สกว.-สกว.หนุนกองทัพเรือพัฒนา “เครื่องบินทะเล” พร้อมเล็งของบเพิ่ม 24 ล้าน เพื่อขยายผลเชิงพาณิชย์
พลเรือโท สมหมาย ปราการสมุทร ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพเรือ ในฐานะหัวหน้าโครงการสร้างต้นแบบเครื่องบินทะเลขนาด 2 ที่นั่งด้วยวัสดุคอมโพสิต (วัสดุผสม) กล่าวถึงความสำเร็จในการพัฒนาเป็นอากาศยานสะเทินน้ำสะเทินบกที่มีขีดความสามารถพิเศษในการปฏิบัติการบนพื้นน้ำ เพื่อลดปัญหาด้านความต้องการยุทโธปกณ์ต่อการปฏิบัติงานตามภารกิจกองทัพที่ยังขาดแคลนงบประมาณ
ทั้งนี้ “เครื่องบินทะเล” ถูกนำมาใช้งานราชการทหารและด้านความมั่นคงในหลายด้าน อาทิ การบินตรวจการณ์ชายฝั่ง การบินลาดตระเวนหาข่าว และการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล เป็นต้น รวมถึงนำไปใช้กับองค์กรหรือหน่วยงานภาครัฐและเอกชนได้อีกมากมาย อีกทั้งอุตสาหกรรมการบินขนาดเล็กกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นตามลำดับ สกว.จึงให้การสนับสนุนการพัฒนาเครื่องบินดังกล่าว โดยพิจารณาถึงความเป็นไปได้และคุ้มค่า เพื่อกำหนดทิศทางวิจัยเครื่องบินและเป็นจุดเริ่มต้นของการพึ่งพาตนเองในประเทศ
หลังจากสร้างต้นแบบเครื่องบินทะเลตามหลักวิศวรรมอากาศยาน ด้วยลักษณะของโครงสร้างอากาศยานเป็นวัสดุคอมโพสิต และสามารถนำไปปฏิบัติการบินได้ด้วยความปลอดภัย พร้อมกับมีคู่มือประกอบการใช้งาน คณะวิจัยได้ทำการทดสอบคุณสมบัติในรายละเอียดของชิ้นส่วนต่างๆ และโครงสร้างอากาศยาน รวมถึงทดสอบประสิทธิภาพการบินให้เป็นไปตามมาตรฐานเพื่อการจำหน่ายในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการจัดทำเอกสารรับรองด้านความปลอดภัยการใช้งานของเครื่องบิน และพร้อมที่จะถ่ายทอดในขั้นของการขยายผลสู่การบริโภคและการสร้างอุตสาหกรรมการบิน
สกว.ระบุว่า โครงการนี้ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายไม่ต่ำกว่า 5 เท่าในการปฏิบัติการเดียวกัน เมื่อเทียบกับอากาศยานที่ใช้ในกองทัพเรือ โดยมีต้นทุนการบินต่อชั่วโมงของเครื่องบินทะเลประมาณ 3,000 บาทต่อชั่วโมง ขณะที่ต้นทุนการบินของอากาศยานอื่นอยู่ที่ประมาณ 15,000 บาท สามารถทำการขึ้นลงได้ทั้งบนบกและในน้ำ ปฏิบัติการบินได้ในพื้นที่ที่ไม่มีสนามบินรองรับและอยู่ในอากาศนานกว่า 2.5 ชั่วโมง มีรัศมีปฏิบัติการไม่ต่ำกว่า 100 ไมล์ทะเล สามารถจอดในพื้นที่ที่มีน้ำไม่ต่ำกว่า 38 เซนติเมตร คลื่นสูง 2-3 ฟุต
สำหรับต้นทุนเครื่องบินในการวิจัยครั้งนี้อยู่ที่ 5.9 ล้านบาท แต่ทีมวิจัยระบุว่า หากผลิตในเชิงพาณิชย์จะลดต้นทุนการผลิตลงได้อีก จึงขอรับการสนับสนุนการวิจัยต่อเพื่อขยายผลโครงการในเชิงพาณิชย์ ซึ่งคาดว่าจะใช้ทุนวิจัยรวมทั้งสิ้นประมาณ 24 ล้านบาท ในการผลิตเครื่องบินทะเลจำนวน 2 ลำที่มีสมรรถนะสูง สามารถบินได้ในทุกสภาวะอากาศแม้มีฝนฟ้าคะนองรุนแรง เวลากลางคืน และการเดินทางไกล
งานวิจัยดังกล่าวเกิดจากความร่วมมือระหว่างกองทัพเรือและชุดโครงการอุตสาหกรรมเพื่อความมั่นคงของประเทศ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) บริษัท มาทคอม ไฟเบอร์ จำกัด