xs
xsm
sm
md
lg

"มหัศจรรย์แห่งดวงดาว" ผู้ให้ "กำเนิดชีวิต" หนังวิทย์น่าดูที่ท้องฟ้าจำลองรังสิต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพจากภาพยนตร์เรื่อง มหัศจรรย์แห่งดวงดาว (ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา รังสิต)
สิ่งมีชีวิตที่มีความเฉลียวฉลาด (นอกจากมนุษย์โลก) อาจมีอยู่แต่ในความฝันเท่านั้นหรือ? คือสิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจของมนุษย์มานานแสนนาน เช่นเดียวกับปริศนาที่ว่า สิ่งมีชีวิตเกิดขึ้นได้อย่างไร? ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTVผู้จัดการออนไลน์ ชวนทุกคนไปร่วมค้นหาคำตอบพร้อมความตื่นตาตื่นใจในภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ "กำเนิดสิ่งมีชีวิต" และ "มหัศจรรย์แห่งดวงดาว"

ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา รังสิต ร่วมกับศูนย์สื่อสารวิทยาศาสตร์ไทย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ได้ฉายภาพยนตร์สารคดีวิทยาศาสตร์เรื่อง "กำเนิดชีวิต" (Origins of Life) และ "มหัศจรรย์แห่งดวงดาว" (Stars) ณ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา รังสิต คลองหก จ.ปทุมธานี ซึ่งทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTVผู้จัดการออนไลน์ ได้เข้าร่วมงานพร้อมสื่อมวลชนอีกหลายแขนง

ก่อนการฉายภาพยนตร์ในรอบสื่อมวลชน ได้มีการเสวนาเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว โดย ดร.นำชัย ชีววิวรรธน์ นักวิชาการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) และ อาจารย์นิพนธ์ ทรายเพชร ราชบัณฑิตสาขาดาราศาสตร์ ร่วมด้วยนายปัญญา ศรีกระจ่าง หัวหน้าส่วนท้องฟ้าจำลอง และนายจุมพล เหมะคีรินทร์ ผอ.ศูนย์สื่อสารวิทยาศาสตร์ไทย เป็นผู้ดำเนินรายการ

ดร.นำชัย กล่าวว่า ชาร์ลส ดาร์วิน ไม่ได้อธิบายว่าชีวิตแรกกำเนิดขึ้นอย่างไร แต่ภาพยนตร์เรื่องกำเนิดชีวิตได้พยายามรวบรวมข้อเท็จจริงและความรู้ที่มีอยู่ในปัจจุบันเพื่อบอกเล่าว่าชีวิตแรกบนโลกใบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร โดยเชื่อว่าชีวิตแรกอาจจะเริ่มต้นจากสิ่งมีชีวิตหน้าตาคล้ายแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ใต้พื้นมหาสมุทร และค่อยๆมีการปรับตัว เปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีโครงสร้างสลับซ้อน และพัฒนามาสู่ทุกชีวิตในปัจจุบัน ตลอดจนความพยายามค้นหาสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาบนดาวดวงอื่นในเอกภพ

ด้านอาจารย์นิพนธ์ กล่าวเสริมว่า ชีวิตที่เฉลียวฉลาดบนดาวดวงอื่นนั้นอาจมีอยู่แต่ในความฝัน แต่เป็นความจริงบนโลกของเราเท่านั้น แม้เราจะพยายามค้นหาระบบดาวและดาวเคราะห์ที่มีลักษณะใกล้เคียงกับโลก ทั้งตำแหน่ง วงโคจร มวลสาร และสภาพแวดล้อม ที่อาจจะมีชีวิตอาศัยอยู่ได้ แต่ขณะนี้ก็ยังไม่พบ และโลกของเรานั้นก็อาจเป็นสิ่งพิเศษเพียงหนึ่งเดียวในเอกภพก็เป็นได้ แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าขาดดาวดวงอื่นไป ก็อาจไม่มีชีวิตเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ได้ โดยเฉพาะดาวฤกษ์ เพราะธาตุต่างๆที่มีอยู่ในสิ่งมีชีวิตนั้นล้วนเป็นธาตุที่มีอยู่ในโลก และโลกก็ได้รับธาตุเหล่านี้มาจากดวงอาทิตย์นั่นเอง

ดวงดาวคือชีวิต กำเนิดชีวิต คือ กำเนิดดวงดาว

เมื่อกว่า 150 ปีมาแล้ว ชายฝั่งของหมู่เกาะกาลาปากอสเคยต้อนรับการมาเยือนของ ชาร์ลส ดาร์วิน และเรือหลวงบีเกิล และที่หมู่เกาะแห่งนี้นี่เองที่ทำให้ดาร์วินได้ค้นพบทฤษฎีวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต โดยกลไกการคัดสรรในธรรมชาติ ซึ่งเป็นทฤษฎีที่ช่วยอธิบายความซับซ้อนและความหลากหลายทางชีวภาพในธรรมชาติได้อย่างลึกซึ้ง เว้นแต่ กำเนิดของชีวิต

ในภาพยนตร์เรื่อง กำเนิดชีวิต เรือดำน้ำอัลวินจะพาเราดำดิ่งลึกลงไปใต้น้ำบริเวณหมู่เกาะแห่งเดียวกัน ไปยังดินแดนที่ยังไม่เคยมีใครแหวกว่ายลงไปมาก่อน ณ ใต้ทะเลลึกแห่งนี้มีสภาพแวดล้อมที่แตกต่างไปจากที่เราเคยเห็นบนพื้นผิวโลกโดยสิ้นเชิง เพราะเป็นดินแดนที่มืดมิด เต็มไปด้วยไอน้ำร้อนและกำมะถันที่พวยพุ่งออกมาจากปล่องน้ำร้อนที่เรียงรายอยู่มากมาย ด้วยอุณหภูมิสูงถึง 400 องศาเซลเซียส ซึ่งไม่เอื้อต่อรูปแบบของสิ่งมีชีวิตโดยทั่วไป

ทว่ากลับมีบางชีวิตที่สามารถดำรงอยู่ได้อย่างไม่น่าเชื่อ และบางทีอาจมีชีวิตแบบนี้อยู่บนดาวดวงอื่นในเอกภพก็เป็นได้ ซึ่งนั่นก็ยังไม่ใช่คำตอบของกำเนิดชีวิตที่แท้จริง หากแต่เราต้องย้อนเวลากลับไปยัง กำเนิดของเอกภพ เมื่อประมาณ 14,000 ล้านปีที่แล้ว จนกระทั่งถึงกำเนิดดาวฤกษ์ ปัจจัยสำคัญที่ให้กำเนิดดาวเคราะห์และสิ่งมีชีวิตในกาลต่อมา ดังเช่นดวงอาทิตย์ โลก และสิ่งมีชีวิตบนโลก ผ่านกระบวนการวิวัฒนาการนานนับพันล้านปี มีความหลากหลายของสปีชีส์นับไม่ถ้วน บางชนิดดับสูญ บางชนิดก่อเกิดขึ้นใหม่

จนกระทั่งมนุษย์ โฮโม ซาเปียนส์ (Homo sapiens) ถือกำเนิดขึ้นมา และมีลักษณะโดดเด่นแตกต่างจากสิ่งมีชีวิตอื่นชัดเจนด้วยสมองและภูมิปัญญาที่สามารถเรียนรู้และพัฒนาในสิ่งที่ชีวิตอื่นทำไม่ได้ อีกทั้งจินตนาการอันซับซ้อน ที่สะท้อนให้เกิดความคิดและคำถามสุดแสนท้าทายว่า สิ่งมีชีวิตบนโลกถือกำเนิดขึ้นได้อย่างไร และเป็นเพียงหนึ่งเดียวในเอกภพหรือไม่ ทำให้มนุษย์พยายามค้นหาคำตอบด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศเพื่อสำรวจจักรวาลและหาสัญญาณชีพบนดาวดวงอื่นๆ

มนุษย์ส่วนใหญ่เชื่อว่าน่าจะมีสิ่งมีชีวิตเล็กๆ คล้ายจุลชีพดำรงอยู่ในระบบดาวอื่นในเอกภพ แต่ชีวิตที่มีความเฉลียวฉลาด อาจหายากหรือมีอยู่บนโลกเพียงแห่งเดียว และชีวิตที่เฉลียวฉลากเหล่านั้นอาจมีอยู่แต่ในความฝันของเราเท่านั้น

"มหัศจรรย์แห่งดวงดาว" จุดจบดาวดวงเดิม คือจุดเริ่มต้นดาวดวงใหม่

สิ่งมีชีวิตมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปอย่างไร ดวงดาวก็ไม่ต่างไปจากกัน จุดจบชีวิตของดาวฤกษ์เป็นอีกหนึ่งความน่าสะพรึงกลัวในจักรวาลที่ แต่แฝงไปด้วยความมหัศจรรย์แห่งดวงดาว

มนุษย์ในยุคโบราณเชื่อว่าโลกเป็นศูนย์กลางของจักรวาล และมีตำนานเล่าขานเรื่องราวบนท้องฟ้าและดวงดาวมายาวนาน จนเมื่อเริ่มมีการศึกษาดวงดาวอย่างเป็นระบบมากขึ้นตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ จีนโบราณ กรีก และชาวเปอร์เซีย ความรู้ทางด้านดาราศาสตร์จึงค่อยๆ ได้รับการสะสมและพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ เช่น บอกทิศทางการเดินเรือ คำนวณฤดูกาลเพาะปลูก

กระทั่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของมนุษย์ได้มาถึงในช่วงศตวรรษที่ 16 เมื่อโคเปอร์นิคัส นักดาราศาสตร์ชาวโปแลนด์ได้แย้งความเชื่อเก่า โดยเสนอทฤษฎีใหม่ที่ว่าโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ และไม่ได้เป็นศูนย์กลางของจักรวาล และเป็นการเปิดศักราชใหม่ของการศึกษาดาราศาสตร์และเอกภพในยุคต่อมา ไม่ว่าจะเป็นกาลิเลโอ, ไอแซก นิวตัน, อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์

ภาพดวงดาวที่เราเห็นจากกล้องโทรทัศน์นั้นเป็นแสงสีขาวที่ตาเรามองเห็นได้ และเป็นส่วนหนึ่งเพียงน้อยนิดที่เรามองเห็น แต่ในที่สุดเมื่อมนุษย์สร้างอุปกรณ์ที่ช่วยให้สามารถมองเห็นได้ภายใต้คลื่นช่วงต่างๆ ปริศนาที่เคยดำมืดก็ค่อยๆ คลี่คลายออกมา

ดาวยักษ์แดง คือวาระสุดท้ายของชีวิตดาวฤกษ์ เมื่อถึงกาลดับสูญ ดวงดาวจะระเบิดเป็น "ซูเปอร์โนวา" ปลดปล่อยพลังงานจำนวนมหาศาลออกมาในชั่วพริบตา และหลงเหลือไว้แต่เพียงเศษซากฝุ่นละอองและกลุ่มก๊าซที่เราเห็นเป็น "เนบิวลา" จนเวลาผ่านเลยไปนานแสนนาน เศษซากเหล่านี้เริ่มกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง ก่อเกิดเป็นดาวฤกษ์ดวงใหม่ และหมุนวนไปในวัฎจักรชีวิตของดวงดาวที่ได้ชื่อว่าดาวฤกษ์ อัญมณีแห่งท้องฟ้าที่ให้แสงสว่างแก่จักรวาล ให้พลังงาน และให้กำเนิดสรรพชีวิตบนโลก

ทว่ามหัศจรรย์แห่งดวงดาวยังไม่สิ้นสุดเพียงเท่านี้ เพราะยังมีเรื่องราวลึกลับซับซ้อนและมหัศจรรย์ยิ่งกว่าอยู่ใน "หลุมดำ" จุดจบของดวงดาวอีกรูปแบบหนึ่ง ที่มนุษย์ยังต้องศึกษาและไขปริศนากันต่อไป

นี่เป็นเพียงเรื่องราวส่วนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "กำเนิดสิ่งมีชีวิต" และ "มหัศจรรย์แห่งดวงดาว" ที่มีความยาวเรื่องละ 23 นาที ผลิตโดยบริษัทมิราจ ประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่ให้ความตื่นตาตื่นใจ ท้าทายความอยากรู้อยากเห็นของมนุษยชาติ และมีเนื้อหาที่เสริมอรรถรสกันเป็นอย่างดี ซึ่งศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา รังสิตได้คัดเลือกและซื้อลิขสิทธิ์มาฉายในเมืองไทยเพื่อร่วมเฉลิมฉลองในวาระครบ 200 ปี ชาร์ลส์ ดาร์วิน และ 150 ปี การตีพิมพ์หนังสือที่ว่าด้วยกำเนิดสรรพชีวิต (Origins of Species) ที่ตรงกับปีดาราดาราศาสตร์สากล เนื่องในวาระครบรอบ 400 ปี ที่กาลิเลโอใช้กล้องโทรทรรศน์ส่องมองอวกาศเป็นครั้งแรก

ทั้งนี้ ภาพยนตร์ทั้ง 2 เรื่อง จะฉายด้วยเครื่องฉายระบบดิจิทัลผ่านโปรเจคเตอร์ 6 ตัว ภายในท้องฟ้าจำลองที่มีลักษณะเป็นโดมเส้นผ่านศูนย์กลาง 18.5 เมตร และเอียงทำมุม 25 องศากับพื้นราบ ทำให้ผู้ชมสามารถชมภาพยนตร์ได้ในมุมมอง 180 องศา ตื่นตาตื่นใจเสมือนได้โลดแล่นสู่โลกในภาพยนตร์ โดยเรื่อง "กำเนิดสิ่งมีชีวิต" เริ่มฉายตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย. 52 และ "มหัศจรรย์แห่งดวงดาว" จะเริ่มฉายตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 52 เป็นต้นไป

ผู้สนใจสามารถข้าชมได้ที่ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ทุกวันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) ตั้งแต่เวลา 09.00-15.00 น. (เสาร์-อาทิตย์ เพิ่มรอบ 16.00 น.) โดยบัตรเข้าชมราคา 30 บาท/ที่นั่ง หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0-2577-5455
โปสเตอร์ภาพยนตร์เรื่อง กำเนิดชีวิต (ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา รังสิต)






ภาพจากภาพยนตร์เรื่อง กำเนิดชีวิต (ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา รังสิต)

ภาพจากภาพยนตร์เรื่อง กำเนิดชีวิต (ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา รังสิต)
ภาพจากภาพยนตร์เรื่อง กำเนิดชีวิต (ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา รังสิต)
โปสเตอร์ภาพยนตร์เรื่อง มหัศจรรย์แห่งดวงดาว (ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา รังสิต)
ภาพจากภาพยนตร์เรื่อง มหัศจรรย์แห่งดวงดาว (ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา รังสิต)
ภาพจากภาพยนตร์เรื่อง มหัศจรรย์แห่งดวงดาว (ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา รังสิต)
 ภาพจากภาพยนตร์เรื่อง มหัศจรรย์แห่งดวงดาว (ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา รังสิต)
ภายในโดมท้องฟ้าจำลอง ที่รองรับผู้เข้าชมได้ 160 ที่นั่ง (ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา รังสิต)
บรรยากาศระหว่างการแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์เรื่อง กำเนิดชีวิต และ มหัศจรรย์แห่งดวงดาว ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา รังสิต เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 2552
ดร.นำชัย ชีววิวรรธน์ (ซ้าย) และนายจุมพล เหมะคีรินทร์
อาจารย์นิพนธ์ ทรายเพชร
นายปัญญา ศรีกระจ่าง
กำลังโหลดความคิดเห็น