ในตอนที่ 2 นี้ สำหรับภารกิจพิชิตสุริยุปราคา ใต้ฟ้าขั้วโลกเหนือ ครั้งนี้เราเริ่มต้นการสำรวจสถานที่จุดถ่ายภาพและจุดสังเกตการณ์ปรากฏการณ์ ซึ่งหลังจากการตรวจสอบเบื้องต้นจากภาพถ่ายดาวเทียมจาก Google Earth เพื่อดูแนวคราสและเวลาการเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคาที่จะเกิดขึ้น
โดยทางทีมสังเกตการณ์ปรากฏการณ์ฯ ได้เดินทางล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2558 เพื่อวางแผนเลือกสถานที่สังเกตการณ์ และตรวจสอบมุมเงยของดวงอาทิตย์ขณะเกิดปรากฏการณ์ ว่าสามารถสังเกตการณ์ได้ตลอดทั้งปรากฏการณ์หรือไม่ และตำแหน่งไหนที่จะไม่ถูกภูเขาบดบัง รวมทั้งเป็นพื้นที่โล่งกว้างที่เหมาะกับการสังเกตปรากฏการณ์ที่เกิดควบคู่ระหว่างการเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคาเต็มดวง เช่น ปรากฏการณ์แถบเงา (Shadow Bands) เป็นต้น
1. สำรวจสถานที่ตั้งจุดสังเกตการณ์
จุดสังเกตการณ์ ที่ 1 เราเริ่มสำรวจสถานที่ตามแผนที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งบริเวณเกาะที่ทีมเราไปสังเกตการณ์นั้น เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวมักจะไปดูหมีขั้วโลกกันอีกด้วย ซึ่งบริเวณที่อยู่ในแนวการเกิดปรากฏการณ์ ก็เป็นที่ที่อาจจะมีหมีขั้วโลกหลุดเข้ามาได้ ซึ่งมันไม่ได้น่ารักเหมือนในการ์ตูน แต่มันกลับดุร้ายมากและมนุษย์ก็ถือว่าเป็นอาหารของมันเช่นกัน
จุดสังเกตการณ์ ที่ 2 ในจุดนี้เราได้เดินทางขึ้นไปบนภูเขาน้ำแข็ง ซึ่งเป็นจุดที่สูงขึ้นไปสามารถมองเห็นได้ทั่วทุกทิศ โดยไม่มีสิ่งบดบังทัศนียภาพในการสังเกตการ แต่สภาพอากาศบนยอดเขานั้นมันโหดร้ายมากเกินไปสำหรับการปฏิบัติงานภายใต้อุณหภูมิติลบ เพราะแค่เพียงหายใจออกมาก็กลายเป็นน้ำแข็งเกาะบริเวณหมวกคลุมหน้าแล้ว แม้แต่หยดน้ำตาที่ไหลออกมาตกลงบนแว่นตา ก็ยังกลายเป็นน้ำแข็งในเวลาไม่กี่วินาที และเพียงแค่การออกไปข้างนอกรถเพื่อออกไปเดินดูสถานที่ ทั้งหน้า มือ และเท้า ผมชาและเจ็บไปหมด ก็คงไม่ต้องพูดถึงหรอกนะครับว่า ถ้าเราปฏิบัติงานภายใต้สภาพอากาศอันโหดร้ายนี้นานกว่า 4 ชั่วโมง เราจะเป็นยังไง (แข็งตายแหง!)
จุดสังเกตการณ์ ที่ 3 และแล้วเราก็ได้จุดสังเกตการณ์ ซึ่งเป็นบริเวณจุดที่จะสามารถสังเกตปรากฏการณ์ได้ตลอดทั้งปรากฏการณ์นั้น ซึ่งเป็นบริเวณที่โล่งกว้างและมีพื้นน้ำแข็งสีขาวตลอดช่วง เหมาะกับการตั้งกล้องถ่ายภาพ รวมทั้งการสังเกตการณ์ปรากฏการณ์ข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นขณะเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคาเต็มดวง เช่น ปรากฏการณ์แถบเงา (Shadow Bands)
ปรากฏการณ์ในชั้นบรรยากาศ ที่สังเกตเห็นได้เกือบทุกวัน
ปรากฏการณ์ซันด็อก (Sun Dog) ที่เกิดระหว่างสำรวจสถานที่บริเวณยอดเขา โดยเป็นการหักเหของแสงอาทิตย์ผ่านผลึกน้ำแข็งของเมฆชั้นสูง “เซอร์รัส” (Cirrus) ที่อยู่สูงจากพื้นดินขึ้นไป 10 กิโลเมตร เมื่อแสงอาทิตย์สะท้อนจึงทำให้เกิดภาพสะท้อนของดวงอาทิตย์ขึ้นข้างๆ ดวงอาทิตย์ คล้ายมีดวงอาทิตย์ 3 ดวง ปรากฏการณ์ซันด็อกนี้เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในชั้นบรรยากาศโลก คล้ายปรากฏการณ์พระอาทิตย์ทรงกลด (Halo) แต่ปรากฏการณ์นี้จะเกิดขึ้นเมื่อแสงอาทิตย์ทำมุมกับผลึกน้ำแข็งของเมฆที่ 22 องศา และเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นและเห็นปรากฏการณ์นี้บ่อยๆ บริเวณขั้วโลกเกือบทุกวัน
2.ทดสอบอุปกรณ์ภายใต้อุณหภูมิติดลบ -25 องศาเซลเซียส
ในวันที่ 2 ของการปฏิบัติงาน หลังจากได้จุดสังเกตการณ์แล้ว ทีมสังเกตการณ์ฯ ได้ทำการทดสอบอุปกรณ์ ในการถ่ายภาพความละเอียดสูง อุปกรณ์บันทึกภาพวีดีโอความละเอียดสูง อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับศึกษาข้อมูลความสว่างขณะเกิดปรากฏการณ์ อุปกรณ์เก็บภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหวขณะเกิดปรากฏการณ์ควบคู่ระหว่างการเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคาเต็มดวง เพื่อป้องการความผิดพลาดขณะเกิดปรากฏการณ์จริง โดยสภาพอากาศ ณ บริเวณขั้วโลกนั้น มีอุณหภูมิหนาวจัด -25 องศาเซลเซียส โดยเฉลี่ย ซึ่งอุปกรณ์บางอย่างอาจไม่สามารถทำงานในอุณหภูมิที่ติดลบได้
จากการทดสอบพบว่า อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับถ่ายภาพความละเอียดสูง อุปกรณ์บันทึกภาพวีดีโอและภาพเคลื่อนไหวขณะเกิดปรากฏการณ์ควบคู่ระหว่างการเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคาเต็มดวง สามารถทำงานได้ปกติ เพียงแต่แบตเตอรี่จะทำงานได้ในเวลาที่น้อยลง 30 เปอร์เซ็นต์ แต่อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับศึกษาข้อมูลความสว่างขณะเกิดปรากฏการณ์ไม่สามารถใช้งานได้ เนื่องจากสภาพอากาศที่เย็นจัด
อุปกรณ์ถ่ายภาพปรากฏการณ์มุมแคบ
อุปกรณ์บันทึกภาพวิดีโอปรากฏการณ์
อุปกรณ์เก็บภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหวขณะเกิดปรากฏการณ์ควบคู่ระหว่างการเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคาเต็มดวง
อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับศึกษาข้อมูลความสว่างขณะเกิดปรากฏการณ์
3. ตรวจสอบสภาพอากาศล่วงหน้า
สำหรับสภาพอากาศ ณ ขั้วโลกเหนือนั้นมีอุณหภูมิแบบติดลบตลอดทั้งวันทั้งคืน ซึ่งใสช่วงที่เราเดินทางไปศึกษาปรากฏการณ์ทัศนวิสัยของท้องฟ้าส่วนมากก็เต็มไปด้วยเมฆค่อนข้างมาก แต่ในช่วงเช้าก็มักจะมีสภาพท้องฟ้าที่ใสเคลียร์ ซึ่งนั้นก็เป็นผลดีกับการถ่ายภาพปรากฏการณ์สุริยุปราคาเต็มดวง
ในการตรวจสภาพอากาศล่วงหน้านั้น เราต้องตรวจสอบสภาพอากาศในช่วงเดือนนั้นๆ ที่เราต้องการจะศึกษาปรากฏการณ์ ว่าในปีก่อนๆ ย้อนหลังไป 3-5 ปี นั้น มีสภาพท้องฟ้าโดยเฉลี่ยเป็นอย่างไร หรือเป็นช่วงของฤดูอะไร ก่อนเสมอเพื่อประกอบการพิจารณาการเลือกสถานที่ ที่จะเดินทางไปศึกษาปรากฏการณ์ ซึ่งหากค่าเฉลี่ยจากากรตรวจสอบพบว่าโดยเฉลี่ยแล้วช่วงเดือน ดังกล่าวที่เราต้องการจะไปศึกษานั้น มีสภาพท้องฟ้าที่เป็นช่วงมรสุม มีทัศนวิสัยท้องฟ้าที่ไม่เหมาะสม ก็ควรเปลี่ยนเป้าหมายเป็นที่อื่นๆ
สำหรับบริเวณ หมู่เกาะสฟาลบาร์ เมืองลองเยียร์เบียน ประเทศนอร์เวย์ ในช่วงเดือนมีนาคม นั้ยจากการตรวจสอบในรอบหลายๆ ปีที่ผ่านมามีค่าเฉลี่ยของสภาพท้องฟ้าที่ดี ทางทีมจึงเป็นสิ่งที่ช่วยในการตัดสินใจเลือกสถานที่นี้สำหรับการศึกษาสังเกตปรากฏการณ์สุริยุปราคาเต็มดวงในครั้งนี้ แต่ก็นั้นหล่ะครับ...สภาพอากาศที่เย็นสุดขั้วแบบนี้ก็มีอะไรหลายๆ อย่างที่มักเกิดขึ้นกับตัวเราได้มาลองดูกันครับว่า เราเจอะไรกันบ้าง
เอาล่ะครับ สำหรับตอนที่ 2 นี้เราก็ได้สถานที่สำหรับการถ่ายภาพปรากฏการณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้วรวมทั้งการทดสอบอุปกรร์ภายใต้สภาพอากาศที่เย็นแบบติดลบ และพบว่าอุปกรณ์อะไรบ้างที่ทำงานได้ อะไรที่ทำงานไม่ได้ ทำให้เรามีเวลาเตรียมความพร้อมกับภารกิจศึกษาปรากฏการณ์สุริยุปราคากัน ติดตามตอนสุดท้ายในคอลัมน์หน้านะครับ ว่าเราจะเก็บภาพปรากฏการณ์สวยๆ อะไรได้บ้างในคอลัมน์ต่อไปครับ
เกี่ยวกับผู้เขียน
ศุภฤกษ์ คฤหานนท์
สำเร็จการศึกษาครุศาสตรบัณฑิต สาขาฟิสิกส์ จากมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ และครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาเทคโนโลยีและการสื่อสาร จากมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
ปัจจุบันเป็นเจ้าหน้าที่สารสนเทศทางดาราศาสตร์ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สดร., เคยทำวิจัยเรื่อง การทดสอบค่าทัศนวิสัยท้องฟ้าบริเวณสถานที่ก่อสร้างหอดูดาวแห่งชาติ มีประสบการณ์ในฐานะวิทยากรอบรมการดูดาวเบื้องต้น และเป็นวิทยากรสอนการถ่ายภาพดาราศาสตร์ในโครงการประกวดภาพถ่ายดาราศาสตร์ ประจำปี 2554 ของ สดร.ในหัวข้อ “มหัศจรรย์ภาพถ่ายดาราศาสตร์ในเมืองไทย”
“คุณค่าของภาพถ่ายนั้นไม่เพียงแต่ให้ความงามด้านศิลปะ แต่ทุกภาพยังสามารถอธิบายด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์ได้อีกด้วย”
อ่านบทความ ศุภฤกษ์ คฤหานนท์ ทุกวันจันทร์ที่ 1 และ 3 ของเดือน