"เซิร์น" พร้อมจับอนุภาคชนกันที่ 7 TeV ในวันที่ 30 มี.ค.53 นี้ ถือเป็นการเดินเครื่องเร่งอนนุภาคที่ระดับพลังงานสูงสุดในโลกครั้งแรก และจำลองการเกิด "บิกแบง" ขนาดเล็กขึ้นบนโลก คาดอาจพบสสารมืดด้วย
“ความพยายามแรกในการเดินเครื่องชนอนุภาคที่ระดับพลังงาน 7 เทราอิเล็กตรอนโวลต์ (TeV) กำหนดไว้ในวันวันที่ 30 มี.ค. นี้" เซิร์น (CERN) ประกาศกำหนดวันเดินเครื่องเร่งอนุภาคแอลเอชซี (LHC) ซึ่งอยู่ใจกลางท่อนำอนุภาคยาว 27 กิโลเมตร ที่ขดเป็นวงกลมใต้พรมแดนฝรั่งเศส-สวิตเซอร์แลนด์
รอยเตอร์ระบุว่า การชนครั้งนี้ลำอนุภาค 2 ลำจะถูกเร่งให้วิ่งวนรอบท่อแอลเอชซีในทิศทางตรงกันข้ามด้วยระดับพลังงาน 3.5 TeV ซึ่งเป็นระดับพลังานสูงสุดเท่าที่เคยมีการเร่งอนุภาคบนโลก
“มันอาจใช้เวลาหลายชั่วโมงหรือหลายวัน ที่อนุภาคจะชนกัน" รอล์ฟ ฮอยเออร์ (Rolf Heuer) ผู้อำนวยการเซิร์นกล่าว
การชนกันของลำอนุภาคซึ่งรวมพลังงานได้ 7 TeV นี้จะสร้างสภาวะจำลองของระเบิด "บิกแบง" (Big Bang) ขนาดเล็กขึ้นภายในเครื่องเร่งอนุภาค และจะให้ข้อมูลจากการชนกัน ซึ่งต้องใช้นักวิทยาศาสตร์หลายพันคนช่วยกันวิเคราะห์เป็นเวลาหลายปี
“เพียงแค่บังคับลำอนุภาคให้วิ่งอยู่ในเส้นทางก็เป็นเรื่องลำบากอยู่แล้ว มันคล้ายกับยิงเข็มข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกแล้วบังคับให้ชนกันที่กลางทาง" สตีฟ ไมเยอร์ (Steve Myer) ผู้อำนวยการฝ่ายเครื่องเร่งอนุภาคและเทคโนโลยีกล่าว
ทั้งนี้ เซิร์นมีแผนเดินเครื่องเร่งอนุภาคให้ชนกันที่ความเร็วสูงต่อเนื่อง 18-24 เดือน โดยจะหยุดเดินเครื่องด้วยเหตุผลทางเทคนิคเป็นเวลาสั้นๆ ในช่วงปลายปี 2010 ด้านเอเอฟพีระบุว่าเซิร์นจะเดินเครื่องเต็มกำลังที่ 14 TeV หลังปี 2012
นอกจากสภาวะบิกแบงเล็กๆ ที่จะเกิดขึ้นแล้ว เซิร์นยังระบุด้วยว่า "สสารมืด" (Dark Matter) ซึ่งมีอยู่ในเอกภพถึง 25% แต่ยังไม่เคยมีการพิสูจน์ได้ว่ามีอยู่จริงนั้น อาจจะถูกตรวจพบจากการเดินเครื่องครั้งนี้ด้วย ทั้งนี้นักดาราศาสตร์และนักฟิสิกส์ต่างกล่าวว่า เรารู้จักเอกภพของเราเพียง 5% เท่านั้น ที่เหลือคือสสารมืด 25% และพลังงานมืดอีก 70%
“หากเราตรวจพบและเข้าใจสสารมืดได้ ความรู้ของเราที่เข้าถึงเอกภพจะขยายออกไปเป็น 30% ซึ่งเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่" ฮอยเออร์กล่าว