สวทช.แนะหลักสูตรช่วยธุรกิจยุคดิจิทัล

สวทช.จับมือ กระทรวงวิทย์ฯ เปิดโต๊ะเสวนา "คุยกันฉันท์วิทย์" แลกเปลี่ยนความรู้ประเด็นดังในหัวข้อ "Digital Economy" ดัน SMEs ไทยก้าวไกลด้วยเทคโนโลยี พร้อมผุด 6 โครงการจาก สวทช. รองรับตลาดธุรกิจยุคไซเบอร์

กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)จัดเสวนา "คุยกัน ฉันท์วิทย์" เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เป็นประเด็นน่าสนใจในโลกยุคสื่อสังคมออนไลน์ในหัวข้อ "Digital Economy" เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ แก่ผู้ประกอบการ SMEs, สื่อมวลชน, บุคลากรภาครัฐ, ภาคธุรกิจและประชาชนผู้สนใจให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติของธุรกิจดิจิตอล และการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ณ ห้องโถงอาคารพระจอมเกล้า กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เมื่อวันที่ 5 พ.ย. 57

ดร.มนู อรดีดลเชษฐ์ กรรมการบริหารเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ คณะกรรมการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยากรผู้ร่วมในการเสวนาในครั้งนี้ กล่าวว่า เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไปคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ตและสมาร์ทโฟน เข้ามามีอิทธิพลต่อชีวิตคนในสังคม โลกของการตลาดและธุรกิจจึงจำเป็นต้องปรับตัวตามไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบัน ทำให้ดิจิทัลอีโคโนมี (Digital Economy) หรือ การใช้ดิจิทัลเป็นแกนสำหรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเข้ามามีบทบาทต่อสังคมมากขึ้น ผู้ประกอบการที่ต้องการพัฒนาตัวเองให้ทันต่อการขับเคลื่อนของตลาดจึงจำเป็นต้องให้ความสนใจและรู้เท่าทันการตลาดยุคดิจิทัล

ปัจจุบันผู้คนส่วนมากสามารถเข้าถึงเครื่องมือดิจิทัลได้อย่างง่ายดาย เพราะราคาที่ไม่สูงเกินเอื้อมและประโยชน์การใช้งานที่หลากหลาย แต่มีคนส่วนน้อยเท่านั้นที่สามารถใช้ความเป็นดิจิทัลเหล่านี้มาสร้างประโยชน์เพื่อเพิ่มเงินในกระเป๋าให้กับตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการ SMEs ที่สามารถใช้ช่องทางดิจิทัลเพื่อเพิ่มกำลังซื้อให้กับผลิตภัณฑ์ หรือบริการของตัวเองได้ จึงเป็นทั้งหน้าที่ของตัวผู้ประกอบการ SMEs เองและส่วนของภาครัฐที่จะต้องเข้ามาช่วยให้เกิดความรู้ ความเข้าใจเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถนำประโยชน์ของดิจิทัลมาใช้ให้เกิดมูลค่าเพิ่ม ซึ่งนอกจากจะเป็นผลดีต่อตัวธุรกิจเอง ยังส่งผลถึงจีดีพีของประเทศในระยะยาวด้วย

ทางด้าน ดร. ศิริชัย กิตติวราพงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายสถาบันวิทยาการ สวทช.ผู้ร่วมเสวนาอีกท่านหนึ่ง เผยว่า เรื่องดิจิทัลอีโคโนมีไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นประเด็นที่ทางรัฐบาลาทั้งชุดก่อนและชุดปัจจุบัน ให้ความสนใจและลงทุนไปเป็นมูลค่ามหาศาล ทั้งในเรื่องของไยแก้วนำแสง เครือข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ไวไฟ ดาวเทียมและอุปกรณ์สนับสนุนต่างๆ ซึ่งยังคงต้องมีการขยายและปรับปรุงอยู่ตลอด เพื่อให้รองรับกับการเติบโตทางดิจิทัลของคนในสังคมและสถานการณ์ปัจจุบัน ที่อีกไม่นานกำลังจะเปิดเขตเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งความเจริญก้าวหน้าทางดิจิทัลก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ต่างชาติมองเห็นและเลือกใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน

ในส่วนของ สวทช.กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ก็ได้ให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจยุคดิจิทัลเช่นเดียวกัน แต่เป็นการให้การสนับสนุนทางด้านความรู้ ความเข้าใจของบุคลากรในหน่วยงาน และบุคคลทั่วไปผ่านทางนวัตกรรมบริการ โดยจัดให้มีหลักสูตรการเรียนการสอนเพื่อเสริมสร้างกลยุทธ์เพื่อการสร้างคุณค่าเชิงธุรกิจยุคใหม่ เพื่อช่วยให้หน่วยงาน หรือองค์กรที่ต้องการทราบกระบวนการ หรือเครื่องมือ ที่จะนำไปใช้ปรับปรุงการทำงาน เพื่อลดช่องโหว่และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการแข่งขันทางธุรกิจในปัจจุบัน

หลักสูตรที่ สวทช.เปิดให้องค์กร หรือผู้สนใจเข้าร่วมได้มีอยู่ด้วยกัน 6 หลักสูตร คือ หลักสูตร GPP โปรแกรมฝึกอบรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสีเขียว ที่เหมาะสำหรับองค์กรที่มีนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม, หลักสูตร TMP โปรแกรมฝึกอบรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการจัดการขั้นสูง ที่เหมาะสำหรับผู้บริหารยุคใหม่ในองค์กรที่ต้องการใช้เทคโนโลยีในการบริหารจัดการ, หลักสูตร IPP โปรแกรมฝึกอบรมด้านนวัตกรรมเชิงปฏิบัติ ที่เหมาะสำหรับผู้ต้องการความรู้ที่นำไปใช้ประยุกต์สำหรับการสร้างสรรค์ผลงานโดยตรง, หลักสูตร S@T โปรแกรมฝึกอบรมหลักสูตรวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่หมาะสำหรับคนทุกระดับที่ต้องทำงานกับคอมพิวเตอร์ตั้งแต่การใช้งานขั้นพื้นฐานจนถึงโปรแกรมชั้นสูง และ โครงการ INH ITPE โครงการสอบมาตรฐานวิชาชีพไอทีที่ใช้เพื่อวัดผลบุคลากรในองค์กรต่างๆ โดยมีบุคลากรจาก สวทช. และผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ให้ความรู้

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดและค่าใช้จ่าย เพิ่มเติมได้ที่ www.NSTDAacademy.com/sim Call Center: 02-644-8150 (คุณฉวีวรรณ) หรือที่อีเมลล์ innovation.training@nstda.or.th