xs
xsm
sm
md
lg

ชอปของขวัญปีใหม่เลือกแบบไหนคลายร้อนให้ "โลก"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ซานต้าจากเดนมาร์คยังมาในชุดเขียวรณรงค์ให้นักชอปในญี่ปุ่นเลือกสินค้ารักษาสิ่งแวดล้อม (เอเอฟพี)
เทศกาลส่งความสุขในวันขึ้นปีใหม่กำลังใกล้เข้ามา หลายๆ คนมองหาของขวัญให้คนที่รัก ญาติสนิท และมิตรสหาย แต่ในภาวะที่ราคาทองพุ่งไม่หยุดฉุดไม่อยู่พอๆ กับดีกรีความร้อนของอุณหภูมิโลกอย่างทุกวันนี้ อาจทำให้บางคนต้องคิดหนักกว่าจะควักกระเป๋าจ่ายเงินซื้อของขวัญสักชิ้นได้

ในขณะที่ตัวแทนของรัฐบาลจากประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC) กำลังประชุมกันอย่างเข้มข้นเพื่อหาแนวทางลดก๊าซเรือนกระจกหลังปี 2012 ที่กรุงโคเปนเฮเกน เดนมาร์ก ซึ่งเป็นปีที่พิธีสารเกียวโตสิ้นสุดลง แต่เราในฐานะที่เป็นประชากรส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ สามารถช่วยชะลอการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศโลกได้ตั้งแต่วินาทีนี้ด้วยวิธีต่างๆ ซึ่งการเลือกซื้อสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมอบให้แก่กันเป็นของขวัญในเทศกาลปีใหม่นี้ก็เป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยบรรเทาปัญหาภาวะโลกร้อนได้

เมื่อพูดถึงวิธีช่วยลดภาวะโลกร้อน คนส่วนใหญ่มักนึกถึง "ถุงผ้า" เป็นอันดับแรก แต่ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกหลายชนิดที่ช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อนได้เช่นกัน ซึ่งเราสามารถสังเกตได้ว่า ผลิตภัณฑ์ใดเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยดูจากเครื่องหมายหรือตราสัญลักษณ์บนฉลากผลิตภัณฑ์

** สินค้า "ฉลากเขียว" เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า

สถาบันสิ่งแวดล้อมไทยได้ริเริ่มโครงการฉลากเขียวขึ้นในประเทศตั้งแต่ปี 2536 โดยได้รับความร่วมมือทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ซึ่ง "ฉลากเขียว" เป็นสัญลักษณ์บ่งบอกผู้บริโภคให้รู้ว่า สินค้านั้นเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าผลิตภัณฑ์ที่ทำหน้าที่อย่างเดียวกัน แต่ไม่ได้รับฉลากเขียว โดยพิจารณาจากการจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ การลดมลพิษทางสิ่งแวดล้อม และการนำขยะมูลฝอยทั่วไป และขยะอันตรายกลับมาใช้ใหม่ (reused) หรือ แปรสภาพกลับมาใช้ใหม่ (recycle) เป็นหลักและแตกต่างกันตามประเภทของผลิตภัณฑ์

ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับฉลากเขียวแล้วกว่า 240 รายการ ใน 18 กลุ่มผลิตภัณฑ์ และ 46 บริษัทหรือผู้ผลิต ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น หลอดฟลูออเรสเซนต์, กระดาษ, สารซักฟอก, ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดถ้วยชาม, ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้นผิว, ผลิตภัณฑ์จากผ้า, สี, เครื่องเขียน, เครื่องสุขภัณฑ์ รวมไปถึงรถยนต์นั่ง (ข้อมูลถึงวันที่ 31 ต.ค. 52 อ้างอิงจาก สำนักงานเลขานุการโครงการฉลากเขียว สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย)

**"ฉลากเบอร์ 5" ลดใช้ไฟฟ้า ลดภาวะโลกร้อน

เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมนำมามอบให้แก่กันเป็นของขวัญหรือของรางวัลในเทศกาลต่างๆ อยู่บ่อยครั้ง และเนื่องจากการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและปริมาณการใช้ไฟฟ้าของประชาชนก็เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จึงได้ริเริ่มส่งเสริมให้ประชาชนใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัด ควบคู่กับจัดทำ โครงการฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ตั้งแต่ปี 2536 เป็นต้นมา

ฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 เป็นเครื่องหมายที่แสดงให้รู้ว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดหรือรุ่นนั้นๆ มีประสิทธิภาพสูงเหมาะสมราคา และใช้ไฟฟ้าคุ้มค่ามากกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดเดียวกันแต่ไม่ได้รับฉลากประหยัดไฟ หรือได้รับฉลากประหยัดไฟเบอร์ต่ำกว่า ซึ่งปัจจุบันนี้เครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนใหญ่ก็จะได้รับฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เพราะหากเบอร์ต่ำกว่านั้นก็จะไม่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคที่ต้องการประหยัดไฟฟ้า

**สัญลักษณ์ตัว "G" การันตีกระบวนการผลิตลดมลพิษ

ตราสัญลักษณ์ตัวจี (G) แสดงถึง การผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Production) ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ริเริ่มขึ้นในปี 2549 เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ด้วยการเลือกใช้วัตถุดิบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการใช้สารเคมีหรือวัตถุมีพิษ ประหยัดพลังงาน หรือใช้พลังงานสะอาด มีการหมุนเวียนนำกลับมาใช้ใหม่ และมีระบบการจัดการมลพิษที่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิต

ปัจจุบันมีสถานประกอบการรวม 60 ราย ที่ได้รับตราสัญลักษณ์ตัวจีแล้ว ได้แก่ การผลิตกระดาษสา, สุรากลั่น, สิ่งทอขนาดเล็ก, ผักผลไม้แช่เย็น/แช่แข็ง, เฟอร์นิเจอร์ไม้ และน้ำตาล

**ร่วมลดก๊าซเรือนกระจก เลือกซื้อสินค้ามี "ฉลากคาร์บอน"

ฉลากคาร์บอน เป็นฉลากน้องใหม่ที่เปิดตัวได้เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาเมื่อมนุษย์เราเริ่มตื่นตัวกับภาวะโลกร้อนที่เกิดจากปริมาณก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศสูงมากกว่าปกติ สำหรับในประเทศไทยได้ริเริ่มส่งเสริมให้ใช้ฉลากคาร์บอนกับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้เมื่อไม่นานมานี้ โดยการสนับสนุนขององค์การบริหารก๊าซเรือนกระจก (อบก.) และหน่วยงานพันธมิตร

ฉลากคาร์บอนของประเทศไทยแสดงให้เห็นว่าสินค้าหรือผลิตภัณฑ์นั้นมาจากกระบวนการผลิตที่สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงจากเดิมได้ หลังจากได้มีการปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นแล้ว โดยปัจจุบันมีสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย ที่ได้รับการอนุมัติขึ้นทะเบียนฉลากลดคาร์บอนทั้งสิ้น 56 ผลิตภัณฑ์ จาก 14 บริษัท สตรอเบอรีอบแห้ง ตรา ดอยคำ, น้ำตาลทราย, พรม และผลิตภัณฑ์เซรามิก เป็นต้น (ข้อมูล ณ วันที่ 3 ธ.ค. 52 อ้างอิงจาก อบก.)

**"คาร์บอนฟุตพรินต์" บ่งบอกร่องรอยปล่อยมลพิษตั้งแต่ผลิตยันทิ้ง

โครงการส่งเสริมการใช้คาร์บอนฟุตพริ้นต์ (Carbon Footprint) ของผลิตภัณฑ์ในประเทศไทย เป็นอีกโครงการหนึ่งที่ อบก. ส่งเสริมต่อยอดจากฉลากคาร์บอน ซึ่งเครื่องหมายคาร์บอนฟุตพรินท์ถือเป็นฉลากคาร์บอนที่ใช้ในระดับสากล โดยแสดงให้ผู้บริโภคเห็นว่า ตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์เหล่านั้นมีการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมาในปริมาณเท่าไหร่ ตั้งแต่กระบวนการหาวัตถุดิบ การผลิต การขนส่ง การใช้งาน และการกำจัดเมื่อกลายเป็นของเสีย

สำหรับประเทศไทยในขณะนี้ ยังอยู่ระหว่างการดำเนินโครงการการจัดทำคาร์บอนฟุตพรินท์บนผลิตภัณฑ์ ให้แก่ 25 ผลิตภัณฑ์ จาก 25 โรงงานนำร่อง อาทิ ข้าวหอมมะลิ, น้ำอัดลม, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, ผลิตภัณฑ์อาหารกระป๋อง, เสื้อยืด, เซรามิก และเครื่องปรับอากาศ เป็นต้น โดยเตรียมจะประกาศใช้เครื่องหมายคาร์บอนฟุตพริ้นท์กับผลิตภัณฑ์ดังกล่าวอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้

**"คูลโหมด" สิ่งทอลดโลกร้อน สวมใส่เย็นสบาย

ก๊าซเรือนกระจกที่ประเทศไทยปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศนั้น มากกว่าครึ่งหนึ่งมาจากภาคพลังงาน หนึ่งในนั้นคือการใช้เครื่องปรับอากาศ เพราะประเทศไทยเป็นเมืองร้อน สถานที่ต่างๆ จึงจำเป็นต้องพึ่งพาเครื่องปรับอากาศ แต่หลายแห่งก็ใช้งานเครื่องปรับอากาศขัดกับการแต่งกายของผู้คนในสถานที่นั้นๆ ซึ่งหากเราสามารถเพิ่มอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศได้ 1 องศา ก็จะสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศได้

กลวิธีที่จะช่วยให้เราลดการใช้เครื่องปรับอากาศได้คือการสวมใส่เสื้อผ้าที่โปร่งสบาย ช่วยระบายอากาศ ไม่รู้สึกอึดอัด หรือร้อนอบอ้าว หรือเสื้อผ้าที่ได้รับเครื่องหมาย "คูลโหมด" (Cool Mode) ที่รับรองโดย อบก. ร่วมกับสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นโครงการส่งเสริมการผลิตเสื้อผ้าช่วยลดภาวะโลกร้อน จึงยังไม่มีสิ่งทอรายการใดที่ได้รับเครื่องหมายคูลโหมด

ใครที่ยังไม่รู้ว่าจะซื้ออะไรเป็นของขวัญมอบให้แก่คนที่เรารักในเทศกาลส่งความสุข ลองมองหาสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมไว้เป็นตัวเลือก เพื่อมอบความสุขให้แก่กัน และเท่ากับมอบอายุให้แก่โลกของเราในปีใหม่นี้ เพื่ออยู่ได้ยืนยาวในอีกหลายๆ ปีต่อๆ ไป
 สตอเบอรีอบแห้งตรา ดอยคำ ได้รับฉลากคาร์บอน
สัญลักษณ์ตัว G กระบวนการผลิตลดมลพิษ
ฉลากเขียวที่มีมา 14 ปีแล้ว
 คาร์บอนฟุตพรินต์ ฉลากใหม่บ่งบอกมลพิษตั้งแต่การผลิตจนสิ้นอายุการใช้
กำลังโหลดความคิดเห็น