วช. โชว์พลังวิจัยนวัตกรรม ผนึกกำลังขับเคลื่อนไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืน ในงาน อว.แฟร์ : SCI POWER FOR FUTURE THAILAND
เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2567 ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ร่วมประชาสัมพันธ์งาน อว.แฟร์ : SCI POWER FOR FUTURE THAILAND ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 22-28 กรกฎาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ โดยในส่วนงานต่างๆของ วช. ที่เข้าร่วมกิจกรรม อว.แฟร์ มีกิจกรรมหลักจากผลการดำเนินงานและองค์ความรู้โดดเด่นจากศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญ (Hub of Talents) และศูนย์กลางความรู้ (Hub of Knowledge) ที่เข้าร่วมจัดแสดงในงาน อว.แฟร์ : SCI POWER FOR FUTURE THAILAND ทั้งนี้ การแถลงข่าวของ วช. จัดขึ้น ณ ห้องโถงศูนย์สารสนเทศการวิจัยกลาง ด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม อาคาร วช. 8
ดร.วิภารัตน์ อ่องดี ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า การจัดงาน อว.แฟร์: SCI POWER FOR FUTURE THAILAND เป็นงานมหกรรมส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืนด้วยพลังสหวิทยาการ จัดโดยกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จากการรวมพลังของหน่วยงานภายใต้ อว. พร้อมด้วยเครือข่ายพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน และการจัดงาน อว.แฟร์ ครั้งนี้ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้นำผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่เกิดขึ้นจากศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญ (Hub of Talents) และศูนย์กลางความรู้ (Hub of Knowledge) ซึ่งเป็นการพัฒนาศักยภาพของนักวิจัยรุ่นใหม่ รวมทั้งสร้างเครือข่ายและความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยอย่างยั่งยืน ซึ่งภายในงาน ผู้เข้าชมจะได้พบกับนิทรรศการผลงานวิจัยและนวัตกรรมกว่า 100 ผลงาน จากศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญ (Hub of Talents) และศูนย์กลางความรู้ (Hub of Knowledge) ใน 5 ด้านสำคัญ ภายใต้แนวคิด “Hub of Talents & Knowledge For All” ทั้งนี้ ยังมีการประชุมในประเด็นที่น่าสนใจ อาทิ การอนุรักษ์พันธุกรรมพืชตามแนวพระราชดำริ, Future Thailand: อนาคตที่ยั่งยืน
ด้วยการศึกษา วิจัย และนวัตกรรม การเสวนาและการอบรม ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญ (Hub of Talents) และศูนย์กลางความรู้ (Hub of Knowledge) โดยผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์ รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการวิจัย กิจกรรมชิม ช็อป เพลิดเพลินกับผลิตภัณฑ์จากผลงานวิจัยและนวัตกรรม และกิจกรรมสนุกสนานอื่น ๆ อีกมากมาย อาทิ Thai Symphony Orchestra : วัฒนธรรมดนตรีเพื่อพลังสร้างสรรค์เศรษฐกิจใหม่โดยวงไทยซิมโพนีออร์เคสตร้า และการประลองยอดฝีมือเยาวชนดนตรี โดรนแปรอักษรเพื่อสนับสนุนงานพระราชพิธี ระหว่างวันที่ 22 – 28 กรกฎาคม 2567 ณ Hall 1-4 ชั้น G ZONE F,ส่วนห้องประชุมชั้น 2 และMain Stage ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
วช. หวังว่างาน อว.แฟร์: SCI POWER FOR FUTURE THAILAND จะเป็นเวทีแห่งการรวมพลังทางนวัตกรรม นําเสนอผลงานวิจัยคุณภาพสูงจาก วช. ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) ในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบสหวิทยาการของไทย
งานนี้เน้นการพัฒนาบุคลากรคุณภาพ พร้อมเผชิญการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายในโลกยุคใหม่ ผลงานวิจัยและนวัตกรรมเหล่านี้จะเป็นพลังขับเคลื่อนสําคัญ นําไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน ส่งเสริมการเติบโตของประเทศ และเตรียมความพร้อมรับมือกับอนาคตที่เปลี่ยนแปลงไว สอดรับกับนโยบายของ ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
นอกจากการแถลงข่าว ภายในงานยังมีการเสวนาศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญ (Hub of Talents) และศูนย์กลางด้านความรู้ (Hub of Knowledge) ของ วช. ดังนี้
ศาสตราจารย์ ดร.หทัยกานต์ มนัสปิยะ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จาก ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุยั่งยืนเพื่อเศรษฐกิจหมุนเวียน (Hub for Environment) กล่าวถึง การวิจัยและนวัตกรรมเพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สนับสนุนเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ รวมถึงการจัดการของเสีย มลพิษอากาศ และภูมิอากาศ พัฒนาทรัพยากรและพลังงานจากชีวมวล และส่งเสริมการเติบโตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมายปกป้องรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อลูกหลาน โดยมีส่วนร่วมของ
ทุกภาคส่วน การพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs)
รองศาสตราจารย์ ดร.ศิวเรศ อารีกิจ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จาก ศูนย์กลางความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และการวิจัยข้าวของประเทศไทย (Hub for Agriculture) กล่าวถึง การวิจัยและพัฒนาด้านเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว การพัฒนาทรัพยากรและสินค้าเกษตรมูลค่าสูง การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ การพัฒนาวิธีการทำการเกษตรอัจฉริยะ (Smart Farming) รวมถึงการเพิ่มปริมาณผลผลิต และการตอบสนองความต้องการการบริโภคในอนาคต
รองศาสตราจารย์ ดร.ต่อศักดิ์ แก้วจรัสวิไล มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จาก ศูนย์กลางความรู้ศิลปะมวยไทยสู่ระดับโลก (Hub for Society) กล่าวถึง การวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อต่อต้านคอร์รัปชัน รวมทั้งการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด รวมถึงการสร้างนวัตกรรมสังคม นวัตกรรมด้านศิลปะ และวัฒนธรรมเพื่อช่วยให้เป็นสังคมที่ปลอดภัยและน่าอยู่ และเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงทางสังคม รวมถึงการส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต
ศาสตราจารย์ ดร.ผดุงศักดิ์ รัตนเดโช มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จาก ศูนย์กลางศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญการใช้ประโยชน์จากพลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในงานวิศวกรรมทางการแพทย์ (Hub for Health) กล่าวถึง การวิจัยและพัฒนาอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ ชุดตรวจวินิจฉัย อาหาร พืชสมุนไพร รวมทั้งการดูแลป้องกันและรักษาโรคทั้งในระดับชุมชนและระดับประเทศซึ่งช่วยส่งเสริมให้ประชาชนมีสุขภาพดี และมีคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกช่วงวัยทั้งในปัจจุบันและอนาคต
รองศาสตราจารย์ ดร.สุขุม อิสเสงี่ยม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จาก ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบไมโครอิเล็กทรอนิกส์แห่งประเทศไทย (Hub for Future Technology) กล่าวถึง การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยในด้านไมโครอิเล็กทรอนิกส์ การพิมพ์ 3 มิติ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เทคโนโลยีพลาสมา
คลื่นไมโครเวฟ ชีวสารสนเทศ และเทคโนโลยีอวกาศ รวมถึงเทคโนโลยีแห่งอนาคตอื่น ๆ ซึ่งเป็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่นำพาเศรษฐกิจของประเทศไปสู่อนาคตที่ดี และให้การเจริญเติบโตของไทยเป็นไป
ตามเป้าหมายที่วางไว้
สำหรับการจัดงาน อว.แฟร์ จะมีพิธีเปิดในวันจันทร์ที่ 22 กรกฎาคม 2567 โดยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นประธานในพิธีเปิดงาน โดยในวันที่ 22 กรกฎาคม
จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าร่วมกิจกรรมตั้งแต่เวลา 16.00-20.00 น. และในวันที่ 22-28 กรกฎาคม 2567 เปิดให้ประชาชนเข้าชมงานตั้งแต่เวลา 09.00-20.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น