เรียกร้องหยุดเขื่อนดอนสะโฮง รักษาโลมาแม่น้ำโขงฝูงสุดท้าย

WWF - กองทุนสัตว์ป่าโลก จัดทำแบบฟอร์มลงรายชื่อออนไลน์เรียกร้องให้ยุติการก่อสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำดอนสะโฮงในแม่น้ำโขงที่เป็นภัยคุกคามต่อโลมาอิรวดีฝูงสุดท้ายซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์

WWF ได้ทำการค้นคว้าและสำรวจถึงประชากรโลมาอิรวดีทำให้ได้ทราบว่าในปัจจุบันมีเหลือเพียงประมาณ 85 ตัวเท่านั้นในระยะ 190 กิโลเมตรในแม่น้ำโขงซึ่งอยู่ระหว่างพื้นที่จังหวัดกระแจะของประเทศกัมพูชาและชายแดนของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โครงการการก่อสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำดอนสะโฮงกำลังจะเริ่มขึ้นในช่วงปลายปีนี้โดยผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการสร้างเขื่อนเป็นผลเสียต่อแหล่งที่อยู่ของโลมาอิรวดีที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้นซึ่งอาจทำให้เกิดการสูญพันธุ์ของโลมาอิรวดีหรือแม้กระทั่งการสูญพันธุ์ของสายพันธุ์อื่นๆในแม่น้ำโขงก็สามารถเป็นไปได้เช่นกัน.

“ในฐานะที่ Mega First เป็นผู้ควบคุมดูแลโครงการแต่เพียงผู้เดียว Mega First ควรออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อประเด็นนี้ทั้งในฐานะบริษัทที่มีส่วนรับผิดชอบและในฐานะหนึ่งในประชากรของโลกนี้และแสดงความนับถือต่อข้อตกลงสากลในการก่อสร้างเขื่อนที่จำเป็นจะต้องได้มาตรฐานและไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อม หากว่าโครงการนี้ดำเนินต่อไปนั่นจะหมายถึงตะปูตัวสุดท้ายที่จะตอกฝาโลงให้แก่โลมาอิรวดี ความหวังในการอนุรักษ์โลมาเหล่านี้ยังคงมีอยู่แต่ว่าความหวังเหล่านั้นอยู่ในกำมือของ Mega First” นาย จิต สัมอาต (Mr.Chhith Sam Ath) ผู้อำนวยการระดับประเทศของ WWF ประเทศกัมพูชากล่าว

Stop the Don Sahong Dam and Save Mekong Dolphins: Voices from Impacted Communities- Mr. Meas Min, Village Chief of Koh Phdao from Kent Truog on Vimeo.

ผู้ดำเนินการก่อสร้างเขื่อนวางแผนในการใช้ระเบิดจำนวนมากเพื่อทำลายหินจำนวนหลายล้านตันซึ่งจะก่อให้เกิดคลื่นเสียงที่รุนแรงจนสามารถคร่าชีวิตโลมาในแม่น้ำโขงซึ่งมีประสาทการฟังที่อ่อนไหว นอกจากนี้การก่อสร้างจำเป็นต้องเกิดการสัญจรทางน้ำจำนวนมหาศาลซึ่งจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของคุณภาพน้ำและทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำจำนวนมากจนอาจกลายเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดการสูญพันธุ์

“การลดผลกระทบจากการสร้างเขื่อนนั้นไม่สามารถลดลงได้เลยถ้าขาดการวางแผนและการจัดการที่ดีดังที่ระบุไว้ในการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของโครงการดังกล่าว ผู้อำนวยการของ Mega First ยังคงมีทางเลือก - ระหว่างการเลือกที่จะยืนหยัดเคียงข้างเพื่อนร่วมโลกและหาหนทางที่ดีกว่าเดิม หรือเดินหน้าโครงการเพื่อที่จะทำลายสายพันธุ์โลมาในแม่น้ำโขง” นาย เกอร์รี ไรอัน (Mr Gerry Ryan) ผู้เขียนผลการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการสร้างเขื่อนดอนสะโฮงชื่อ ‘เขื่อนดอนสะโฮงกับชีวิตของโลมาแม่น้ำโขง’

ก่อนหน้านี้ทางนักวิเคราะห์ของ WWF ได้ทำการเปิดเผยการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมถึงMega First ที่แสดงให้เห็นว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นนั้นสร้างความเสี่ยงให้กับแหล่งการประมงแหล่งใหญ่อีกแห่งหนึ่งของโลกและส่งผลถึงชีวิตของผู้คนกว่า 60 ล้านที่ใช้ชีวิตโดยพึ่งพาทรัพยากรจากแม่น้ำโขง ทาง Mega First ต้องทำการตัดสินใจว่าจะดำเนินการต่อไปท่ามกลางการคัดค้านของรัฐบาลกัมพูชา, องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร, ประชาคมและชุมชนท้องถิ่นหรือไม่

“เขื่อนดอนสะโฮงอาจเป็นหนึ่งในการท้าทายครั้งยิ่งใหญ่ซึ่งหากดำเนินการสร้างจริงอาจก่อให้เกิดความเสียหายถาวรต่อระบบนิเวศของแม่น้ำโขง เราเรียกร้องให้สาธารณะเข้าร่วมลงชื่อในการต่อต้านครั้งนี้ รายชื่อของทุกคนจะเป็นหนึ่งเสียงที่สามารถปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพและอนาคตของแม่น้ำโขงได้” นาย จิต สัมอาตกล่าว

ทั้งนี้ ข้อมูลจาก WWF ระบุว่า แม่น้ำโขงเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยหลากหลายทางวัฒนธรรมจากชุมชนท้องถิ่นมากมายที่ก่อให้เกิดประโยชน์ในการดำรงชีวิตที่จับต้องได้อันเป็นผลมาจากแม่น้ำโขงโดยตรง การเที่ยวชมโลมาแม่โขงเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมหลักที่สร้างความเติบโตและรายได้ให้กับชุมชนในละแวกนั้น

“นี่เป็นความรับผิดชอบของMega First ที่จำเป็นจะต้องทำให้แน่ใจได้ว่าวัตถุประสงค์ในการสร้างนั้นอยู่บนพื้นฐานความถูกต้องทางวิทยาศาสตร์ในด้านการก่อสร้างและจัดการโครงการซึ่งนั่นจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่จะเกิดกับธรรมชาติและวิถีชีวิตของชุมชนท้องถิ่น” นาย มารค กัวโชต์ (Mr.Marc Goichot) ผู้จัดการการบริหารจัดการไฟฟ้าพลังน้ำอย่างยั่งยืนของ WWF-ลุ่มแม่น้ำโขง.

WWF ระบุว่า ทางเลือกที่ดีกว่าของโครงการเขื่อนดอนสะโฮงนั้นมีอยู่จริง นั่นคือโครงการท่ากอที่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้เทียบเท่ากับโครงการเขื่อนดอนสะโฮงในค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่า และผลกระทบที่เกิดขึ้นกับธรรมชาติที่น้อยกว่าอีกด้วย รวมไปถึงสถานที่ตั้งที่จะไม่เป็นการขวางกั้นแม่น้ำโขงแต่อย่างใด แต่เป็นที่น่าเสียดายเมื่อโครงการท่ากอไม่สามารถเดินหน้าต่อได้หากว่าโครงการเขื่อนดอนสะโฮงยังคงอยู่ในการดำเนินการ

ทาง WWF จึงเรียกร้องให้ยุติการดำเนินการสร้างเขื่อนดอนสะโฮงจนกว่าจะได้ข้อสรุปถึงวิธีการที่ดีและครอบคลุมกว่าอันอยู่บนพื้นฐานของวิทยาศาสตร์รวมทั้งให้คำปรึกษากับรัฐบาล, ประชาสังคมและชุมชนที่จะได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อน