เอเอฟพี - กองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF) เผยวันนี้ (20) ว่า เขื่อนไฟฟ้าที่ลาววางแผนจะสร้างขึ้นบนลำน้ำโขงอาจจะทำให้โลมาที่ใกล้สูญพันธุ์ต้องหายไปจากสายน้ำกัมพูชา
คำแถลงของ WWF ระบุว่า หากเขื่อนดอนสะโฮง ในภาคใต้ของลาวถูกสร้างขึ้นก็จะตั้งอยู่เหนือแหล่งน้ำที่เป็นที่อยู่อาศัยของโลมาอิรวดีเพียงแค่ 1 กิโลเมตรเท่านั้น และคาดว่ามีโลมาอิรวดีอาศัยอยู่ราว 85 ตัว ซึ่งทำให้กัมพูชาเป็นหนึ่งในแหล่งอาศัยที่ใหญ่ที่สุดของสัตว์สายพันธุ์นี้ ที่มีหน้าผากนูน และจงอยปากทู่เป็นลักษณะอันโดดเด่น
นักอนุรักษ์ได้เรียกร้องให้ลาวระงับโครงการก่อสร้างเขื่อนไฟฟ้า โดยกล่าวว่า ข้อจำกัดใดๆ ก็ตามบนเส้นทางน้ำจะควบคุมจำนวนปลาที่อยู่ปลายน้ำ และตัดแหล่งอาหารของโลมา
“หากเขื่อนดอนสะโฮงถูกสร้างขึ้น ก็จะนำไปสู่การสูญพันธุ์ของโลมาแม่น้ำโขง (โลมาอิรวดี)” ชิธ แซม อัธ ผู้อำนวยการ WWF ประจำกัมพูชา กล่าวกับผู้สื่อข่าว
“โลมามีความสำคัญอย่างมากต่อกัมพูชา พวกมันช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยว พวกมันเป็นสมบัติของชาติ” ชิธ สัม อัธ กล่าว
กลุ่มนักอนุรักษ์ระบุว่า โลมาอิรวดี ยังเผชิญกับภัยคุกคามอื่นๆ นอกเหนือไปจากเขื่อน เช่น การใช้ระเบิดในการก่อสร้างอาจสร้างความเสียหายต่อระบบการได้ยินเสียงความถี่สูง ซึ่งโลมาใช้ในการนำทาง นอกจากนั้น ยังมีแนวโน้มที่คุณภาพน้ำจะแย่ลง การใช้เรือในแม่น้ำเพิ่มขึ้น และแหล่งที่อยู่อาศัยเสื่อมโทรมลงอย่างกว้างขวาง รวมทั้งความเป็นอยู่ของชาวประมงหลายหมื่นคนที่อยู่ปลายน้ำ และความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ ลาวมีมติเห็นชอบในเดือน ม.ค. ที่จะจัดการหารือเพิ่มเติมกับประเทศเพื่อนบ้านก่อนเริ่มก่อสร้างเขื่อน ซึ่งทาง WWF ได้ร้องขอให้นายกรัฐมนตรีฮุนเซน ของกัมพูชา เรียกร้องการระงับการสร้างเขื่อนชั่วคราว ในที่ประชุมคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ในเดือน เม.ย.
ในปี 2555 รัฐบาลกัมพูชาได้อนุมัติจัดตั้งเขตคุ้มครองโลมาในแม่น้ำที่มีความยาว 180 กม. ตั้งแต่จ.กระแจ๊ ไปจนถึงพรมแดนลาว.