xs
xsm
sm
md
lg

ธุรกิจร้านอาหารติดอันดับ 1 ใน 5 ขอจดทะเบียนมากที่สุด กรมอนามัยจัดเต็ม! เร่งรับมือเออีซี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ชี้ “ธุรกิจร้านอาหาร” ติดอันดับ 1 ใน 5 ธุรกิจที่มีการขอจดทะเบียนมากที่สุด กรมอนามัยกวดเข้มมาตรฐานความสะอาดปลอดภัย ย้ำ “ผู้สัมผัสอาหาร” ต้องผ่านการอบรม และมีบัตรประจำตัว เดินหน้าจัดอบรมผู้สัมผัสอาหารทั่วประเทศให้มีความรู้ด้านสุขาภิบาลอาหาร รับประกันความสะอาด ปลอดภัย และสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค มุ่งยกระดับมาตรฐานร้านอาหารไทยตามโครงการ“ร้านอาหารไทยปลอดภัย สุขภาพดี หรือ Clean Food Good Taste Plus” เดินหน้าเตรียมความพร้อมรับมือเออีซี

นายแพทย์พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มเป็น 1 ใน 5 อันดับแรกของประเภทธุรกิจที่มีการขอจดทะเบียนจัดตั้งสูงสุดซึ่งเป็นข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ ณ เดือน พฤศจิกายน 2556

ส่วน “ผู้สัมผัสอาหาร”ซึ่งประกอบด้วย ผู้ปรุง ผู้เสิร์ฟ ผู้จำหน่ายอาหารเป็นผู้มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับความปลอดภัยของผู้บริโภคที่มาใช้บริการจากร้านอาหาร โดยจะมีบทบาทในการเลือกวัตถุดิบมาปรุง-ประกอบอาหารให้ผู้บริโภคได้รับประทาน และการควบคุมและพัฒนาสถานประกอบการด้านอาหารให้ได้มาตรฐานถูกสุขลักษณะตามกฎหมายและข้อกำหนดของท้องถิ่น

หากผู้สัมผัสอาหารปฏิบัติไม่ถูกต้องตามหลักสุขาภิบาลหรือปฏิบัติไม่ถูกสุขลักษณะที่ดีในการจำหน่ายอาหาร ความเสี่ยงก็จะตกอยู่ที่ผู้บริโภคเพราะผู้สัมผัสอาหารอาจจะเป็นพาหะนำเชื้อโรคมาสู่ผู้บริโภคจนเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้
กรมอนามัยในฐานะหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบในเรื่องความปลอดภัยของอาหารและการคุ้มครองผู้บริโภคได้มีการกระตุ้นและส่งเสริมผู้ประกอบการค้าอาหารให้พัฒนาปรับปรุงเกี่ยวกับสุขลักษณะให้ถูกหลักสุขาภิบาลทั้งในเรื่องสถานที่ อาหาร ภาชนะ สัตว์และแมลงนำโรค รวมทั้ง เรื่องผู้สัมผัสอาหาร

โดยนับตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา มีการพัฒนาหลักสูตร“การสุขาภิบาลอาหารสำหรับผู้สัมผัสอาหารตามมาตรฐานกรมอนามัย”และจัดอบรมผู้สัมผัสอาหารให้มีความรู้ด้านสุขาภิบาลอาหารและน้ำ เพื่อนำไปปฏิบัติ พัฒนาสถานประกอบการให้มีมาตรฐานดียิ่งขึ้น ล่าสุดทั่วประเทศมีผู้สัมผัสอาหารที่ผ่านการอบรมแล้ว 219,957 คน หรือประมาณร้อยละ 66

ส่วนปี 2557 นี้ กรมอนามัยได้รับความร่วมมือจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้นแบบจำนวน 40 แห่งทั่วประเทศ และด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จัดการอบรมให้กับผู้สัมผัสอาหารในจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เป็นการเตรียมพร้อมในเรื่องของผู้ประกอบการค้าอาหารและความปลอดภัยด้านอาหารในแหล่งท่องเที่ยว

โดยตั้งเป้าปีนี้ต้องจัดอบรมผู้สัมผัสอาหารให้ได้อย่างน้อย 5,000 คน ขณะนี้ มีผู้ผ่านการอบรมแล้ว 2,100 คน และได้มารับบัตรประจำตัวผู้สัมผัสอาหารในวันนี้ 300 คน โดยบัตรประจำตัวผู้สัมผัสอาหารที่ได้รับจะออกโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ระบุชื่อเจ้าของบัตรทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เพื่อเป็นเครื่องหมายยืนยันถึงความเป็นมืออาชีพของผู้สัมผัสอาหาร และผู้สัมผัสอาหารจะต้องติดบัตรทุกครั้งที่ปฏิบัติงานด้านอาหาร โดยบัตรจะมีอายุ 3 ปี หลังจากนั้นต้องเข้ารับการอบรมเพื่อต่ออายุ

นอกจากการจัดอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพผู้สัมผัสอาหารแล้ว กรมอนามัยยังได้ขับเคลื่อนงานพัฒนาสถานประกอบการด้านอาหารผ่าน“โครงการอาหารสะอาดรสชาติอร่อย" (Clean Food Good Taste) มาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2542 จนถึงปัจจุบันมีร้านค้าและแผงลอยจำหน่ายอาหารผ่านเกณฑ์การประเมินฯมากถึงร้อยละ 86.31

โดยในปี 2557 จะมีการพัฒนาร้านอาหารไทยให้ได้มาตรฐานครบทุกด้าน ทั้งด้านความสะอาด ปลอดภัย ไร้สารปนเปื้อนเพื่อส่งเสริมสุขภาพผู้บริโภค ตามโครงการ“ร้านอาหารไทยปลอดภัย สุขภาพดี หรือ Clean Food Good Taste Plus” ซึ่งได้กำหนดให้ผู้สัมผัสอาหารต้องผ่านการอบรมและมีบัตรประจำตัวผู้สัมผัสอาหารโดยข้อกำหนดนี้เป็น 1 ใน 7 ข้อหลักตามเกณฑ์ของกรมอนามัย เพื่อช่วยยกระดับมาตรฐานธุรกิจร้านอาหารไทยให้ก้าวกระโดดครั้งใหญ่สู่ความปลอดภัยด้านอาหาร

ทั้งนี้ เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการมั่นใจว่าผู้ปรุง ผู้เสิร์ฟ ผู้จำหน่ายอาหารปฏิบัติตัวถูกสุขลักษณะที่ดีในการจำหน่ายอาหาร เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้ร้านอาหารและส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว และเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการร้านอาหารของไทยรองรับการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558
กำลังโหลดความคิดเห็น