หลังจากเห็นตัวอย่างว่าญี่ปุ่นนิยมเครื่องดื่มบำรุงกำลังผสม “ขมิ้นชัน” ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจของทิปโก้จึงเกิดแนวคิดอยากนำสมุนไพรไทยมาผสมเครื่องดื่มบ้าง ทว่ารสชาติกลับอุดมด้วยกลิ่นเครื่องแกงที่ผู้บริโภคไทยยากจะยอมรับ
อนันต์ ชัยกิจวัฒนะ ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจไบโอเท็ค บริษัท ทิปโก้ ไบโอเท็ค จำกัด เผยว่าเมื่อ 3-4 ปีก่อนที่ญี่ปุ่นนิยมเครื่องดื่มบำรุงกำลังที่ผสมขมิ้นชัน และเป็นเครื่องดื่มแก้อาการเมาค้าง ซึ่งได้รับความนิยมมาก และปัจจุบันกระแสก็ยังไม่ตก จึงเกิดแนวคิดอยากลองนำขมิ้นชันของไทยมาผสมในเครื่องดื่มบ้าง แต่...
“รสชาติไม่เหมือนเครื่องดื่ม ทั้งรสทั้งกลิ่นเหมือนดื่มน้ำแกง มีตะกอน และสีเปลี่ยนเร็ว จากสีเหลืองหากทิ้งไว้นาน 1 เดือน หรือโดนความร้อนก็เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกค้าไทยยอมรับไม่ได้ ปัญหานี้ก็เจอในญี่ปุ่น แต่ผู้บริโภคเขายอดรับได้” อนันต์กล่าว
เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจของทิปโก้ได้สืบค้นข้อมูลจนทราบว่ามีงานวิจัยของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยร่วมกับศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) ที่สามารถพัฒนาสารสกัดจากขมิ้นชัน หรือเคอร์คูมิน (curcumin) ให้อยู่ในรูปแคปซูลขนาดนาโนด้วยเทคโนโลยีเอนแคปซูเลชัน จึงมีการเจรจาและรับถ่ายทอดเทคโนโลยี
ผลจากการใช้เทคโนโลยีเอนแคปซูเลชันพบว่าแก้ปัญหาเรื่องกลิ่นและรสชาติของขมิ้นชันได้ดี และไม่ตกตะกอนเมื่อผสมในเครื่องดื่ม เนื่องจากอนุภาคมีขนาดเล็กจึงแขวรลอยได้โดยไม่ตกตะกอน อีกทั้งยังยืดอายุของสีให้คงที่ได้นานถึง 6 เดือน แม้ผ่านความร้อนจากกระบวนการผลิต
อนันต์ กล่าวอีกว่า ยังมีการพิสูจน์ด้วยว่า อนุภาคที่เล็กลงช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้ดี และตอนนี้บริษัทในกลุ่มทิปโก้เริ่มพัฒนาเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพจากขมิ้นชันที่ใช้นาโนเทคโนโลยีนี้ และทางบริษัทก็ได้พัฒนาวัตถุดิบทั้งในรูปผงแห้งและแบบน้ำเข้มข้นเสนอแก่ลูกค้าที่สนใจ ซึ่งมีทั้งบริษัทยา บริษัทเครื่องสำอาง และกลุ่มที่ต้องการสีธรรมชาติให้ความสนใจ รวมถึงลูกค้าจากต่างประเทศด้วย