หลังร้างลาจากอนุภาคมานานเป็นปี เนื่องจากปิดซ่อมแซม ล่าสุดเซิร์นก็ได้ทดสอบยิงอนุภาคเข้าเครื่องเร่ง "แอลเอชซี" สำเร็จทั้งในทิศทางตามเข็มและทวนเข็มนาฬิกา เพื่อทดสอบระบบและซอฟต์แวร์ โดยไฮไลท์อยู่ที่การทดสอบแม่เหล็กที่เจ้าหน้าที่ระบบว่าผ่านฉลุย และขั้นต่อไปเตรียมทดสอบทั้งระบบในเดือน พ.ย.นี้
เซิร์น (CERN) ได้เดินเครื่องยิงอนุภาคทดสอบเครื่องเร่งอนุภาคแอลเอชซี (LHC) อีกครั้งเมื่อช่วง 23-25 ต.ค.ที่ผ่านมา หลังต้องปิดซ่อมแซมเครื่องเร่งอนุภาคไป จากอุบัติเหตุการทดสอบยิงลำอนุภาคครั้งแรกเมื่อเดือน ก.ย.51 ที่ผ่านมา โดยครั้งนี้เซิร์นประสบความสำเร็จในการยิงอนุภาคเข้าใน 1 เซคเตอร์ของเครื่องเร่งอนุภาคทั้งในทิศตามเข็มนาฬิกาและทวนเข็มนาฬิกา ซึ่งเครื่องตรวจวัดอนุภาคอลิซ (ALICE) และแอลเอชซีบี (LHCb) สามารถตรวจจับผลการทดลองแรกจากการยิงลำอนุภาคจริงๆ นี้
ในการทดลองเมื่อวันที่ 23 ต.ค.52 ที่ผ่านมา ลำไอออนตะกั่วลำแรกถูกยิงเข้าสู่ท่อของเครื่องเร่งแอลเอชซี โดยก่อนหน้านั้นเมื่อช่วง 25-26 ก.ย. ลำไอออนของตะกั่วถูกยิงจากเครื่องกำเนิด มาถึงปากทางจุดเริ่มต้นของแอลเอชซี โดยครั้งล่าสุดนี้ลำไออนได้ผ่านแอลเอชซีไปก่อนถึงจุด 2 (point 2) ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เครื่องตรวจวัดอนุภาคอลิซติดตั้งอยู่ แล้วถูกทิ้งก่อนถึงจุด 3 ซึ่งการทดลองครั้งนี้ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญเครื่องจักรได้ทดสอบการเดินเครื่องของระบบยิงลำอนุภาคและเซคเตอร์ 1-2 ของเครื่องแอลเอชซี
เครื่องตรวจวัดอนุภาคของอลิซ ถูกเปิดใช้งานแล้วได้เห็นลำอนุภาคเป็นครั้งแรก ซึ่งช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องจักรได้ปรับเทียบกับนาฬิกาของแอลเอชซีให้ตรงกัน โดยตรวจดูกลุ่มอนุภาคที่ผ่านเข้าไปยังเครื่องเร่งอนุภาคอย่างละเอียด โดยเครื่องตรวจวัดนี้สามารถตรวจสอบการพุ่งชนได้ถึง 400,000 ครั้ง รวมถึงตรวจสอบปัจจัยขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อลำอนุภาค
ถัดมาอีกวันเซิร์นได้ทดสอบยิงลำโปรตอนครั้งแรก เข้าสู่ท่อของแอลเอชซีในทิศทวนเข็มนาฬิกา และโปรตอนได้ผ่านเครื่องตรวจวัดแอลเอชซีบี ซึ่งอุปกรณ์ตรวจวัดถูกปิดเพื่อความปลอดภัยในการทดลองที่มีความซับซ้อน มีเพียงจอตรวจวัดลำอนุภาคและสัญญาณพื้นหลังที่ถูกเปิด และเจ้าหน้าที่สามารถที่จะศึกษาคุณสมบัติของระบบเหล่านี้ได้
รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่ได้ศึกษาชนิดและระดับของสัญญาณพื้นหลัง เพื่อคาดการณ์สัญญาณที่จะเกิดขึ้นที่การดำเนินการในระดับปกติ รวมทั้งหาความสัมพันธ์กัน อีกนัยหนึ่งการทดลองเดินเครื่องครั้งนี้เป็นโอกาสในการทดสอบการทำงานของระบบซอฟต์แวร์ตรวจวัดลำอนุภาค ซึ่งใช้ในการตรวจสอบเงื่อนไขของข้อมูลและช่วยให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานได้อย่างปลอดภัยและเหมาะสม
สำหรับจุดสำคัญของการทดลองครั้งนี้คือการเปิดให้แม่เหล็กของแอลเอชซีบีทำงาน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสามารถวัดผลที่เกิดขึ้นจากลำอนุภาคของแอลเอชซี และปรับค่าชดเชยทางด้านแม่เหล็กรอบๆ เครื่องตรวจวัดแอลเอชซีบี เพื่อนำลำอนุภาคให้กลับเข้าสู่วิถีโคจร และการดำเนินการครั้งนี้เซิร์นระบุว่าประสบความสำเร็จอย่างดีมาก
ขณะที่มีการทดสอบการยิงลำอนุภาคก็มีการทดสอบกำลังของแม่เหล็กของแอลเอชซี 7 ใน 8 เซคเตอร์ ซึ่ง 5 เซคเตอร์มีความพร้อมอยู่ในระยะที่ 2 ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถเดินหน้าจ่ายกระแสไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 2 กิโลแอมป์ ซึ่งช่วยให้ลำอนุภาควิ่งสู่ระดับพลังงาน 1.2 เราอิเล็กตรอนโวลต์ได้ ส่วนการทดสอบในเซคเตอร์ที่เหลือคือ 3-4 จะเริ่มได้ในเดือน พ.ย.นี้ และระบบป้องกันการเกิด "เควนช์" (quench) อย่างที่เคยเกิดในการเดินเครื่องเมื่อปีที่แล้วได้รับการทดสอบว่าทำงานได้ดี