จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 แล้ว สำหรับ "เทศกาลหนังวิทย์" ฝ่ายจัดงานการันตีใหญ่สุดในโลก มียอดเข้าชมภาพยนตร์กว่า 80,000 คน โดยปีนี้จัดขึ้นระหว่าง 17-27 พ.ย. ส่งภาพยนตร์ฝรั่งเศสร่วมฉลองปีดาราศาสตร์ ด้าน ผอ.เกอเธ่เปิดใจภาพยนตร์เพื่อการศึกษาที่ยุโรปมีเยอะแล้ว และเด็กยุโรปก็เลิกมองวิทยาศาสตร์น่าเบื่อแล้ว จึงอยากกระตุ้นให้ทางอาเซียนผลิตเองบ้าง
เทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เพื่อการเรียนรู้ (Science Film Festival) ครั้งที่ 5 ประจำปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-27 พ.ย.52 โดยมีสถานที่ฉายภาพยนตร์ 5 แห่ง ได้แก่ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา (ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพฯ), องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) คลอง 5 ปทุมธานี, อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย, พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานคร และอุทยานการเรียนรู้ทีเค ปาร์ค
สำหรับเทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ที่จัดขึ้นโดยสถาบันเกอเธ่ ประเทศไทย สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) และสถานทูตฝรั่งเศสนี้ มีภาพยนตร์ส่งมาร่วมเทศกาล 130 เรื่องจาก 22 ประเทศ โดยมีภาพยนตร์ 45 จาก 13 ประเทศ ที่ได้รับคัดเลือกให้ฉายในเทศกาล ได้แก่ภาพยนตร์จากประเทศฝรั่งเศส เยอรมนี ออสเตรีย เบลเยียม เดนมาร์ก สหภาพยุโรป รัสเซีย เกาหลี ญี่ปุ่น ไทย สิงคโปร์และเวียดนาม ซึ่งเป็นปีแรกที่เวียดนามส่งภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เข้าร่วมในเทศกาล
ดร.นอร์แบร์ท ชปิทซ์ ผู้อำนวยการสถาบันเกอเธ่ประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้จัดกิจกรรมกล่าวว่า เทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์นั้น จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 แล้ว โดยแม้ 4 ปีที่ผ่านมา เขาไม่ได้ร่วมงานด้วยเนื่องจากเพิ่งเข้ารับตำแหน่งที่เมืองไทย แต่ก็ทราบว่าเป็นเทศกาลที่ประสบความสำเร็จมาก
ทั่งนี้ เฉพาะปี 2551 ที่ผ่านมามีผู้ชมภาพยนตร์กว่า 80,000 คน นับเป็นเทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยเทศกาลนี้ไม่ได้ให้แค่ความบันเทิงแต่ให้ความรู้ ต่างจากเทศกาลภาพยนตร์อื่นๆ ที่มีอยู่มากมายซึ่งให้ความบันเทิงอย่างเดียว
"เทศกาลภาพยนตร์นี้ จะสร้างความสงสัยใคร่รู้ให้กับเด็กๆ เพื่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์และได้ตระหนักในการค้นหาคำตอบด้วยตัวเอง และจะเป็นก้าวแรกให้เด็กๆ ได้เห็นว่าการเรียนรู้ก็เป็นเรื่องที่สนุกได้" ดร.ชปิทซ์กล่าวระหว่างแถลงข่าวการจัดงานเมื่อวันที่ 4 พ.ย.52 ซึ่งทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ได้เข้าร่วม ณ โรงภาพยนตร์พารากอนซีนิเพลกซ์
อย่างไรก็ดีผู้อำนวยการเกอเธ่กล่าวว่า ปีนี้มีภาพยนตร์วิทยาศาสตร์จากฝั่งยุโรปมากกว่าจากประเทศในภูมิภาคอาเซียน จึงคาดหวังว่าปีหน้าจะมีภาพยนตร์จากอาเซียนเข้าร่วมในเทศกาลมากขึ้น เพื่อกระตุ้นให้ภูมิภาคนี้สร้างภาพยนตร์เพื่อการเรียนรู้มากขึ้นด้วย เพราะภาพยนตร์เพื่อการเรียนรู้ในยุโรปมีเยอะแล้ว และเด็กๆ ในยุโรปก็ไม่มองวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องน่าเบื่อแล้ว
พร้อมกันนี้ ทางเกอเธ่ได้สนับสนุนการผลิตรายการทีวีเพื่อการเรียนรู้ให้แก่ 7 ประเทศอาเซียนในชื่อรายการ "I got it!" เป็นรายการทีวี 26 ตอน ที่จะนำมาฉายในเทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ปีหน้า และจะเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นให้เกิดการสร้างภาพยนตร์เพื่อการเรียนรู้แก่ภูมิภาคนี้มากขึ้น
ภายในงานแถลงข่าว ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ ยังได้พูดคุยกับ นายบุญเกิด วงศยา ผู้สื่อข่าวจากทีวีลาว (Lao National TV 1) ที่เดินทางมาร่วมงานโดยคำเชิญจากเกอเธ่ ซึ่งเขาบอกกับเราว่า ปีนี้ทางลาวไม่ได้ส่งภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เข้าร่วมเทศกาล แต่ปีหน้าทางลาวจะส่งภาพยนตร์มาเข้าร่วมเทศกาลบ้าง
สำหรับเทศกาลภาพยนตรืวิทยาศาสตร์ปีนี้ ยังได้จัดขึ้นเพื่อฉลองปีดาราศาสตร์สากล และวาระครบรอบ 200 ปี ชาร์ลส์ ดาร์วิน รวมทั้งรณรงค์ป้องกันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งฟิลิปป์ ลีจ (Philippe Liege) ทูตวัฒนธรรม การศึกษา และการพัฒนา จากสถานทูตฝรั่งเศส บอกกับทีมข่าววิทยาศาสตร์ว่า ทางฝรั่งเศสได้นำเรื่อง ดำน้ำตามหาละอองดาว (Fishing the Stars) ซึ่งเป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับการสำรวจนิวทริโนพลังงานสูงใต้ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ด้วยกล้องโทรทรรศน์นิวทริโนแอนทาเรส (Antares) มาร่วมฉายในเทศกาล
นอกจากจัดฉายภาพยนตร์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลทั้งหมด 5 แห่งแล้ว ดร.พรพรรณ ไวทยางกูร รักษาการผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า ทาง สสวท.ยังได้จัดฉายภาพยนตร์สัญจรโดยร่วมกับสถาบันการศึกษาในภูมิภาคต่างๆ 29 สถาบัน ระหว่างวันที่ 17-27 พ.ย.52 นี้ควบคู่ไปกับเทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ด้วย
สำหรับผู้ที่สนใจชมภาพยนตร์สามารถสำรองที่นั่งชมภาพยนตร์ได้ที่
- ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา (ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพฯ) โทร.0-2392-1773
- องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) โทร.0-2577-9999 ต่อ 1843
- อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย โทร.0-2564-7000 ต่อ 1489
- พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานคร โทร.0-2618-7241 และ 0-2615-7333 ต่อ 188
- อุทยานการเรียนรู้ทีเค ปาร์ค โทร.0-2257-4300
พร้อมตรวจสอบเรื่องและรอบการฉายภาพยนตร์ได้ที่ http://www.goethe.de/ins/th/prj/wif/ubu/enindex.htm
