xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ส500” ภารกิจพิชิตจิตใจอึด (จำลอง) สู่ดาวอังคารลุล่วง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อเล็กซี ซิเตฟ (บนสุด) ผู้บังคับการภารกิจจำลองสู่ดาวอังคารมาร์ส500 และลูกเรือ (ล่างซ้ายไปขวา) อเล็กซานเดอร์ สโมเลฟสกี, ดิเอโก เออร์บินา, สุครอฟ คามอลอฟ, โรเมน ชาร์ลส และ หวาง ยิว ปฏิบัติภารกิจลุล่วง (ภาพประกอบทั้งหมดจากอีซา)

ลูกเรือมาร์ส500 ได้ออกมาพบโลกภายนอก หลังอยู่ภายในห้องปฏิบัติการที่จำลองการเดินทางสู่ดาวอังคารยาวนานถึง 520 วัน

ผ่านไปได้ด้วยดีสำหรับภารกิจพิชิตความอึดของจิตใจ “มาร์ส500” ภารกิจจำลองเดินทางสู่ดาวอังคาร ซึ่ง 6 หนุ่มอาสาสมัครต้องอาศัยอยู่ภายในห้องปฏิบัติการที่มีพื้นที่จำกัดนานถึง 520 วัน และพวกเขาก็สามารถใช้ชีวิตในพื้นที่กักขังได้นานที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งหลังจากนี้อาสาสมัครทั้งหมดจะได้รับการตรวจสภาพร่างกายอย่างละเอียด ก่อนการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ

6 ลูกเรือในปฏิบัติการจำลองเดินทางสู่ดาวอังคาร “มาร์ส500” (Mars500) สิ้นสุดปฏิบัติการจำลองอยู่ในพื้นที่จำกัดที่ยาวนานถึง 520 วันและเป็นระยะเวลาที่ยาวนานที่สุดที่มีการทดลองจำกัดอิสรภาพของมนุษย์เมื่อวันที่ 4 พ.ย.54 ที่ผ่านมา ซึ่งในวันที่พวกเขาก้าวออกจาก “ยานอวกาศ” (จำลอง) นั้นได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากนักวิทยาศาสตร์ที่ร่วมการทดลองและครอบครัว โดยเฝ้ารอคอยวันที่การทดลองสำเร็จลุล่วง

ปฏิบัติการมาร์ส 500 นี้เป็นการจำลองภารกิจเดินทางสู่ดาวอังคารอย่างเต็มเวลาครั้งแรกและมีรูปแบบทุกอย่างเหมือนการสำรวจดาวแดงเพื่อนบ้านจริงๆ ซึ่งนำการทดลองโดย สถาบันศึกษาปัญหาชีวการแพทย์ (Institute for Bio-Medical Problems) รัสเซีย, องค์การอวกาศยุโรป (อีซา) และศูนย์ฝึกการบินอวกาศของจีน และได้เริ่มภารกิจเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.2010 แล้วสิ้นสุดภารกิจเมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยลูกเรือทั้งหมดจะได้รับการตรวจทางการแพทย์รวมทั้งสภาพจิตใจ แล้วจะได้ใช้เวลาส่วนตัวและผ่อนคลายก่อนที่จะพูดคุยกับสื่อมวลชนอีกครั้งในวันที่ 8 พ.ย.54 ที่กรุงมอสโกว รัสเซีย




เปิดประตูต้อนรับลูกเรือมาร์ส500

6 อาสาสมัครในการทดลองครั้งนี้ ได้แก่ ชาวรัสเซีย 3 คน คือ อเล็กซี ซิเตฟ (Alexei Sitev) วิศวกรวัย 39 ปี สุครอฟ คามอลอฟ (Sukhrob Kamolov) ศัลยแพทย์วัย 33 ปี อเล็กซานเดอร์ สโมเลฟสกี (Alexander Smolevsky) แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทั่วไป วัย 34 ปี ชาวจีน 1 คน คือ หวาง ยิว (Wang Yue) วัย 27 ปี ชาวฝรั่งเศส 1 คนคือ โรเมน ชาร์ลส์ (Romain Charles) วัย 32 ปี และชาวอิตาลีเชื้อสายโคลัมเบียอีก 1 คน คือ ดิเอโก เออร์บินา (Diego Urbina) วัย 28 ปี

อาสาสมัครในการทดลองที่เป็นชายทั้งหมดต้องใช้ชีวิตอยู่ภายในห้องปฏิบัติการที่จำลองเป็นยานอวกาศและพื้นผิวดาวอังคาร ณ ห้องปฏิบัติการของ สถาบันศึกษาปัญหาชีวการแพทย์ ในกรุงมอสโกว รัสเซียโดยห้องปฏิบัติการดังกล่าวเป็นระบบปิดที่มีปริมาตร 550 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งอาสาสมัครต้องใช้ชีวิตอยู่ในนั้นนาน 520 วันโดยไม่ออกมาสู่โลกภายนอก ยกเว้นกรณีฉุกเฉินจริงๆ

อีซาระบุว่า การทดลองดังกล่าวดำเนินการทุกอย่างเหมือนการเดินทางสู่ดาวอังคารจริง โดยอาสาสมัครจะถูกแยกตัวไปใช้ชีวิตในยานอวกาศจำลองสำหรับเดินทางสู่ดาวเพื่อนบ้าน การทดลองตามระยะต่างๆ ที่เป็นจริงสำหรับเที่ยวบินสู่ดาวอังคาร ทั้งระยะเวลาของเที่ยวบินที่ยาวนาน ระยะการแทรกยานเข้าสู่วงโคจรของดาวแดง การลงจอด การสำรวจพื้นผิวดาวอังคาร การกลับสู่วงโคจร และการเดินทางกลับโลก

เพื่อจำลองให้เหมือนการเดินทางสู่ดาวอังคารจริงๆ การสื่อสารกับศูนย์ควบคุมจะถูกจำลองให้มีการหน่วงสัญญาณให้ช้าลง เพื่อเลียนแบบการเดินทางจริงที่ไม่สามารถโต้ตอบกันได้ทันที เพราะระยะทางไกลระหว่างโลกและดาวอังคารทำให้สัญญาณสื่อสารที่เดินทางมาถึงโลกต้องใช้เวลา และระหว่าง “การเดินทาง” ลูกเรือได้ทำการทดลองมากกว่า 100 การทดลอง ซึ่งการทดลองทั้งหมดนั้นอีซาระบุว่าเป็นการทดลองที่เชื่อมโยงปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการเดินทางเป็นระยะเวลานานในอวกาศ

อีซาระบุด้วยว่า ลูกเรือรัสเซีย 3 คน จีน 1 คน และยุโรป 2 คน ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม พวกเขารวมเป็นหนึ่งเดียวและแสดงให้เห็นว่าแรงบันดาลใจและความมุ่งมั่นของทีมช่วยให้มนุษย์เดินหน้าภายใต้เงื่อนไขที่ยากลำบากได้ นักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายต่างชื่นชมยินดีกับการฝึกฝนที่ยอดเยี่ยมของพวกเขา

“ขอบคุณมากๆ สำหรับความพยายามที่โดดเด่นของพวกคุณ ผมยินดีกับความกล้าหาญ ความมุ่งมั่น ความกรุณาของคนหนุ่มเหล่านี้ ผู้อุทิศเวลาชีวิตเกือบ 2 ปีสำหรับโครงการนี้ เพื่อความก้าวหน้าของมนุษยชาติในการออกสำรวจอวกาศ” ฌอง-ฌาคส์ ดอร์เดน (Jean-Jacques Dordain) ผู้อำนวยการอีซากล่าวแสดงความยินดีจากกรุงปารีส ฝรั่งเศส ส่งไปยังอาสาสมัครมาร์ส 500 ในวันที่พวกเขาสิ้นสุดภารกิจอันยาวนาน

ในวันที่ประตูซึ่งปิดกั้นระหว่าง “มนุษย์ดาวอังคาร” (marsonaut) กับโลกภายนอกเปิดออกเมื่อเวลา 17.00 น.ตามเวลาประเทศไทย พวกเขาเดินออกจากโมดูลและเข้าแสดงความยินดีกับผู้อำนวยการของภารกิจ ซึ่งหลังจากที่ได้สัมผัสกับอิสรภาพแล้ว พวกเขาก็ถูกนำตัวไปพบแพทย์ ครอบครัวและเพื่อนสนิทของพวกเขา

“มันเยี่ยมมากที่ได้เจอพวกคุณทั้งหมดอีกครั้ง ในภารกิจมาร์ส500 นี้เราได้บรรลุการท่องอวกาศบนโลกที่ยาวไกลที่สุดเท่าที่เคยมี ดังนั้น สักวันหนึ่งมนุษยชาติก็อาจได้ต้อนรับรุ่งอรุณใหม่บนดาวเคราะห์ที่แสนไกลแต่ไปถึงได้ และในฐานะลูกเรือสมาชิกขององค์การอวกาศยุโรป ผมภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความท้าทายที่น่าจดจำนี้ร่วมกับสมาชิกอีก 5 คนที่เป็นมืออาชีพที่สุด เป็นมิตร และเป็นคนที่ปรับตัวได้ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยร่วมงานด้วย ผมรู้สึกขอบคุณกับคนเหล่านี้ตลอดไป ซึ่งอยู่เคียงข้างผมตลอดเวลาระหว่างการท่องอวกาศครั้งนี้” ดิเอโก ลูกเรือชาวอิตาลีในสังกัดอีซากล่าวหลังจากที่ออกมาจากห้องปฏิบัติการ

ด้านโรเมนลูกเรือชาวฝรั่งเศสในสังกัดอีซากล่าวว่า 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา เขาได้รับการคัดเลือกจากองค์การอวกาศยุโรปให้เป็น 1 ในสมาชิกลูกเรือมาร์ส 500 วันนี้ หลังจากที่ผ่านการเดินทางที่ไม่ได้เคลื่อนย้ายไปไหน เขารู้สึกภูมิใจที่ได้พิสูจน์กับเพื่อนลูกเรือนานาชาติคนอื่นๆ ว่า การเดินทางของมนุษย์สู่ดาวแดงนั้นเป็นไปได้ พวกเขาได้รับประสบการณ์ที่มีคุณค่ามาก ซึ่งจะช่วยในการออกแบบและวางแผนภารกิจมุ่งหน้าสู่ดาวอังคารในอนาคต

“เราพร้อมแล้วที่จะขึ้นยานอวกาศในอนาคตเพื่อเดินทางไปที่นั่น” ชารล์สกล่าว





สุครอฟ คามอลอฟ เป็นคนแรกที่ได้ออกมา



โรเมน



ดิเอโก



หวาง ยิว กล่าวแสดงความรู้สึกหลังออกมาพบโลกภายนอก



โรเมนและลูกเรือมาร์ส500 เดินเข้าห้องตรวจร่างกาย



โรเมนในห้องควบคุมระหว่างปฏิบัติหน้าที่

ลูกเรือมาร์ส500 ได้ออกมาพบโลกภายนอก หลังอยู่ภายในห้องปฏิบัติการที่จำลองการเดินทางสู่ดาวอังคารยาวนานถึง 520 วัน
เปิดประตูต้อนรับลูกเรือมาร์ส500
สุครอฟ คามอลอฟ เป็นคนแรกที่ได้ออกมา
อเล็กซานเดอร์ สโมเลฟสกี
อเล็กซี ซิเตฟ ผู้บังคับการภารกิจจำลองสู่ดาวอังคารมาร์ส500
ลูกเรือมาร์ส500 (ซ้ายไปขวา) อเล็กซี ซิเตฟ สุครอฟ คามอลอฟ, โรเมน ชาร์ลส  หวาง ยิว, ดิเอโก เออร์บินา และ อเล็กซานเดอร์ สโมเลฟสกี
ต้อนรับลูกเรือมาร์ส 500 กลับออกมาพบโลกภายนอก
 สุครอฟ คามอลอฟ กล่าวแสดงความรู้สึก
ดิเอโก
หวาง ยิว กล่าวแสดงความรู้สึก
โรเมนเข้าห้องตรวจสุขภาพหลังออกจากห้องปฏิบัติการ
โรเมนรับการตรวจร่างกายอย่างละเอียด
ดิเอโก และ อเล็กซานเดอร์ รอรับการตรวจสุขภาพ
ดิเอโกกับชุด มนุษย์ดาวอังคาร หลังจำลองลงสำรวจพื้นผิวดาวอังคาร
สิ่งหนึ่งที่พวกเขาไม่ได้สัมผัสคือ ภาวะไร้แรงโน้มถ่วง แต่ใน วันเมษาน่าโง่ พวกเขาก็ส่งภาพนี้มาอำชาวโลก
กำลังโหลดความคิดเห็น