บ.อุตสาหกรรมขนมไทย เผยทิศทางส่งเสริมขนมไทยปี 2551 หันมาให้ความสำคัญกับผลไม้แปรรูปในสัดส่วนมากกว่า 70% ในขณะที่ขนมที่ทำจากแป้ง จากผลงานวิจัยพบเอสเอ็มอีไทยแข่งขันกับคู่แข่งรายใหญ่ หรือ คู่แข่งในต่างประเทศได้ยาก ด้านสสว. จัดสรรงบ 5 ล้านบาท มุ่งเน้นพัฒนา บรรจุภัณฑ์และผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามความต้องการของตลาด
นายพีรวงศ์ จาตุรงคกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทอุตสาหกรรมขนมไทย จำกัด ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เปิดเผยถึง แนวทางการส่งเสริมขนมไทยในปี 2551 ว่า ทางบริษัท จะหันไปให้ความสำคัญกับผลไม้แปรรูปมากขึ้นกว่า ขนมที่มาจากแป้ง เนื่องจากในส่วนของขนมที่ทำจากแป้งมีการแข่งขันสูงมาก ยากที่เอสเอ็มอีไทยจะสามารถแข่งขันได้ โดยมีแผนจะส่งเสริมผลไม้แปรรูปในสัดส่วน70% และขนมทำจากแป้ง 30% ซึ่งเป็นสัดส่วนที่กลับกันกับปีที่ผ่านมา
โดยในปี 2551 ทางสสว.ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลได้จัดสรรงบประมาณจำนวน 5 ล้านบาท ในการพัฒนาและส่งเสริมขนมไทย โดยแผนพัฒนามุ่งเน้นไปเชิงการตลาดเป็นหลัก ดูว่าตลาดต้องการขนมในลักษณะไหน ซึ่งจากงานวิจัยพบว่า สิ่งที่ขนมไทยต้องปรับ คือ การพัฒนาด้านบรรจุภัณฑ์ รูปลักษณ์ของตัวขนม ความวาไรตี้ของรสชาติ
ปัจจุบันบริษัทมีสมาชิก จำนวน 646 ราย จะแบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรก กลุ่มเอสเอ็มอี ที่แข็งแรงแล้ว สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ประมาณ 10 % กลุ่มที่สอง เป็นกลุ่มที่มีโอกาสทางการตลาด อยู่ในขั้นตอนการพัฒนาผลักดันเพื่อการส่งออก ประมาณ 30% และกลุ่มที่ สาม เป็นกลุ่ม ยังอยู่ในช่วงการพัฒนาอีกมาก ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มโอทอป ประมาณ 70%
ในส่วนแผนการตลาดที่ผ่านมา บริษัทยึดทำเลการขายอยู่ในท่าอากาศยานเป็นหลัก ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก มียอดขายที่ผ่านมาปีละ 50-60 ล้านบาท พร้อมกับการทำวิจัยไปด้วย แต่หลังจากที่มีการย้ายสนามบินไปยังสุวรรณภูมิ ทางบริษัทคิงส์พาวเวอร์ ซึ่งได้สิทธิ์ บริหารพื้นที่ ไม่อนุญาตให้ทางบริษัท ใช้พื้นที่เปิดร้านสวัสดี ทำให้ทางบริษัทไม่มีรายได้เข้ามา และไม่มีพื้นที่ในการทำวิจัย ทำให้งานวิจัยหยุดชะงักไปด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทมีแผนจะเข้าไปร่วมกับทางศูนย์การค้านำขนมไทยไปจัดงานแสดงสินค้า เดือนละ 1 ครั้ง เพราะพบว่า ที่ผ่านมาถ้านำขนมไทยไปวางขายโดยไม่มีการจัดกิจกรรมคนไทยจะไม่นิยมซื้อ แต่เมื่อใดมีการจัดกิจกรรม ขนมไทยกลับขายดีมาก เราจึงใช้วิธีการจัดงานแสดงสินค้า เวียนไปตามศูนย์การค้าต่างๆ เดือนละ 1 ครั้ง
ในส่วนตลาดต่างประเทศ มีการนำผู้ประกอบการไปออกบูทแสดงสินค้าในต่างประเทศด้วย ประเทศเป้าหมายของขนมไทย เป็นประเทศในแถบเอเชีย เพราะคนที่ชื่นชอบและทานขนมไทยได้ จะเป็นคนเอเชียด้วยกัน ส่วนตลาดยุโรป หรือ อเมริกา เลือกประเทศที่มีคนเอเชียหรือ คนไทยอาศัยอยู่ เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ แคนาดา เป็นต้น
นายพีรวงศ์ จาตุรงคกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทอุตสาหกรรมขนมไทย จำกัด ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เปิดเผยถึง แนวทางการส่งเสริมขนมไทยในปี 2551 ว่า ทางบริษัท จะหันไปให้ความสำคัญกับผลไม้แปรรูปมากขึ้นกว่า ขนมที่มาจากแป้ง เนื่องจากในส่วนของขนมที่ทำจากแป้งมีการแข่งขันสูงมาก ยากที่เอสเอ็มอีไทยจะสามารถแข่งขันได้ โดยมีแผนจะส่งเสริมผลไม้แปรรูปในสัดส่วน70% และขนมทำจากแป้ง 30% ซึ่งเป็นสัดส่วนที่กลับกันกับปีที่ผ่านมา
โดยในปี 2551 ทางสสว.ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลได้จัดสรรงบประมาณจำนวน 5 ล้านบาท ในการพัฒนาและส่งเสริมขนมไทย โดยแผนพัฒนามุ่งเน้นไปเชิงการตลาดเป็นหลัก ดูว่าตลาดต้องการขนมในลักษณะไหน ซึ่งจากงานวิจัยพบว่า สิ่งที่ขนมไทยต้องปรับ คือ การพัฒนาด้านบรรจุภัณฑ์ รูปลักษณ์ของตัวขนม ความวาไรตี้ของรสชาติ
ปัจจุบันบริษัทมีสมาชิก จำนวน 646 ราย จะแบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรก กลุ่มเอสเอ็มอี ที่แข็งแรงแล้ว สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ประมาณ 10 % กลุ่มที่สอง เป็นกลุ่มที่มีโอกาสทางการตลาด อยู่ในขั้นตอนการพัฒนาผลักดันเพื่อการส่งออก ประมาณ 30% และกลุ่มที่ สาม เป็นกลุ่ม ยังอยู่ในช่วงการพัฒนาอีกมาก ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มโอทอป ประมาณ 70%
ในส่วนแผนการตลาดที่ผ่านมา บริษัทยึดทำเลการขายอยู่ในท่าอากาศยานเป็นหลัก ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก มียอดขายที่ผ่านมาปีละ 50-60 ล้านบาท พร้อมกับการทำวิจัยไปด้วย แต่หลังจากที่มีการย้ายสนามบินไปยังสุวรรณภูมิ ทางบริษัทคิงส์พาวเวอร์ ซึ่งได้สิทธิ์ บริหารพื้นที่ ไม่อนุญาตให้ทางบริษัท ใช้พื้นที่เปิดร้านสวัสดี ทำให้ทางบริษัทไม่มีรายได้เข้ามา และไม่มีพื้นที่ในการทำวิจัย ทำให้งานวิจัยหยุดชะงักไปด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทมีแผนจะเข้าไปร่วมกับทางศูนย์การค้านำขนมไทยไปจัดงานแสดงสินค้า เดือนละ 1 ครั้ง เพราะพบว่า ที่ผ่านมาถ้านำขนมไทยไปวางขายโดยไม่มีการจัดกิจกรรมคนไทยจะไม่นิยมซื้อ แต่เมื่อใดมีการจัดกิจกรรม ขนมไทยกลับขายดีมาก เราจึงใช้วิธีการจัดงานแสดงสินค้า เวียนไปตามศูนย์การค้าต่างๆ เดือนละ 1 ครั้ง
ในส่วนตลาดต่างประเทศ มีการนำผู้ประกอบการไปออกบูทแสดงสินค้าในต่างประเทศด้วย ประเทศเป้าหมายของขนมไทย เป็นประเทศในแถบเอเชีย เพราะคนที่ชื่นชอบและทานขนมไทยได้ จะเป็นคนเอเชียด้วยกัน ส่วนตลาดยุโรป หรือ อเมริกา เลือกประเทศที่มีคนเอเชียหรือ คนไทยอาศัยอยู่ เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ แคนาดา เป็นต้น