รมต.กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ สปป. ลาว เยี่ยมชมหอดูดาวภูมิภาค จ.นครราชสีมา ศึกษาดูงานด้านดาราศาสตร์ พร้อมกดชัตเตอร์ภาพดาวหางเลิฟจอยอายุโคจร 8,000 ปีเป็นที่ระลึก เปรยอยากย่อส่วนท้องฟ้าจำลองของไทยไปสร้างที่ลาว หวังกระตุ้นคนลาวหันสนใจวิทย์แทนโหราศาสตร์
หลังจากเยี่ยมชมความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของไทย ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย (Science Park) ไปเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 14 ม.ค. 58 ศ.ดร.บ่อเวียงคำ วงดาลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) พร้อมคณะได้เดินทางไปทำภารกิจต่อยัง จ.นครราชสีมา เพื่อเยี่ยมชมหอดูดาวภูมิภาคเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จ.นครราชสีมา โดยสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) และมี รศ.บุญรักษา สุนทรธรรม ผู้อำนวยการ สดร. และ ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการ สดร. ให้การต้อนรับในช่วงค่ำของวันเดียวกัน
ศ.ดร.บ่อเวียงคำ เผยแก่ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์หลังเยี่ยมชมหอดูดาวภูมิภาค จ.นครราชสีมา โดยสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติว่า เป็นสถานที่ที่ดีมาก และเป็นโอกาสดีสำหรับเขาและคณะที่ได้มาเยี่ยมชม เพราะอุปกรณ์และนิทรรศการต่างๆ ภายในหอดูดาวแห่งชาติไม่ว่าจะเป็นส่วนของท้องฟ้าจำลอง หรือหอดูดาวล้วนได้มาตรฐาน และก้าวหน้าไปไกลกว่าที่เขาคิดไว้ค่อนข้างมาก
"ที่ สปป.ลาว ยังไม่มีหอดูดาวแบบนี้ มีเพียงกล้องดูดาวขนาดเล็กๆ ที่อยู่ประจำมหาวิทยาลัย ผมประทับใจมากกับท้องฟ้าจำลองของที่นี่ และกล้องดูดาวอันทันสมัยของไทย ในอนาคต สปป.ลาวอาจจะต้องขอความช่วยเหลือจากไทยในการสร้างท้องฟ้าจำลองก่อน เพราะเป็นกิจกรรมที่จะช่วยส่งเสริมความรักในวิทยาศาสตร์ของเยาวชนได้ อีกทั้งราคาของเครื่องฉายดาวก็ไม่แพงจนเกินไปที่ประเทศของเราจะลงทุน" ศ.ดร.บ่อเวียงคำกล่าว
ด้าน นายสัญญา ประเสริฐ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่ง สปป.ลาว กล่าวว่า การศึกษาทางด้านดาราศาสตร์ เป็นสิ่งที่ใหม่มากสำหรับประเทศลาว และมีคนจำนวนน้อยมากในประเทศที่มีความรู้เกี่ยวกับดาราศาสตร์ แต่การมาเยี่ยมชมหอดูดาวในครัังนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับประชาชนและเยาวชนลาวที่มีความสนใจในวิทยาศาสตร์ เพราะในอนาคตอันใกล้เขาจะปรึกษากับทางรัฐบาล เพื่อผลักดันให้มีท้องฟ้าจำลองแห่งแรกเกิดขึ้น โดยใช้หอดูดาวภูมิภาคของไทยเป็นต้นแบบ
ในส่วนของกล้องโทรทรรศน์สำหรับดูดาว เบื้องต้นก็เป็นโอกาสดีสำหรับชาว สปป.ลาวด้วย เพราะสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานกล้องดูดาวจำนวนหนึ่งเพื่อใช้ในการศึกษาของลาว เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระองค์ ผ่านทางกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของไทย นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างสูงยิ่ง
"ดาราศาสตร์สำหรับลาว เป็นสิ่งที่ไกลตัวมาก ถ้าพูดถึงโหราศาสตร์ยังจะดูเป็นที่รู้จักเสียมากกว่า เพราะเราแทบไม่มีการศึกษาหรือองค์ความรู้เกี่ยวกับด้านนี้เลย แต่เราจะพยายามผลักดันให้เกิดขึ้นให้ได้ เพราะผมประทับใจคำพูดคำหนึ่งของท่าน ผอ.สดร. ที่กล่าวว่า ดาราศาสตร์อาจไม่ได้สร้างอะไรที่เป็นรูปธรรมให้แก่เศรษฐกิจ แต่เราสร้างคน เราสร้างสังคมแห่งความตระหนักในวิทยาศาสตร์ ซึ่งผมจะนำสิ่งนี้กลับไปสานต่อที่ลาวโดยอาจจะต้องให้ไทยนี่แหละเป็นพี่เลี้ยงของเรา" นายสัญญากล่าว
ด้าน รศ.บุญรักษา สุนทรธรรม ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) กล่าวว่า การมาเยี่ยมชมหอดูดาวภูมิภาค จ.นครราชสีมา ของรัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ แห่งสปป. ลาวในครั้งนี้ เป็นการแสดงออกถึงมิตรภาพของระหว่าง 2 ประเทศ และเป็นการแสดงออกถึงศักยภาพทางด้านดาราศาสตร์ซึ่งเราถือเป็นผู้นำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งคณะผู้แทนจากลาวให้ความสนใจเป็นอย่างดี
นอกจากการเยี่ยมชมงานแล้ว คณะรัฐมนตรียังได้ขอคำแนะนำเกี่ยวกับการสร้างหอดูดาวขนาดย่อมกลับไปด้วย ซึ่ง รศ.บุญรักษาได้แนะนำว่า ควรเริ่มจากการสร้างท้องฟ้าจำลองเนื่องจากในขณะนี้มีเครื่องฉายดาวที่มีราคาถูก และกระบวนการสร้างโดมท้องฟ้าจำลองก็ทำได้ไม่ยากจนเกินไป อีกทั้ง สปป.ลาว ยังอาจมีชิ้นส่วนของอุกกาบาตหรือเศษของดาวหางค่อนข้างมาก เนื่องจากอยู่ในแนวพาดผ่านของวงแหวนแห่งไฟ (ring of fire) ทำให้การสร้างหอดูดาว หรือพิพิธภัณฑ์ดาราศาสตร์ขนาดย่อมในลาวเกิดขึ้นได้อย่างไม่น่ายากเย็น
พร้อมกันนี้ รมต.กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของลาวยังได้ร่วมกดชัตเตอร์ถ่ายภาพดาวหางเลิฟจอย ที่มีอายุการโคจร 8,000 ปีเป็นที่ระลึก และร่วมลงนามในสมุดบันทึกการเยี่ยมชมของ หอดูดาวภูมิภาค จ.นครราชสีมาด้วย
*******************************