สนช. ดันอาหารไทยเจาะตลาดญี่ปุ่น ชู “แกงเขียวหวาน” และ “ไก่กอและ” สองตัวอย่างอาหารตามมาตรฐาน “ไทยดิลิเชียส” ในงานค่ำคืนแห่งแกงไทย ได้ผลตอบรับดีเกินคาด เล็งขยายผลเชิงพาณิชย์ต่อไป
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นำ 2 เมนูเด็ดจากโครงการไทยดิลิเชียส เข้าร่วมงาน “Thai Curry Night” ซึ่งจัดโดยสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการไทยดิลิเชียสให้เป็นที่รู้จัก และยอมรับในระดับสากลมากขึ้น เมื่อปลายเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา
นายศุภชัย หล่อโลหการ ผู้อำนวยการ สนช. กล่าวว่า สนช. ได้ริเริ่มโครงการไทยดิลิเชียส (Thai Delicious) เพื่อใช้เป็นกลไกในการดำเนินงานภายใต้โครงการ “นวัตกรรมครัวไทยสู่ครัวโลก” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างมาตรฐานด้านรสชาติอาหารไทยให้ได้คุณภาพที่ไม่ผิดเพี้ยนไปจากตำรับดั้งเดิมของไทย และสามารถตอบสนองความต้องการของรสชาติอาหารไทยในตลาดต่างประเทศ ด้วยการนำองค์ความรู้ด้านคหกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร และการทดสอบทางประสาทสัมผัสมาประยุกต์ใช้ร่วมกัน
“ที่ผ่านมา สนช. ดำเนินการแล้วเสร็จไปทั้งสิ้น จำนวน 11 ตำรับ (33 สูตร) ได้แก่ ต้มยำกุ้งน้ำใส ต้มยำกุ้งน้ำข้น ผัดไทย แกงมัสมั่น แกงเขียวหวาน ข้าวซอย ไส้อั่ว น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่อง แกงเหลือง และซอสไก่กอ และจากการศึกษาความเป็นไปได้การขยายผลผลิตภัณฑ์ภายใต้โครงการไทยดิลิเชียส สู่ร้านอาหารไทยในประเทศญี่ปุ่นเมื่อเร็วๆ นี้ พบว่านอกจากร้านอาหารไทยในประเทศญี่ปุ่นจะให้ความสนใจการใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวแล้ว ยังพบว่านักธุรกิจญี่ปุ่นมีความต้องการลงทุนธุรกิจร้านอาหารไทยในรูปแบบของแฟรนไชส์เป็นจำนวนมาก อย่างบริษัท ยามาโมริ จำกัด และบริษัท ซากุระ ดินนิ่ง จำกัด” นายศุภชัย กล่าว
ในการเข้าร่วมงาน “Thai Curry Night” ในครั้งนี้ นายศุภชัย เผยว่า สนช. ได้นำรายการอาหารที่ได้รับความนิยมจากชาวญี่ปุ่นมาสาธิต ได้แก่ “แกงเขียวหวาน และซอสกอและ” ซึ่งผลปรากฏว่าผู้ประกอบการด้านธุรกิจอาหารชาวญี่ปุ่นมีความสนใจในรายการอาหารทั้ง 2 รายการนี้เป็นอย่างมาก โดยได้เข้ามาเสนอตัวที่จะเป็นคู่ค้านำรายการอาหารจากโครงการไทยดิลิเชียสมาเผยแพร่เข้าสู่ตลาดญี่ปุ่นต่อไป ทั้งนี้ สนช. มีแผนการขยายเมนูอาหารไทยให้เพิ่มมากขึ้นอีกประมาณ 5 ตำรับ โดยอยู่ในระหว่างการคัดเลือกว่าจะเป็นเมนูใดบ้าง