นอกจากภารกิจบำบัดทุกข์บำรุงสุขราษฎรแล้ว สมเด็จพระเทพฯ ยังทรงสนพระราชหฤทัยด้านดาราศาสตร์อย่างยิ่ง จนกล่าวได้ว่า ความก้าวหน้าทางด้านดาราศาสตร์ของไทยที่พัฒนาขึ้นเป็นลำดับนั้นเป็นผลพวงจากพระกรุณาธิคุณ โดยเฉพาะโครงการความร่วมมือกับต่างประเทศในหลายโครงการล้วนเป็นผลจากการเสด็จเยือนประเทศต่างๆ เพื่อประกอบพระกรณียกิจทางด้านดาราศาสตร์
เนื่องในโอกาสเจริญพระชนมายุครบ 5 รอบ 2 เม.ย. 2558 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTVผู้จัดการออนไลน์ ร่วมเทิดพระเกียรติ โดยรวบรวมพระกรณียกิจด้านดาราศาสตร์ของพระองค์ ที่ทรงมีพระกรุณาธิคุณต่อวงการวิทยาศาสตร์ไทยร่วมนำเสนอ ผ่านการถ่ายทอดจากคนวงใน รศ.บุญรักษา สุนทรธรรม ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์ (สดร.) ผู้สนองงานทางดาราศาสตร์ให้แก่พระองค์มาเป็นเวลานานกว่า 10 ปี
รศ.บุญรักษา เผยว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงใฝ่พระราชหฤทัยในกิจการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของชาติมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านดาราศาสตร์ ทรงโปรดทอดพระเนตรปรากฏการณ์ท้องฟ้าสม่ำเสมอ หลายต่อหลายครั้งที่พระองค์เสด็จประกอบพระกรณียกิจทางด้านดาราศาสตร์ทั้งในประเทศ และต่างประเทศมาเป็นเวลากว่า 25 ปี
“พระองค์มักเสด็จเป็นประธานในพิธีเปิดนิทรรศการ ศูนย์การเรียนรู้ดาราศาสตร์หลายๆ แห่งในประเทศไทย เช่น เสด็จเป็นประทานในพิธีเปิดงาน 300 ปีดาราศาสตร์ไทย และทอดพระเนตรนิทรรรศการเกี่ยวกับประวัติและพัฒนาการดาราศาสตร์ในประเทศไทย ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งสมเด็จพระนารายณ์ พระนารายณ์ราชนิเวศน์ เมื่อวันที่ 30 เม.ย.31 เสด็จเปิดอาคารศูนย์บริการสารสนเทศและฝึกอบรมทางดาราศาสตร์ และเสด็จทอดพระเนตรสถานที่ตั้งหอดูดาวแห่งชาติ ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 20 ม.ค.52” รศ.บุญรักษากล่าว
ผอ.สดร.เผยแก่ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTVผู้จัดการออนไลน์ว่า สมเด็จพระเทพฯ โปรดการสังเกตปรากฏการณ์ทางธรรมชาติทั้งสุริยปราคา จันทรุปราคา รวมไปถึงดวงดาวที่จะทรงกล้องโทรทรรศน์พร้อมบันทึกภาพด้วยพระองค์เองอยู่เสมอ นอกจากนี้ ยังทรงค้นคว้าความรู้เกี่ยวกับดวงดาวและเอกภพ และโปรดให้ผู้เชี่ยวชาญทูลเกล้าฯ รายงานข่าวสารด้านดาราศาสตร์อยู่ไม่ขาด ด้วยเหตุนี้ประชาชนชาวไทยจึงน้อมใจถวายพระสมัญญาให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเป็น เจ้าฟ้านักดาราศาสตร์”
นอกจากนี้ พระองค์ยังเสด็จไปประกอบพระราชกรณียกิจด้านดาราศาสตร์ในต่างประเทศอยู่บ่อยครั้งตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เช่น เมื่อครั้งเสด็จไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน พระองค์ได้ร่วมทอดพระเนตรกิจการของหอดูดาวยูนนาน เมืองคุนหมิง และติดตามความร่วมมือทางด้านวิจัยระหว่างหอดูดาวสิรินธร จ.เชียงใหม่ กับหอดูดาวยูนนาน เมื่อเดือน มี.ค. ปี 2538 หลังจากนั้นอีก 4 ปี ได้เสด็จไปยังพระเทศจีนอีกครั้ง เพื่อทรงงานด้านความสัมพันธ์และทรงร่วมสังเกตสุริยุปราคาที่เกิดขึ้นพอดีในวันที่ 22 ก.ค. 2552 และเมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2553 ได้เสด็จไปเยือนหอดูดาวเซร์โรปาราวัล และหอดูดาว อินเตอร์-อเมริกัน เซอร์โรโทโลโล ซึ่งเป็นหอดูดาว 2 แห่งสำคัญในสาธารณรัฐชิลี เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางด้านดาราศาสตร์ ซึ่งที่สาธารณรัฐชิลี ทาง สดร.ได้นำกล้องโทรทรรศน์ไปติดตั้งเพื่อเป็นกล้องโทรทรรศน์ของประเทศไทยประจำซีกฟ้าใต้
รศ.บุญรักษา เผยว่า เมื่อพระองค์จะเสด็จไปประกอบพระกรณียกิจด้านวิทยาศาสตร์ หรือดาราศาสตร์ยังต่างประเทศ จะโปรดให้เจ้าหน้าที่ของ สดร.โดยเสด็จฯ ด้วยตั้งแต่ยังไม่ก่อตั้งองค์กร เพื่อศึกษาการปฏิบัติงานและต่อยอดความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง และเมื่อภายหลัง สดร.ได้จัดตั้งเป็นองค์กรอย่างเป็นทางการแล้ว พระองค์ยังเสด็จเป็นประธานในพิธีเปิดหอดูดาวแห่งชาติ ที่ตั้งอยู่บนดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ ทรงวางศิลาฤกษ์หอดูดาวภูมิภาคทุกแห่ง และเมื่อหอดูดาวภูมิภาคก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมใช้งาน พระองค์เสด็จเป็นประธานในพิธีเปิดอีกด้วย ซึ่งครั้งล่าสุดที่พระองค์ทรงเยี่ยม และเสด็จมาเป็นองค์ประธาน คือ ในพิธีเปิดหอดูดาวภูมิภาค นครราชสีมา ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จ.นครราชสีมา เมื่อช่วงปลายปี 2557 นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
“พระองค์ไม่เพียงแค่สนพระราชหฤทัยเท่านั้น แต่พระองค์ คือนักปราชญ์เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านดาราศาสตร์อีกคนหนึ่งของประเทศไทย แต่ที่ทำให้ผมซาบซึ้งในพระกรุณาธิคุณของพระองค์เป็นล้นพ้น คือ พระองค์ทรงไม่เคยลืมเด็กไทย ทรงมีพระราชปรารภถึงความสำคัญของวิชาดาราศาสตร์ต่อเยาวชน ในการกระตุ้นจินตนาการอยู่ตลอด ทรงอยากทอดพระเนตรเห็นเด็กไทยใฝ่รู้ ใฝ่เรียน รู้จักแสวงหาคำตอบอย่างเป็นเหตุเป็นผล และอยากเห็นการกระจายโอกาสทางการเรียนรู้ให้เท่าเทียมกันทั่วทั้งประเทศ นอกจากนี้ น้ำพระทัยของพระองค์ยังเผื่อแผ่ไปยังประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย” รศ.บุญรักษา กล่าวถึงพระกรุณาธิคุณที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ มีต่อ สดร.
ผู้อำนวยการ สดร.เผยแก่ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTVผู้จัดการออนไลน์ ว่า ในโอกาสเจริญพระชนมายุครบ 5 รอบนี้ ทาง สดร.โดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจึงได้จัดโครงการเพื่อสนองพระดำริของพระองค์ เพื่อเป็นการกระจายโอกาสทางการศึกษาให้แก่เด็กไทยทั่วประเทศโดยการมอบสื่อการเรียนรู้ดาราศาสตร์ให้แก่โรงเรียนที่สนใจและมีความพร้อมในการดำเนินกิจกรรมทางด้านดาราศาสตร์
นอกจากนี้ สดร.ยังมีแผนในการส่งมอบกล้องโทรทรรศน์แบบสะท้อนแสงรุ่นดอปโซเนียน ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 นิ้ว กำลังขยายสูงสุด 75 เท่า ที่ประดิษฐ์ขึ้นโดย บริษัท สุวิทย์เทเลสโคป บริษัทผู้ผลิตกล้องโทรทรรศน์คุณภาพสูงฝีมือคนไทย จำนวน 5 ตัว ให้แก่ 5 โรงเรียนที่เน้นการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษา กระชับความสัมพันธ์อันดี และเป็นการเทิดพระเกียรติของพระองค์ในวาระที่จะมีพระชนมายุครบ 5 รอบอีกด้วย