ภาพคลองเวนิสที่ใสจนเห็นแมงกะพรุนแหวกว่ายในน้ำเป็นกระแสฮือฮา หลังมาตรการล็อคดาวน์ทำให้การสัญจรทางน้ำเงียบสงบ แต่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ความจริงแล้วในช่วง 20-30 ปีนี้มีแมงกะพรุนเพิ่มขึ้นทุกปีในช่วงนี้ แต่เรือที่หนาแน่นในคลองทำให้แมงกะพรุนตาย
ตั้งแต่เดือน มี.ค.ที่เวนิสเริ่มมาตรการล็อคดาวน์เนื่องจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้นักท่องเที่ยวนับล้านที่มาเยือนเมืองแห่งสายน้ำหายไป การสัญจรทางน้ำก็เงียบเงียบสงบไปด้วย จากเดิมที่คราคร่ำไปด้วยเรือนานาชนิดนับหมื่นลำ ทั้งเรือโดยสาร เรือวาโปเรติ เรือกอนโดลา ที่กวนน้ำในคลองให้ขุ่นตลอดเวลา
“พืชและสัตว์ในทะเลสาบของเวนิสไม่ได้เปลี่ยนแปลงระหว่างการล็อคดาวน์ แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือโอกาสของเราที่จะได้เห็นพืชและสัตว์เหล่านั้น” แอนเดรีย มานโกนี (Andrea Mangoni) นักสัตววิทยา ซึ่งสำรวจสิ่งมีชีวิตใต้น้ำด้วยกล้องให้ข้อมูลเอเอฟพี
ภาพจากกล้องที่หย่อนลงใต้น้ำของเวนิสซึ่งปกติจะขุ่นคลั่ก เผยให้ปูที่พยายามเล่นกล้อง แมงกะพรุนขับดันตัวเองไปตามใต้ผิวน้ำ ฝูงปลาว่ายอย่างเป็นสุข สัตว์จำพวกกุ้งกั้งยึดติดกับสิ่งของจากเมืองที่ถูกโยนลงทะเล รวมทั้งสาหร่ายหลากสีที่โบกสะบัดเบาๆ ไปตามกระแสน้ำ
สถานการณ์ที่เงียบสงบทำให้มานโกนีมีโอกาสได้ค้นความความหลากหลายของระบบนิเวศในคลองเวนิสอีกครั้ง คลิปแมงกะพรุนที่แหวกว่ายเอื่อยๆ ไปตามน้ำใสในคลองที่เขาบันทึกไว้ กลายเป็นคลิปไวรัลในโลกโซเชียลมีเดีย เขาบอกว่าตอนนี้เราสามารถมองลงไปใต้พื้นผิวคลองเวนิสได้ลึก 50-60 เซ็นติเมตร หรือบางครั้งก็มองเห็นภาพใต้น้ำได้ลึกถึง 1 เมตร ทำให้เรามองเห็นสัตว์น้ำที่ปกติจะถูกน้ำขุ่นๆ บดบัง
มานโกนีกล่าวว่า ตั้งแต่เขาทำงานในเวนิสมา 20 ปี เขาไม่เคยเห็นน้ำใสอย่างนี้มาก่อน และสิ่งที่แตกต่างจากเมื่อก่อนคือพบสัตว์ตัวโตๆ ในคลองลึกเขาไปในเมืองมากขึ้น นับแต่การสัญจรทางน้ำเงียบลง
ทางด้าน มาร์โค ซิโกวินี (Marco Sigovini) นักวิจัยจากสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเลแห่งเวนิส (Institute of Marine Sciences of Venice: ISMAR-CNR) กล่าวว่า เขาได้เห็นสัตว์ทะเลในใจกลางเมืองเวนิสเป็นครั้งแรก ซึ่งพืชและสัตว์ในคลองเวนิสนั้นมีความหลากหลายมากกว่าที่หลายคนคิด และนอกจากเรือกับมลพิษที่เรือปล่อยออกมาแล้ว เสียงรบกวนซึ่งเป็นมลพิษอีกอย่างก็หายไปด้วย
ทว่าซิโกวินีไม่แปลกใจกับการค้นพบแมงกะพรุนจำนวนมาก เพราะในช่วง 20-30 ปีมานี้จำนวนแมงกะพรุนค่อยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และแมงกะพรุนเหล่านั้นก็เขามาในคลองมากขึ้นและถี่ขึ้น โดยเฉพาะช่วงเวลานี้ ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจจะมาตามกระแสน้ำ แต่โดยปกติจะมีการจราจรที่คับคั่ง ทำให้แมงกะพรุนเหล่านี้ตายได้ง่ายๆ ส่วนในระยะยาวนั้นเขาคิดว่าการล็อคดาวน์เพียงไม่กี่เดือนไม่เพียงพอที่จะเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศคลองเวนิสให้ดีขึ้นได้