ในภารกิจยานฉางเอ๋อ – 5 ของจีน ที่ได้มีการเก็บดินจากดวงจันทร์กลับมาศึกษายังโลกในรอบ 44 ปี โดยตัวอย่างดินที่ได้เก็บกลับมานั้น ทีมนักวิจัยจากสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติจีน (Chinese Academy of Sciences: CAS) ได้มีการนำมาศึกษาและค้นพบว่า ดินบนดวงจันทร์มีส่วนประกอบเป็นธาตุไฮโดรเจนจำนวนมาก ซึ่งสามารถที่จะทำปฏิกิริยากับธาตุอื่นๆ และเมื่อสัมผัสความร้อนที่อุณหภูมิสูงมากจะผลิตไอน้ำออกมา จึงถือเป็นการค้นพบวิธีการใช้ดินบนดวงจันทร์เพื่อผลิตน้ำสำหรับไว้ใช้ในการตั้งอาณานิคมบนดวงจันทร์ในอนาคต
ทีมวิจัย CAS เผยว่า ไฮโดรเจนเป็นธาตุลำดับที่ 1 ในตารางธาตุ เป็นหนึ่งในองค์ประกอบของน้ำ เมื่อถูกความร้อนสูง ไฮโดรเจนจะเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน-รีดักชัน (รีดอกซ์) กับออกไซด์ของเหล็กในแร่ธาตุ ทำให้เกิดธาตุเหล็กและน้ำในปริมาณมาก
เมื่อนำดินของดวงจันทร์ที่มีประกอบด้วยไฮโดรเจนในปริมาณที่สูง ไปสัมผัสกับความร้อนที่อุณหภูมิ 1,000 องศาเซลเซียส ไฮโดรเจนและออกไซด์ของแร่เหล็กที่อยู่ภายใน จะทำปฏิกิริยาเคมีที่ก่อให้เกิดไอน้ำ ซึ่งสามารถนำไปผ่านกระบวนการควบแน่นให้กลายเป็นน้ำในรูปของเหลวได้
หากมีการนำวิธีนี้ไปใช้บนดวงจันทร์ในอนาคตข้างหน้า ด้วยการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการให้ความร้อนแก่ดิน ดินบนดวงจันทร์ 1 กรัม จะสามารถผลิตน้ำได้มากถึง 76 มิลลิกรัม นั่นหมายความว่าดิน 1,000 กิโลกรัมจะสามารถผลิตน้ำได้ประมาณ 51-76 กิโลกรัม เทียบเท่ากับน้ำดื่มขวดขนาด 500 มิลลิลิตรมากกว่า 100 ขวด หรือปริมาณการบริโภคน้ำดื่มต่อวันของผู้คน 50 คน และน้ำยังสามารถนำมาแยกเป็นออกซิเจนและไฮโดรเจนด้วยวิธีอิเล็กโทรไลซิส โดยใช้ออกซิเจนในการหายใจ และไฮโดรเจนสามารถใช้เป็นแหล่งพลังงานได้
วิธีการสกัดน้ำจากดินดวงจันทร์ที่ได้ค้นพบนี้ จึงถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในแผนการสำรวจและตั้งอาณานิคมบนดวงจันทร์ เพราะหนึ่งในปัจจัยที่จะกำหนดความสำเร็จของแผนการสำรวจบนดวงจันทร์คือ “น้ำ” ทรัพยากรสำคัญที่ร่างกายของมนุษย์จะขาดไปไม่ได้
นอกจากการสกัดน้ำแล้ว ดินบนดวงจันทร์ที่หลอมละลายยังสามารถนำไปใช้ผลิตอิฐที่มีรูและเดือยสำหรับสร้างฐานบนดวงจันทร์ได้ การที่ดินของดวงจันทร์มีปริมาณไฮโดรเจนจำนวนมาก เป็นผลมากจากได้สัมผัสลมสุริยะของดวงอาทิตย์เป็นเวลาหลายพันล้านปี ซึ่งดวงจันทร์มีชั้นบรรยากาศที่บางเบาและไม่มีสนามแม่เหล็กเหมือนกับโลกจึงทำให้พื้นผิวได้รับรังสีต่างๆ จากดวงอาทิตย์ในปริมาณมาก
