กองประชาสัมพันธ์ วว.ส่งข่าวประชาสัมพันธ์มายังทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ บอกเล่าถึงผลงานการแปรรูป “เงาะ” ที่กำลังราคาตกต่ำได้อย่างครบวงจร และหนึ่งในผลงานนั้นคือการแปรรูป “เมล็ดเงาะ” ให้สามารถบริโภคได้!?
“เมล็ดเงาะ” ที่ทั้งขมและฝาดถูกแปรรูปให้บริโภคได้ด้วยความสามารถของทีมวิจัยสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ซึ่งได้เปลี่ยนเนื้อในเมล็ดเงาะให้กลายเป็น “แป้ง” ที่นำไปแปรรูปเป็นอาหารเพื่อสุขภาพได้หลากหลาย แต่รายละเอียดจากข่าวประชาสัมพันธ์ไม่ได้ระบุว่าทีมวิจัยแปรรูปเมล็ดเงาะด้วยวิธี หากแต่เมื่อทดสอบ “ความเป็นพิษแบบฉับพลัน” ในปากของสัตว์ทดลองแล้วพบว่า “ปลอดภัย” ต่อการบริโภค
หลังจากได้ “แป้งเงาะ” มาเรียบร้อยแล้ว ทีมวิจัยได้นำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ “น้ำสลัดแป้งเงาะไขมัน” ต่ำ เหตุที่มีไขมันต่ำเพราะใช้แป้งเงาะเป็นสารเพิ่มความข้นหนืด (Thickening agent) แทนไข่แดงและน้ำมันพืชซึ่งใช้ในสูตรปกติ เป็นต้น และเมื่อแปรรูปเป็นน้ำสลัดเธาซันด์ไอส์แลนด์สูตรแป้งเงาะ พบว่ากลุ่มตัวอย่าง 200 คน พึงพอใจน้ำสลัดสูตรนี้มากกว่าน้ำสลัดสูตรปกติถึงกว่า 63%
นักวิจัย วว.ยังแปรรูปเมล็ดเงาะให้เราบริโภคได้โดยตรงในรูป “เมล็ดเงาะเคลือบปรุงรส” โดยได้พัฒนากระบวนการผลิตให้ปลอดภัยต่อผู้บริโภคและปราศจากสารพิษ และทีมวิจัยพบว่าเมล็ดเงาะเป็นแหล่งของสาร “ทริปโตฟาน” (Tryptophan) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่ช่วยให้หลับสบาย แต่ยังต้องวิจัยต่อเพื่อตัดสินได้ว่าจะสนับสนุนให้มีการบริโภคเมล็ดเงาะหรือไม่ เนื่องจากสารที่พบนี้ไม่เป็นอันตรายต่อผู้มีความดันโลหิตสูงและผู้ใช้ยาบางประเภท
นอกจากนี้ยังมีการแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหารอื่นๆ จากเงาะ อาทิ น้ำส้มสายชูหมักและน้ำส้มสายชูพร้อมดื่มเพื่อสุขภาพจากน้ำเงาะ ใยอาหารจากเปลือกเงาะซึ่งใช้ผสมในอาหารหลายประเภท เช่น ลูกชิ้น ไส้กรอก ไอศครีม เบเกอรี (ใช้แทนแป้งสาลีได้ 30%) เงาะแช่อิ่มอบแห้งในน้ำเสาวรส และเนื้อเงาะแผ่นกรอบซึ่งให้รสชาติคล้ายมันฝรั่ง เป็นต้น
เงาะนั้นมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า “เนฟีลิน แลพแพคคัม ลินน์” (Nephelium lappaccum Linn.) และมีคุณสมบัติในการแก้อาการท้องร่วงชนิดรุนแรงได้ผลดีเมื่อรับประทานผลสด นอกจากนี้ผลเงาะเมื่อนำมาต้ม น้ำที่ได้มีสรรพคุณเป็นยาแก้อักเสบฆ่าเชื้อแบคทีเรีย รักษาอาการอักเสบในช่องปากและโรคบิดท้องร่วง
