หยิบของเก่าปัดฝุ่นใหม่ สร้างธุรกิจแต่งบ้านคลาสสิก

ภาพบรรยากาศหน้าร้าน Things ที่เจเจ มอลล์ชั้น 2

ของแต่งบ้านในแนวคลาสสิกย้อนยุคเป็นภาพที่ไม่ค่อยมีให้เห็นกันมากนัก ดังนั้น เมื่อมีผู้นำสินค้าประเภทนี้ออกมาจำหน่าย กลายเป็นของแปลกที่หลายคนให้ความสนใจ และสำหรับร้านThings บนชั้น 2 ของศูนย์การค้า เจ เจมอลล์ เป็นหนึ่งในร้านขายของแต่งบ้านแนวย้อนยุค ที่ถูกนำมาปรับโฉมให้เป็นของใหม่ที่ยังคงรูปลักษณ์ของงานคลาสสิก เหมือนย้อนกลับไปเมื่อ 40-50 ปี

นายปิติ ตังคโณบล เจ้าของร้าน เล่าให้ฟังว่า สำหรับร้าน Things ไม่ใช่ร้านขายของเก่า แต่คอนเซ็ปต์ของร้าน คือ ต้องการขายของแปลกหายากที่ไม่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป โดยของที่นำมาขายในร้านเป็นของชอบของตนเองทุกชิ้น
ดังนั้น ร้านแห่งนี้เกิดขึ้นมาจากความรักและความชอบของผม ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน โดยที่ไม่เคยมองในเรื่องของการตลาดว่า จะขายได้หรือไม่ หรือมีคนชอบเหมือนกับเราไหม เพียงแค่ได้ทำในสิ่งที่ชอบ และได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและพูดคุ๋ยกับคนที่ชอบของประเภทเดียวกัน

สำหรับสินค้าที่นำมาจำหน่ายภายในร้าน ไม่มีที่มาที่แน่นอน อาศัยเดินทางบ่อยและเมื่อพบของชื่นชอบในรูปลักษณ์ที่ได้ ซื้อมาและนำกลับมาทำใหม่ให้มีความสวยงามเหมือนกับออกมาจากโชว์รูม และที่สำคัญต้องใช้งานได้จริง โดยมีการทำสีใหม่ หรือ เปลี่ยนอุปกรณ์บางตัวเพื่อให้สามารถใช้งานได้ แต่ก็ยังคงรูปลักษณ์เดิมไว้ให้ได้มากที่สุด หรือแม้แต่สีก็พยายามทำสีให้เหมือนกับของเดิม สาเหตุที่ทำสินค้าออกมาให้ดูใหม่ทั้งที่งานบางชิ้นเป็นงานเก่าที่ผ่านการใช้งานมานาน เพราะลูกค้าบางคนซื้อบ้านใหม่แต่ชอบของแต่งบ้านแนวนี้ ซึ่งเขาก็ต้องการของใหม่และสวยเพื่อให้เหมาะกับบ้านหลังใหม่

“กลุ่มลูกค้าเป็นกลุ่มที่ชื่นชอบงานแปลกใหม่ หายากไม่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป โดยเฉพาะกลุ่มร้านอาหาร และสถานบันเทิง โรงแรม หรือ รีสอร์ท ที่มักจะซื้อเพื่อนำไปตกแต่งสถานที่ให้ออกมาในแนวคลาสสิกย้อนยุค โดยได้เปิดร้านแห่งนี้มาได้ประมาณ 6 เดือน ผลตอบรับค่อนข้างดีมาก มีผู้สนใจแวะเข้ามาชมสินค้าภายในร้านจำนวนมาก ถึงจะไม่ได้มาซื้อเพียงแค่มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันแค่นี้ถือว่าประสบความสำเร็จ ส่วนยอดขายก็ขึ้นอยู่กับว่าในช่วงนั้นมีสินค้าอย่างที่ลูกค้าต้องการหรือไม่”

โดยสินค้าที่จำหน่ายภายในร้านหลากหลาย แล้วแต่ว่าช่วงนั้นหาอะไรมาขาย อาทิ ตู้เย็น เก่าจากประเทศเยอรมัน ราคาขาย 38,000 บาท ซึ่งปัจจุบันกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดมีโรงงานในประเทศเยอรมันทำขึ้นมาใหม่ขายกันในหลักแสนบาท ตู้เพลง ตู้เกม ตู้น้ำมัน รูปปั้นนักร้องอมตะอย่างเอวิด ตู้ขนมไขลาน และนอกจากของเก่าที่หาซื้อมาจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ เท่าที่สามารถหามาได้แล้ว งานที่ขายภายในร้านบางชิ้นทำขึ้นมาใหม่ โดยเลียนแบบของเดิม และ ดีไซน์ใหม่ อาทิ เช่น โป๊ะไฟ ราคา 5,000 บาท นาฬิกาแขวน เป็นต้น

สัดส่วนของสินค้าที่จำหน่ายภายในร้าน จะแบ่งเป็นของเก่า ประมาณ 60% และของทำขึ้นใหม่ประมาณ 40% ซึ่งของที่ทำขึ้นใหม่เน้นดีไซน์ที่แปลกใหม่ และไปกันได้กับสินค้าที่จำหน่ายภายในร้านที่ออกแนวคลาสสิกย้อนยุค เพราะถ้ามีแต่ของเก่าทำให้สินค้าโชว์ภายในร้านจะมีจำนวนน้อย และไม่ดึงดูดสายตาลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ

ในส่วนราคาเนื่องจากเป็นงานเฉพาะกลุ่ม และเป็นของหายาก ราคาจะขึ้นอยู่กับความพอใจของทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ซึ่งงานบางชิ้นราคาค่อนข้างสูงกว่างานทั่วไป เพราะเป็นงานชิ้นเดียว ขายไปแล้วก็ไม่สามารถหาซื้อได้อีก ทั้งนี้ งานชิ้นไหนเป็นงานของใหม่ก็บอกทำขึ้นมาใหม่ ไม่มีการย้อมแมวขาย ของเก่าก็ต้องเป็นของแท้และเป็นของเก่าจริง เพราะลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนที่ชื่นชอบงานประเภทนี้และมีความรู้เรื่องเหล่านี้เป็นอย่างดี ซึ่งดูออกว่าอันไหนเก่าจริง

ปิติ หันเหชีวิตมาเป็นพ่อค้าขายของแต่งบ้านในแนวคลาสสิกย้อนยุค เพราะเกิดจากความชอบและได้เก็บสะสมของชอบเหล่านี้มานานกว่า 10 ปี และความฝันต้องการจะมีร้านในลักษณะนี้ เพื่อจะได้แลกเปลี่ยนความรู้กับคนที่ชอบงานประเภทเดียวกัน จึงได้เป็นที่มาของร้าน Things ซึ่งก่อนหน้าที่จะมาทำร้านดังกล่าว เป็นพ่อค้าขายเสื้อผ้ามาก่อน ในช่วงแรกรายได้ไม่มากเท่ากับการขายเสื้อผ้า แต่มีความสุขมากกว่า ปัจจุบันไม่ได้ทำร้านเสื้อผ้าและหันมาทำร้านนี้อย่างจริงจัง รายได้หลักหมื่นต่อเดือนใกล้เคียงร้านขายเสื้อผ้า
ตู้น้ำมันนำเข้าจากต่างประเทศ