นักฟิสิกส์ดัตช์ใช้เทคนิคยิงลำไอออนสำหรับสกัดและเจาะวัสดุขนาดเล็ก ซึ่งปกติใช้ในการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของวัตถุ สร้างแผนที่ประเทศไทยลงบนเส้นผมของลูกสาว พร้อมมอบเป็นของขวัญให้ไทยในฐานะเจ้าภาพจัดงานเทศกาลวิทยาศาสตร์เอเปคระดับเยาวชน 20-26 ส.ค.นี้
ศ.ดร.ฮันส์ ฮิลเกนแคมป์ (Prof. Dr. Hans Hilgenkamp) นักฟิสิกส์จากสถาบันนาโนเทคโนโลยีเมสา (MESA,and Institute for Nanotechnology) มหาวิทยาลัยทเวนท์ (University of Twente) เนเธอร์แลนด์ ใช้เทคโนโลยีโฟกัส ไอออน บีม (Focused Ion Beam) วาดภาพแผนที่ประเทศไทยและช้างลงเป็นเส้นผม และจะมอบให้เป็นของขวัญแก่ประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพจัดงานเทศกาลวิทยาศาสตร์เยาวชนเอเปค ครั้งที่ 4 (4th APEC Youth Science Festival: AYSF) ระหว่างวันที่ 20-26 ส.ค.54 ณ บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ไทย
ดร.กฤษฎ์ชัย สมสมาน ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสิ่งพิมพ์และสื่อสารวิทยาศาสตร์ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สวทช.) และผู้ดูแลการสื่อสารระหว่างจัดงานเทศกาลวิทยาศาสตร์เยาวชนเอเปค เผยแก่ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ว่า ศ.ดร.ฮันท์ได้รับเชิญให้มาบรรยายพิเศษภายในงานเทศกาลวิทยาศาสตร์นี้ และจะเผยเทคนิคในการวาดภาพลงบนเส้นผม
ทั้งนี้ ศ.ดร.ฮันท์ ได้แรงบันดาลใจในการวาดภาพแผนที่ประเทศไทยและช้างลงบนเส้นผมระหว่างชมวิดิทัศน์แนะนำประเทศไทยพร้อมกับลูกสาว และลูกสาวเขาซึ่งตื่นเต้นที่จะได้เห็นช้างตัวจริงระหว่างการเดินทางมาบรรยายพิเศษของพ่อที่เมืองไทย จึงได้วาดภาพช้างบนกระดาษ เขาจึงนำภาพดังกล่าวพร้อมแผนที่ประเทศไทยเป็นต้นแบบในการสลักภาพลงบนเส้นผมด้วยเทคโนโลยีโฟกัส ไออน บีม โดยใช้ลำไอออนของธาตุแกลเลียมกวาดลงบนเส้นผมเป็นภาพวาดดังกล่าว
ดร.กฤษฎ์ชัยบอกแก่ทีมข่าววิทยาศาสตร์อีกว่า ปกติเทคโนโลยีโฟกัส ไอออน บีม จะถูกใช้ในการเจาะหรือสกัดวัตถุขนาดเล็กในระดับนาโนเมตร เพื่อเปลี่ยนแปลงเส้นทางอิเล็กตรอน หรือเปลี่ยนแปลงโครงสร้างวัตถุต่างๆ และตอนนี้มีใช้งานในอุตสาหกรรมบางส่วน ส่วนไทยมีใช้อยู่บ้างในห้องปฏิบัติการต่างๆ ของมหาวิทยาลัย
สำหรับงานเทศกาลวิทยาศาสตร์เยาวชนเอเปคจัดขึ้นแล้ว 3 ครั้ง โดยมีเกาหลีใต้ สิงคโปร์และจีนเป็นเจ้าภาพตามลำดับ ส่วนครั้งล่าสุดที่ไทยเป็นเจ้าภาพนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือของ 3 กระทรวง คือ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงการต่างประเทศ โดยจะมีเยาวชนจาก 16 ประเทศเข้าร่วมกว่า 500 คน พร้อมทั้งครูวิทยาศาสตร์อีกกว่า 140 คน