“สุวิทย์” ยืนยันรัฐบาลให้การสนับสนุนธุรกิจเอสเอ็มอีต่อเนื่อง ทั้งด้านความรู้และนวัตกรรม ส่วนเงินทุนผ่านเอสเอ็มอีแบงก์ และกองทุนร่วมลงทุนของ สสว. แย้มอาจตั้งกองทุนใหม่ถ้าจำเป็น ชี้ให้ความสำคัญการสร้างแบรนด์มากกว่าการผลิต อีกทั้ง เร่งสนับสนุนโรงงานปรับปรุงเครื่องจักร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
วานนี้ (15 ก.พ.) นายสุวิทย์ คุณกิตติ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม แถลงร่วมกับนายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ว่า รัฐบาลยังคงให้ความสำคัญอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) โดยจะเสริมความรู้และด้านนวัตกรรม อีกทั้งให้การสนับสนุนด้านเงินทุนผ่านธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) ขณะที่สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) จะใช้กองทุนร่วมทุนช่วยอีกทาง และจัดตั้งกองทุนใหม่ถ้าจำเป็น
นายสุวิทย์ กล่าวต่อว่า จากนี้ไปกระทรวงอุตสาหกรรมจะให้ความสำคัญในการพัฒนาแบรนด์ เพราะที่ผ่านมาเน้นการผลิตมากเกินไปและไม่ประสบความสำเร็จมากนัก ส่วนโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ จะได้รับการสนับสนุนปรับเปลี่ยนเครื่องจักร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดการใช้พลังงาน ลดต้นทุน ทำให้สามารถแข่งขันต่างประเทศได้ และยังส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลง
นอกจากนั้น การแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำในนิคมอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก ว่า ที่ผ่านมากรมชลประทานดำเนินการแล้วระดับหนึ่ง แต่ยังไม่สามารถสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนได้ เพราะแหล่งน้ำจะต้องแบ่งปันให้กับภาคครัวเรือน ท่องเที่ยว การเกษตร และอุตสาหกรรม จึงมอบหมายให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ศึกษาการนำเทคโนโลยีมาบริหารจัดการน้ำต้นทุนให้พอเพียง และนำน้ำใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ ขณะที่ด้านโลจิสติกส์ กระทรวงคมนาคมจะผลักดันโครงการต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมการผลิตต่อไป นอกจากนี้ การส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมไทยในภาพรวม กระทรวงอุตสาหกรรมจะนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศช่วยการบริหารจัดการ โดยอาจให้ทดลองใช้ เพื่อให้เห็นผลในการลดต้นทุน ซึ่งหลังจากรัฐบาลแถลงนโยบายแล้ว กระทรวงอุตสาหกรรมจะเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ โดยตนจะพบปะเพื่อแลกเปลี่ยนแนวทางการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมและปัญหาต่าง ๆ ในแต่ละอุตสาหกรรมต่อไป