xs
xsm
sm
md
lg

นานานวัตกรรมกำจัด “ยุงลาย” ด้วยวิทยาศาสตร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ดร.กนกพร บุญศิริชัย หัวหน้าโครงการวิจัยด้านชีววิทยาประยุกต์ (สทน.)
กระทรวงวิทย์ขนนานานวัตกรรมกำจัด “ยุงลาย” ตายเกลี้ยงตั้งแต่ลูกน้ำยันตัวเต็มวัยด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชู “ทำหมันยุงด้วยรังสี-ชุดทดสอบไข้เลือดออกแยกซีไรไทป์-ซีโอไรท์ทรายอะเบท และสเปรย์นาโนกันยุง” เป็นไฮไลท์

กลายเป็นโรคที่ต้องเฝ้าระวังเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ สำหรับ “โรคไข้เลือดออก” โรคที่เกิดจาก “ยุงลาย” แมลงพาหะตัวจิ๊ดริดแต่แผลงฤทธิ์รุนแรง ที่ข้อมูลจากสำนักโรคติดต่อนำโดยแมลง กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า ในปี 2558 ที่ผ่านมามีผู้ป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกสะสมมากถึง 142,925 ราย เพื่อเป็นการย้ำเตือนถึงความสำคัญของโรคไข้เลือดออก กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จึงได้รวบรวมงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของยุงลายมาเผยแพร่ เพื่อสร้างความมั่นใจในการเตรียมพร้อมรับมือกับการระบาดระลอกใหม่

ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล โฆษกกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า กระทรวงวิทยาศาสตร์มีงานวิจัยเกี่ยวกับการกำจัดและป้องกันยุงลายอันเป็นพาหะของโรคไข้เลือดออกเป็นจำนวนมาก ทั้งงานวิจัยในระดับต้นน้ำที่เป็นการมุ่งกำจัดลูกน้ำยุงลาย งานวิจัยระดับกลางน้ำที่มุ่งลดปริมาณยุงตัวเต็มวัย และงานวิจัยในระดับปลายน้ำที่เป็นการป้องกันและรักษผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อไวรัสไข้เลือดออก ทั้งที่เป็นงานวิจัยโดยหน่วยงานภายใต้การกำกับของกระทรวงโดยตรง และผลงานจากภาคเอกชนที่มีประสิทธิภาพจนได้ขึ้นบัญชีนวัตกรรมไทย

สำหรับผลงานวิจัยที่นำมาจัดแสดงมีด้วยกันหลากหลาย เริ่มต้นจาก “ผลิตภัณฑ์ป้องกันและกำจัดลูกน้ำยุงลาย ชนิดเกล็ดซีโอไลท์” งานวิจัยต่อยอดแก้ปัญหาทรายอะเบท จากบริษัท อิคาริ เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ที่พยายามแก้ปัญหาทรายอะเบทซึ่งกำจัดลูกน้ำยุงได้ดีแต่ทำให้น้ำขุ่นและมีคราบน้ำมัน ด้วยการเพิ่มสารซีโอไลท์ (Zeolite) ซึ่งมีรูพรุนสูงลงไปเคลือบทรายอะเบทซึ่งช่วยแก้ปัญหาน้ำและยังคงประสิทธิภาพการกำจัดลูกน้ำยุงได้เป็นอย่างดี จนขณะนี้ผลิตภัณฑ์นี้อยู่ระหว่างการพิจารณาขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรมไทยที่อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงวิทยาศาสตร์

ส่วนเทคโนโลยีลดจำนวนด้วยการฉายรังสีทำหมันยุงลาย จากสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (สทน.) ที่ทำร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดลก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ซึ่ง ดร.กนกพร บุญศิริชัย หัวหน้าโครงการวิจัยด้านชีววิทยาประยุกต์ (สทน.) เผยว่า สทน. ได้ดำเนินโครงการฉายรังสีแมลงวันทองซึ่งทำลายพืชผลทางการเกษตรจนประสบความสำเร็จมาแล้วระยะหนึ่ง จนมีความพร้อมในหลายๆ ด้านทั้งตัวบุคคลากรผู้เชี่ยวชาญ ห้องปฏิบัติการ และองค์ความรู้ด้านการฉายรังสีทำหมันแมลง

ช่วงต้นปี 2558 ที่มีการระบาดรุนแรงของโรคไข้เลือดออกจึงมีแนวคิดฉายรังสีเพื่อทำหมันยุงลาย โดยการนำตัวอ่อนของยุงเพศผู้ในระยะตัวโม่งมาฉายรังสีแกมมาที่ระดับความเข้ม 70 เกรย์เพื่อให้เป็นหมันก่อนปล่อยออกสู่ธรรมชาติ เพื่อให้ยุงที่เป็นหมันจะเข้าไปแย่งชิงการผสมพันธุ์กับยุงเพศเมียในธรรมชาติซึ่งจะทำให้ไข่ฝ่อซึ่งถือเป็นการกำจัดจากต้นทางที่ดี โดยเบื้องต้น ดร.กนกพร ระบุว่าจะมีการทดสอบปล่อยยุงเป็นหมันชุดแรกในพื้นที่ อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทราซึ่งเป็นเขตพื้นที่วิจัยของนักวิจัยมหาวิทยาลัยมหิดล ในเดือน เม.ย. ที่กำลังจะมาถึง

ส่วนนวัตกรรมชิ้นต่อมายังคงเป็นการควบคุมประชากรลูกน้ำยุง โดยศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ที่เป็นการใช้แบคทีเรียบาซิลัส ทูรินจิเอนซิส หรือ บีทีไอ (Bacillus thuringiensis sub.sp. Israelensis: Bti) และแบคทีเรียบาซิลัส สเฟียร์ริคัส หรือ บีเอส (Bacillus sphaericus : Bs) ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่สามารถสร้างสารพิษฆ่าลูกน้ำยุงลาย ยุงรำคาญและยุงก้นปล่องได้อย่างไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น โดยเมื่อลูกน้ำกินแบคทีเรียเข้าไป แบคทีเรียจะเข้าไปสร้างผลึกโปรตีนซึ่งมีพิษทำลายลำไส้ ทำให้ลูกน้ำตายไม่สามารถเจริญเป็นตัวเต็มวัย ซึ่งปัจจุบันบริษัท TFI Green Biotechnology ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิ์จาก สวทช.ผลิตและจัดจำหน่ายแล้วเป็นที่เรียบร้อย

สอดคล้องกับผลงานหอมไกลไล่ยุงนาน จากศูนย์นาโนเทคโนโลยี (นาโนเทค) สวทช. ที่ได้นำเอาสเปรย์นาโนอิมัลชั่นสมุนไพรไล่ยุงที่ถูกพัฒนาให้ส่งกลิ่นได้นานขึ้นจากการพัฒนาคุณสมบัติทางองค์ประกอบนาโนของน้ำมันหอมระเหย ด้วยเทคโนโลยีการกักเก็บ (Encapsulation Technology) มาจัดแสดง ทำให้น้ำมันสเปรย์ปล่อยกลิ่นไล่ยุงได้นานขึ้น อย่างน้อย 3.5 - 4.5 ชั่วโมงจากเดิมที่จะส่งกลิ่นได้เพียง 1 ชั่วโมง ซึ่งนำไปสู่การต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ข้างเคียง เช่น สเปรย์ไล่ยุงเนื้อเบา, โลชั่นไล่ยุง และแผ่นแปะไล่ยุง

ส่วนงานวิจัยปลายน้ำ สวทช.ได้นำงานวิจัยภายใต้คลัสเตอร์สุขภาพและการแพทย์ อย่างชุดตรวจโปรตีน NS1 ของไวรัสเด็งกี่ที่สามารถระบุแยกซีโรไทป์ได้ในทันที โดยการพัฒนาของนักวิจัยไบโอเทค สวทช. ร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดลมาจัดแสดง ซึ่ง ดร.ทวีศักดิ์ กออนันตกูล ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวในตอนหนึ่งบนเวทีแถลงว่า ในการวินิจฉัยโรคไข้เลือดออก นอกจากแพทย์จะต้องซักถามและสังเกตอาการเพื่อสังเกตคนไข้ว่าเป็นไข้เลือดออกหรือไม่ ยังต้องรอผลตรวจจากห้องปฏิบัติการด้วยว่าหากเป็นไข้เลือดออกจริงจะเป็นไข้เลือดออกประเภทใด ซึ่งบางครั้งการรักษาที่ไม่ทันท่วงทีอาจทำให้คนไข้ช๊อคและเสียชีวิตได้ ซึ่งชุดตรวจโปรตีน NS1 ไวรัสเด็งกี่ที่แยกซีโรไทป์ได้ทันทีนี้จะช่วยตอบโจทย์เพราะสามารถระบุชนิดไข้เลือดออกได้ทันทีซึ่งเอื้อกับการตัดสินใจรักษาของแพทย์โดยขณะนี้มีการนำร่องทดลองใช้แล้วที่โรงพยาบาลศิริราช

นอกจากนี้ ดร.ทวีศักดิ์ ยังเผยด้วยว่า สวทช.ยังมีความร่วมมือกับนักวิจัยจากจุฬามหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยมหิดล และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในการวิจัยวัคซีนไข้เลือดออกมาตั้งแต่ปี 2543 ด้วย โดยดำเนินงานทั้งวัคซีนเชื้อเป็นอ่อนฤทธิ์ วัคซีนชนิดดีเอ็นเอ และวัคซีนชนิดอนุภาคเสมือนไวรัส ซึ่งขณะนี้สร้างวัคซีนตัวเลือกได้ครบและผ่านการทดสอบในหนูทดลองทั้ง 4 ซีโรไทป์และพบว่าได้ผลดี โดยอยู่ระหว่างการทดสอบประสิทธิผลของการใช้วัคซีนลักษณะดังกล่าวในลิงจำนวนมากขึ้น และคาดว่าจะพัฒนาต่อยอดสู่การผลิตในระดับกึ่งอุตสาหกรรมเพื่อทำการทดสอบในอาสาสมัคร ระยะที่ 1 ได้ในปี 2560

"ความจริงเรายังมีนวัตกรรมตัวช่วยอื่นๆ ที่ไม่ได้นำมาจัดแสดงอีกมากมาย เช่น การพัฒนาโปรแกรมทันระบาด โดยพัฒนาระบบการสำรวจจำนวนลูกน้ำยุงลายในพื้นที่แบบแอปพลิเคชันสำหรับโทรศัพท์มือถือ ทำให้การจัดเก็บข้อมูลเป็นระบบ ซึ่งเมื่อนำมาเชื่อมโยงกับข้อมูลเชิงระบาดวิทยาและข้อมูลผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก ทำให้สามารถนำไปวิเคราะห์ได้ตามมุมมองของผู้งานและจัดทำรายงานได้อย่างอัตโนมัติ นวัตกรรมมุ้งนาโน จากการพัฒนาสารสกัดเลืยนแบบสารเก๊กฮวย ดาวเรือง เพื่อเคลือบเส้นใยสำหรับทำมุ้งที่จะทำให้ยุงเป็นอัมพาตเมื่อถูกสัมผัส และหินแก้วรูพรุนไล่ยุง โดยใช้เทคโนโลยีนาโนในการกักเก็บกลิ่นตะไคร้หอมไว้ในหินแก้วรูพรุน ทำให้สามารถไล่ยุงได้นานกว่า 2 เดือน อย่างไรก็ดีนวัตกรรมทั้งหมดเป็นแค่ทางออก เพราะการแก้ปัญหาการระบาดของยุงลายที่สำคัญที่สุดเริ่มจากครัวเรือน จึงอยากฝากให้ประชาชนช่วยกันสอดส่องแหล่งน้ำขังอันเป็นแหล่งกำเนิดของยุงลายด้วย เพื่อให้การกำจัดยุงลายมีความยั่งยืนมากที่สุด” ผอ.สวทช.กล่าว
ผลิตภัณฑ์กำจัดลูกน้ำยุงลายโดย สวทช.
ผลิตภัณฑ์ป้องกันและกำจัดลูกน้ำยุงลาย ชนิดเกล็ดซีโอไลท์ จากบริษัท อิคาริ เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
ผลิตภัณฑ์ป้องกันและกำจัดลูกน้ำยุงลาย ชนิดเกล็ดซีโอไลท์
ผลิตภัณฑ์ป้องกันและกำจัดลูกน้ำยุงลาย ชนิดเกล็ดซีโอไลท์
โลชั่นกันยุง
สเปรย์ไล่ยุง
ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล โฆษกกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ดร.ทวีศักดิ์ กออนันตกูล ผู้อำนวยการ สวทช. (คนกลาง)
ไข่ยุงลาย
ยุงลายระยะตัวโม่ง ที่ สทน.จะนำมาใช้ในขั้นตอนฉายรังสี
ยุงลายระยะลูกน้ำ
ยุงลายตัวเต็มวัย









กำลังโหลดความคิดเห็น