เอสเอ็มอีแบงก์ เล็งเพิ่มศักยภาพเอสเอ็มอีไย เตรียมดึงมือบริหารต่างชาติผู้เกษียณอายุ จีน ญี่ปุ่น เข้ามาช่วยแนะปรับปรุงการผลิตสินค้า หวังช่วยขยายตลาดส่งออกตรงกลุ่มเป้าหมาย พร้อมตั้งกองทุนหมุนเวียน ช่วยเอสเอ็มอี ไม่เกินรายละ 3-5 ล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน ชี้เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง
นายพงษ์ศักดิ์ ชิวชรัตน์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ เอสเอ็มอีแบงก์ เปิดเผยว่า ธพว.มีนโยบายที่จะเชิญกลุ่มบุคคลที่มีชื่อเสียงในประเทศต่าง ๆ ที่เคยเข้ามาทำงานในไทยเป็นเวลานาน และได้เกษียณอายุการทำงานไปแล้ว เช่น คนจีน คนญี่ปุ่น อดีตประธานบริษัท ตรีเพชร อีซูซุ ออโต้เซลส์ อดีตประธานบริษัท ซูซูกิ เป็นต้น เข้ามาเป็นที่ปรึกษาให้กับ ธพว. เพื่อเป็นผู้ชี้เป้าหมายในการส่งสินค้าเกษตรแปรรูปใน 4 อุตสาหกรรม คือ กุ้ง ไก่ สุกร และโรงสี ไปจำหน่ายในประเทศนั้น ๆ หากดึงเข้ามาเป็นที่ปรึกษาได้สำเร็จ ก็จะทำให้เอสเอ็มอีของไทยมีช่องทางในการส่งออกหรือขยายตลาดเพิ่มมากขึ้น เบื้องต้นได้หารือกับสมาคมคนญี่ปุ่นที่รักเมืองไทยได้สำเร็จแล้ว คาดว่าจะร่วมลงนามในสัญญาได้ในเร็ว ๆ นี้
“การทำตลาดส่งออกสินค้าอาหารแปรรูปเหล่านี้ไม่ได้เน้นผู้ประกอบการขนาดใหญ่ อย่างเช่น ซีพี หรือสหฟาร์ม แต่จะเน้นเพียงเอสเอ็มอีรายเล็กรายย่อยเท่านั้น เพื่อไม่ให้มีการแย่งตลาด แต่เป็นการช่วยเหลือเอสเอ็มอีมากกว่า เพราะในปัจจุบันผู้ประกอบการเหล่านี้มีจำนวนกว่า 1,000 ราย ที่ขอสินเชื่อจากเอสเอ็มอี รวมกันแล้วกว่า 10,000 ล้านบาท และกลายเป็นหนี้เสียกว่าร้อยละ 50 ซึ่ง ธพว.ต้องหาช่องทางช่วยเหลือผู้ประกอบการเหล่านี้” กรรมการผู้จัดการเอสเอ็มอีแบงก์กล่าว
อย่างไรก็ตามทางธนาคารฯ ยังตั้งวงเงินเพื่อให้เป็นทุนหมุนเวียน ช่วยผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็กต่อยอดธุรกิจ ไม่เกินรายละ 3-5 ล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน เพื่อช่วยเหลือเรื่องสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการรายย่อย ในช่วงที่ธนาคารพาณิชย์ต่างพากันชะลอการปล่อยสินเชื่อให้กับเอสเอ็มอี โดยธนาคารฯ เตรียมหารือคณะกรรมการ เพื่อทำเรื่องเสนอขอให้รัฐบาลช่วยสนับสนุนเรื่องดอกเบี้ยให้กับผู้ประกอบการ เพื่อให้ธนาคารฯ นำไปปล่อยกู้ เพื่อช่วยลดต้นทุนให้กับเอสเอ็มอี ที่เป็นฐานรากของเศรษฐกิจในขณะนี้ได้
