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา พิจารณาอนุมัติให้ SMEs แล้ว จำนวน 107 ราย ทั้งกลุ่มอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ไอที ชิ้นส่วนยานยนต์ และแฟชั่น เป็นต้น คิดเป็นวงเงินร่วมลงทุนกว่า 1,800 ล้านบาท ก่อให้เกิดการลงทุนหรือมูลค่าทางเศรษฐกิจ การจ้างงานเพิ่มขึ้น และกิจการมีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 2 หมื่นล้านบาท

สำหรับมูลค่าการร่วมลงทุนในแต่ละวิสาหกิจจะมีจำนวนเงินระหว่าง 1-100 ล้านบาท ตามขนาดการลงทุนของกิจการ และยังคงมีสถานภาพเป็นเอสเอ็มอีตามประกาศกฎกระทรวงอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการ SMEs ที่ สสว. ให้ความสนใจเป็นพิเศษคือ กลุ่มวิสาหกิจพลังงานทดแทนหรือพลังงานทางเลือก กลุ่มวิสาหกิจที่ถือเป็นความสามารถหลักของประเทศ (Core Competent) อาทิ กลุ่มอาหารแปรรูป กลุ่มแฟชั่น ดีไซน์ กลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ ซึ่งครอบคลุมผู้ประกอบการรายใหม่หรือรายเดิมที่เน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มหรือสร้างความแตกต่าง โดยมูลค่าการร่วมลงทุนในแต่ละวิสาหกิจ จะมีจำนวนเงินระหว่าง 1 ล้านบาท ถึง 100 ล้านบาท ตามขนาดการลงทุนของกิจการ และยังคงมีสถานภาพเป็น SMEs ตามประกาศกฎกระทรวงอุตสาหกรรม

“การร่วมลงทุนอาจเป็นเครื่องมือใหม่ทางการเงินสำหรับผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งมักจะคุ้นเคยกับการกู้ยืมเงินจากธนาคารหรือสถาบันการเงิน แต่ก็มีข้อแตกต่างหลายประการ อาทิ การร่วมลงทุนเป็นการลดภาระดอกเบี้ยของกิจการ และประการสำคัญ ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันการขอรับการสนับสนุนเงินทุน” นายภักดิ์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น