"กองแขก" โต๊ะกินข้าวแบบล้านนาพัฒนาด้วยเทคโนโลยี

โอทอปก็คือโอทอปจะเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ได้อย่างไร?? นี่คือคำพูดจากปากหลายๆคนที่ไม่เชื่อว่าวิทยาศาสตร์จะเข้ามาช่วยพัฒนางานพื้นบ้านอย่างสินค้าโอทอปของเราได้ แต่วันนี้สินค้าหลายตัวฝีมือคนไทย กำลังก้าวไกลพร้อมออกสู่สายตาคนทั้งโลกเพราะศิลปะที่คงความเป็นเอกลักษณ์ และเทคโนโลยีที่นำมาช่วยเสริมศักยภาพให้สินค้าโอทอปของไทยโดดเด่นกว่าใคร

ผลิตภัณฑ์ที่กำลังกล่าวถึงนี้ คือผลิตภัณฑ์โอทอปล้านนาจาก จ.เชียงใหม่ สินค้าที่กำเนิดขึ้นจากปรัชญาพุทธศาสนาและเอกลักษณ์ล้านนา สู่การพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์รูปแบบต่างๆ ทั้งผ้าทอ ผ้าไหม เครื่องเขิน และเซรามิก ที่ทาง สวทช. ภาคเหนือได้เข้าไปมีบทบาทในการนำวิทยาศาสตร์และการวิจัยมาใช้เพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิตให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งได้นำผลงานมาจัดแสดงไว้ที่งาน Bangkok International Gift Fair 2014 and Bangkok International Houseware Fair 2014 ครั้งที่ 38 ระหว่างวันที่ 19-23 ต.ค. ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคบางนา

ปิยฉัตร ใคร้วานิช เบอร์ทัน ผู้อำนวยการฝ่ายสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ เครือข่ายภาคเหนือ (สวทช. ภาคเหนือ) กล่าวว่า ผลงานที่ สวทช. ภาคเหนือนำมาจัดแสดงภายในครั้งนี้ เป็นผลงานของผู้ประกอบการจาก จ. เชียงใหม่ ที่อยู่ในโครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรม หรือ iTAP หน่วยงานที่ให้การสนับสนุนกับผู้ประกอบการรายย่อยที่ประสบปัญหาในการทำธุรกิจ ที่จะเข้าไปให้ความช่วยเหลือให้คำปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม รวมไปถึงการออกแบบและการเป็นสื่อกลางในการประสานติดต่อกับหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านต่างๆ เพื่อช่วยพัฒนาในผลิตภัณฑ์เกิดการพัฒนาและตอบโจทย์ได้มากที่สุด โดยความร่วมมือของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกระทรวงพาณิชย์

ผอ.สวทช. ภาคเหนือ ระบุว่า ผลิตภัณฑ์ที่ทางสวทช. กระทรวงวิทย์ฯ ได้เข้าไปมีส่วนร่วมที่ได้นำมาจัดแสดงในงานนี้ เป็นกลุ่มหัตถกรรมอุตสาหกรรมที่ใช้ชื่อรวมๆว่า "ล้านนาคอลเลคชั่น" ซึ่งเป็นโครงการของผู้ประกอบการที่มีการผลิต ผลิตภัณฑ์ที่มีรูปแบบและรากฐานมาจากล้านนาเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มโดยเฉพาะ โดยมีรูปแบบผลงาน และการเลือกใช้วัสดุที่แตกต่างกันออกไป อาทิ ไม้ ผ้า และเซรามิกส์ ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 โดยมุ่งนำเสนอผลงานศิลปกรรมพื้นบ้านสู่การออกแบบผลิตภัณฑ์ภายใต้ธีมงานว่า "กองแขก" หรือวัดกองแขก อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นวัดที่มีศิลปวัฒนธรรมงดงามโดดเด่น และสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการ ซึ่งในครั้งนี้มีผู้ประกอบการ 5 รายด้วยกันที่เข้าร่วมนำเสนอผลงานในผลิตภัณฑ์ Dinning Room ที่เป็นการรวมผลิตภัณฑ์บนโต๊ะกินข้าวไว้เป็นหนึ่งเดียว

"การรวมเอาผลิตภัณฑ์ธีมเดียวกัน มาไว้บนโต๊ะกินข้าว เป็นการเพิ่มโอกาสทางการตลาดให้กับผู้ประกอบการ เพราะการนำผลิตภัณฑ์มารวมกันจะทำให้ผู้ซื้อเกิดความสนใจและมีโอกาสในการเลือกซื้อสินค้ากลับไปมากกว่า 1 อย่าง และทำให้ผู้ประกอบการเองเกิดการพัฒนาจากการเห็นศักยภาพของสินค้าอื่นๆในกลุ่มผลิตภัณฑ์เดียวกัน ที่ในครั้งนี้เรารวม 5 สินค้าจาก 5 ผู้ประกอบการณ์เอาไว้ คือ ผ้าไหมทอนาโนรองจาน จากหจก.เพ็ญศิริไหมไทย ชุดถ้วยชามจาก บ.สยามศิลาดลพอทเทอรี่ จำกัด ผ้าเช็ดปากนาโน จากหจก.คอททอนฟาร์ม กำไลเขินคล้องผ้าเช็ดปากจาก หจก.วิชัยกุลเครื่องเขิน และแจกันเซรามิกวางเทียน จากหจก.ชวนหลงเซรามิก" ปิยฉัตร เผย

อีกด้านหนึ่งยังเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาศักยภาพงานวิจัยของตัวนักวิจัยจาก สวทช. เอง เพราะจำเป็นต้องทำงานวิจัยเพื่อตอบโจทย์ผู้ประกอบการ ทำให้ได้โจทย์วิจัยเพิ่มและขยายวงการการศึกษาออกไปเรื่อยๆ ซึ่งผลงานต่างๆที่นำมาจัดแสดงนี้ล้วนแล้วแต่ผ่านการพัฒนาด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ทั้งทางด้านนาโนเทคโนโลยีที่นำมาใช้กับสิ่งทอ จำพวกผ้าไหม ผ้ารองจาน ผ้าเช็ดปาก ช่วยกันน้ำ กันฝุ่น กันแบคทีเรีย การพัฒนาน้ำยาเคลือบสูตรพอลิเมอร์ที่ช่วยยืดอายุการใช้งานไม่ให้เครื่องเขินหลุดลอก ช่วยให้เซรามิกเงางาม รวมถึงช่วยในการพัฒนากระบวนการผลิตให้ประหยัดพลังงาน และมีกำลังการผลิตที่เพิ่มมากขึ้นในอุตสาหกรรมที่ต้องใช้เตาเผาจำพวกเซรามิกต่างๆ ปิยฉัตร ระบุ

"ของโอทอปมีดีในตัวเองอยู่แล้ว แต่จะดีได้ยิ่งขึ้นด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีลงไป สิ่งที่สวทช. ทำได้คือการให้เทคโนโลยีกับผู้ประกอบการและเป็นแม่สื่อให้ผู้ประกอบการและผู้รู้ด้านอื่นๆ มาเจอกันง่ายขึ้น เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะรายที่ไม่ใหญ่มากนักสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคง และที่สำคัญที่สุดยังเป็นการต่อลมหายใจให้ศิลปวัฒนธรรมของไทย ให้มีคุณค่าเป็นที่รู้จักอย่างแผ่ขยายไปอีกนานแสนนนานทั้งในประเทศและต่างประเทศด้วยผลิตภัณฑ์อันทรงคุณค่าที่ได้ทำขึ้นร่วมกัน" ผอ.สวทช.ภาคเหนือ เผยแก่ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์

นอกจากนี้ยังมีกลุ่มบริษัทที่เข้าร่วมโครงการล้านนาคอลเลกชั่น อีก 2 รายที่นำสินค้ามาจัดแสดงอีกด้วย คือ บริษัท เปรมประชาคอลเลคชั่น ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เซรามิกส์ และ หจก.บัวผัดแฟคทอรี่ ผู้ผลิตพรมสวยงามรูปแบบแปลกตาอีกด้วย โดยงาน Bangkok International Gift Fair 2014 and Bangkok International Houseware Fair 2014 หรืองาน BIG+BIH ครั้งที่ 38 จัดขึ้นตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 23 ต.ค. ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคบางนา