ครบ 45 ปี ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ ปรับโฉมใหม่ฉลองปีดาราศาสตร์สากล เพิ่มความทันสมัยด้วยระบบดิจิทัล ฉายหนังแอนิเมชันแบบ "ฟูลโดม" ครั้งแรก ประเดิมด้วยเรื่อง "มหัศจรรย์แห่งจักรวาล" เต็มอิ่มกับความรู้เรื่องกล้องดูดาวและการค้นพบทางดาราศาสตร์ ควบคู่การแสดงด้วยเครื่องฉายดาวสุดคลาสสิกตัวเดิม พร้อมเพิ่มรอบพิเศษ เปิดให้ชมฟรีทุกเย็นวันเสาร์ ตลอดเดือน ส.ค.-ก.ย. นี้
ปีนี้ครบรอบ 400 ปี ที่กาลิเลโอใช้กล้องโทรทรรศน์ส่องดูจักรวาลเป็นครั้งแรก และครบรอบ 45 ปี ของท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ ท้องฟ้าจำลองแห่งแรกของคนไทยจึงขอปรับโฉมใหม่เล็กน้อยเพื่อให้ทันสมัยยิ่งขึ้นแต่ยังไม่ทิ้งความคลาสสิกในแบบเดิม ด้วยการนำระบบดิจิทัลมาใช้ในการแสดงร่วมกับเครื่องฉายดาวตัวเดิม เพิ่มอรรถรสในการดูดาวใต้ท้องฟ้าจำลองแบบฟูลโดม (full dome) ด้วยภาพยนตร์ดาราศาสตร์แสนสนุกเรื่อง "มหัศจรรย์แห่งจักรวาล" ซึ่งทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTVผู้จัดการออนไลน์ ไปดูมาแล้วในกิจกรรมรวมพลคนรักดาว ที่จัดโดยสมาคมดาราศาสตร์ไทย เมื่อวันที่ 15 ส.ค.52 ที่ผ่านมา
นายกระจ่าง ธรรมวีระพงษ์ หรือ อ.กระจ่าง นักวิชาการประจำท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ รับหน้าที่เป็นผู้บรรยายดาวในรอบพิเศษครั้งนี้ ให้ข้อมูลกับทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTVผู้จัดการออนไลน์ ว่า เนื่องจากปีนี้เป็นปีครบรอบ 45 ปี การก่อตั้งท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ และตรงกับปีดาราศาสตร์สากลด้วย ผู้บริหารจึงได้มีนโยบายปรับปรุงท้องฟ้าจำลองเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองโอกาสสำคัญดังกล่าว และเพิ่มความรู้และความบันเทิงให้กับผู้ที่เข้ามาดูการแสดงฉายดาวในท้องฟ้าจำลองด้วย
การปรับโฉมของท้องฟ้าจำลองในครั้งนี้ใช้งบประมาณ 1.2 ล้านบาท ด้วยการติดตั้งระบบโปรเจคเตอร์สำหรับฉายภาพยนตร์แบบฟูลโดม จำนวน 7 เครื่อง เพื่อฉายภาพยนตร์เกี่ยวกับดาราศาสตร์และอวกาศเสริมกับการฉายดาวของค่ำคืนวันนั้นบนท้องฟ้าจำลองด้วยเครื่องฉายดาวที่มีอยู่เดิม ซึ่งระบบดิจิทัลที่ติดตั้งเพิ่มเติมนี้ดำเนินการโดยบริษัทเอกชนของคนไทย ส่วนภาพยนตร์ที่นำมาฉายซื้อจากบริษัทต่างประเทศที่ผลิตภาพยนตร์สำหรับฉายแบบฟูลโดม
สำหรับภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องแรกที่เลือกมาฉายคือเรื่อง "มหัศจรรย์แห่งจักรวาล" หรือ "แก้วเล็กๆ 2 ชิ้น" (Two Small Pieces of Glass) ที่แปลตามความหมายของชื่อเรื่องในภาษาอังกฤษ ซึ่งมีเนื้อหาที่น่าสนใจและสอดรับกับปีดาราศาสตร์สากลด้วย เพราะเป็นเรื่องราวที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 400 ปีก่อน ที่กาลิเลโอนำแก้วชิ้นเล็กๆ 2 ชิ้น มาฝนเป็นเลนส์ และนำมาประกอบเข้าด้วยกันเป็นกล้องโทรทรรศน์ ที่กาลิเลโอใช้ส่องมองขึ้นไปบนสวรรค์เป็นครั้งแรก แต่กลับกลายเป็นประตูสู่จักรวาลของมวลมนุษย์ เป็นบ่อเกิดของความรู้ด้านดาราศาสตร์สมัยใหม่ และวิทยาการของกล้องโทรทรรศน์ในเวลาต่อมา ที่ช่วยให้มนุษย์เรามองเห็นย้อนกลับไปในเอกภพได้ถึง 13,600 ล้านปี ซึ่งดำเนินเรื่องผ่านตัวละครที่เป็นกลุ่มนักเรียนและนักดาราศาสตร์ที่ร่วมทำกิจกรรมสตาร์ปาร์ตี้ ตั้งกล้องส่องดูดาวกลางป่า
ระบบฉายแบบฟูลโดมที่ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ เริ่มเปิดฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ส.ค.52 ที่ผ่านมา ซึ่งผ่านมาแล้วประมาณ 2 สัปดาห์ อ.กระจ่างบอกว่า ยังไม่พบว่ามีปัญหาใดๆ นอกจากปัญหาเสียงขาดหายไปในช่วงท้ายของการแสดงในรอบแรกๆ ซึ่งก็ได้รับการแก้ไขให้เป็นปกติแล้ว และจากการสังเกตปฏิกิริยาผู้เข้าชม ก็เห็นว่าผู้ชมส่วนใหญ่พึงพอใจกับการแสดงดาวรูปแบบใหม่นี้ ตั้งใจชมการแสดงมากขึ้น ทุกคนได้รับความรู้และเข้าใจเกี่ยวกับกล้องโทรทรรศน์จนแทบไม่ต้องอธิบายเพิ่มเติม
นอกจากเปิดการแสดงในห้องฉายดาวตามเวลาทำการปกติแล้ว ท้องฟ้าจำลองยังได้เปิดฉายรอบพิเศษ โดยเปิดให้ผู้สนใจเข้าชมฟรี ทุกวันเสาร์ เวลา 18.00 น. ตลอดเดือน ส.ค.- ก.ย. และหากอากาศแจ่มใส ท้องฟ้าเปิด ก็จะมีกิจกรรมตั้งกล้องดูดาวด้วยหลังจากจบการแสดงรอบพิเศษดังกล่าว
เยาวชนและประชาชนที่สนใจสามารถไปชมการแสดงของท้องฟ้าจำลองกรุงเทพแบบฟูลโดมกันได้ทุกวัน อังคาร-อาทิตย์ (วันจันทร์ปิดทำการ) หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา โทรศัพท์ : 0-2391-0544, 0-2392-0508, 0-2392-1773 หรือ http://www.sci-educ.nfe.go.th