xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” ยิง 3 ดอกสยบ “เนวิน” ดับอหังการพ่อ-ลูกซิโนไทย

เผยแพร่:   โดย: นกหวีด

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
“เธอหมุนรอบฉัน ฉันหมุนรอบเธอ”

เพราะวงโคจร “ดวงดาวการเมือง” มิได้เป็นเช่นนั้น ดาวแต่ละดวง ล้วนอยากเป็นดาวฤกษ์มีแสงในตัวเอง เลยพากันเปล่งโชนรังสีอำมหิต ทางเดินวงโคจรก็ย่อมทับซ้อนเกี่ยวชนกันให้เห็นเรื่อย

ตัวอย่างเห็นได้ชัดในท้องฟ้าการเมืองไทยเวลานี้ “สตาร์ออกซฟอร์ด” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็อยากที่จะดำรงสภาพความเป็นดาวดวงใหม่ ที่ฉายแสงด้วยตัวเอง

ขณะเดียวกัน ที่น่าสนใจก็ “ดาวกันตรึม” จากแดนอีสานใต้ เนวิน ชิดชอบ ก็ระดับดาวฤกษ์ค้างฟ้า ที่ความทะเยอทะยานพุ่งสูงสุดขีด

ไม่แปลกที่รอบวงโคจร จะมาเกี่ยวชนกัน

ตั้งแต่พลิกข้างย้ายขั้วมาร่วมจัดตั้งรัฐบาลกันโน่นเลย “อภิสิทธิ์-เนวิน” ที่น้ำต้มผักยังว่าหวาน ดื่มด่ำรสน้ำผึ้งพระจันทร์กันไม่นาน ก็เกิดอาการระหองระแหง แม้ไม่เตียงหัก แต่ขาเตียงก็โยกคลอนเต็มที

การขัดแข้งขัดขาเป็นระยะๆ มีกรณีขัดแย้งสารพัด ระหว่างผู้นำพรรคประชาธิปัตย์ และผู้มีบารมีเหนือพรรคภูมิใจไทย ตั้งแต่ในเรื่องเรื่องงบฯ เมกะโปรเจกต์ ไปจนกระทั่งการบริหารงานบุคคล การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ

จนกระทั่งที่ร้อนสุดขีด กรณีการแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ ที่ต่างฝ่ายต่างถือหาง เป็นสปอนเซอร์คนละข้าง แย่งกันสนับสนุน “บิ๊กตำรวจ” คู่แคนดิเดต

ประเด็นความขัดแย้งนั้น บางครั้งนายกฯก็ผ่อนเครื่อง ลดความเขม็งเกลียว แต่ล่าสุดหลัง “เนวิน” พ้นจากชนักคดี ตั้งแต่คดีกล้ายาง คดีหวยบนดิน ก็เริ่มออกฤทธิ์ออกเดช แสดงทีท่าผยองเป็น “พยัคฆ์ติดปีก” รุกไล่ เอาล่อเอาเถิดผู้นำหนักข้อขึ้น

น่าสนใจที่ เกมเพาเวอร์เพลย์ ชิงอำนาจในทางการเมือง เมื่อเดินมาถึงจุดนี้ หากสังเกตดีๆ “อภิสิทธิ์” ที่เริ่มตั้งลำได้ ตั้งไข่ก้าวเดินบนถนนการเมืองด้วยตัวเอง ผ่านมาได้หลายหลักไมล์

“ต้นขั้ว”ของก๊วนอำนาจใหม่ “พี่ใหญ่สาม ป.” ว่าแข็งแกร่ง ยังกล้าลองของด้วย ประสาอะไรกับแค่หุ้นส่วนสายการเมือง “บูรพาพยัคฆ์” อย่างเนวิน

คนที่เชื่อมั่นในตัวเองสูงแบบอภิสิทธิ์ มีหรือจะลดราวาศอกให้


ย่อมเป็นเป้าหมายที่ “นักฆ่าหน้าเด็ก” ต้องเด็ดปีก ดับซ่าพยัคฆ์ลำพอง!!

ถ้าประเมินลึกในรายละเอียด ที่ว่าพรรคภูมิใจไทยเริ่มได้เปรียบ ภายหลังเนวินหลุดรอดคดี ทั้งเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เริ่มเดินหน้า โครงการร้อนรถเมล์เอ็นจีวี4พันคัน ที่ผ่าน ครม.ฉลุยแล้ว ขณะที่ปมแต่งตั้ง ผบ.ตร. ที่ยังยึกยักยื้อเกมยาว

แต่ข้อเท็จจริง ถ้าดูให้ดี เหล่านี้คือปมร้อน “3 ดอก สยบมารผจญ” ของอภิสิทธิ์ต่างหาก?

คนการเมืองก็อ่านกันออก งานนี้อภิสิทธิ์ เล่นแรงแล้ว เอาจริงกับการเปิดหน้าชนกับพรรคภูมิใจไทยไล่ตั้งแต่กรณีการผ่านอนุมัติในหลักการโปรเจกต์รถเมล์เอ็นจีวี ที่สุดท้ายก็มีเงื่อนไขที่ละเอียด และยากต่อการปฏิบัติ

ทั้งเงื่อนไข การจัดหาอู่จอด และปั๊มเติมก๊าซ การเลย์ออฟพนักงาน การประมูลจัดซื้อจัดจ้างที่โปร่งใส โดยมีการตั้งคณะกรรมการมากำหนดราคา ไปจนกระทั่งเงื่อนไขบริษัทที่จะเข้าประมูลโครงการ ที่กำหนดสัดส่วนบริษัทในประเทศไว้มากกว่า

เรียกว่า “ผิดแผน” พิมพ์เขียวโปรเจกต์ที่พรรคภูมิใจไทยปั้นแต่งไว้

ส่วนเรื่องรัฐธรรมนูญ หากเป็นไปตามที่นายกฯและวิปทั้งสามฝ่ายตกลง รวมด้วยขั้นตอนต่างๆ ระยะเวลา9เดือน ยื้อเวลาไปอีกเกือบปี “อภิสิทธิ์” ย่อมได้มากกว่าพรรคภูมิใจไทย

แต่ก็ไม่ถือเป็นหมัดเด็ดนายกฯ เพราะที่เป็นอีกดอกที่ระรัวยิงออกมานั้น เกิดขึ้นในวันเดียวกับ ครม.อนุมัติโครงการรถเมล์เอ็นจีวี คือ คำสั่งโยกย้าย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ออกจากตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และตั้ง ธาริษ เพ็งดิษฐ์มาทำหน้าที่แทน

หากสงสัยว่า เด้ง“ทวี”จากเก้าอี้บิ๊กเอสไอ เกี่ยวอะไรกับการเล่นเนวิน ก็ต้องบอกว่า นายตำรวจคนดังที่ว่าเติบโตมาจากระบอบทักษิณ ก็จริง แต่อย่าลืมว่ารายนี้ก็อยู่ในเครือข่าย พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย แคนดิเดต ผบ.ตร. ที่พรรคภูมิใจไทยหนุนอยู่

ที่สำคัญว่ากันว่า วันนี้สีแดงจัดอย่าง “ทวี” เปลี่ยนสีไปเป็น “นายตำรวจสีน้ำเงิน” เรียบร้อย เพราะสนิทสนมกับนายเนวิน และก็เป็น “นายใหม่” รายนี้ใช้บารมีคุ้มภัย ทำให้เกมปลดอธิบดีดีเอสไอ ที่ประชาธิปัตย์จ้องเชือดมาตลอด ยื้อยาวมาจนวันนี้

แต่ที่ต้องบอกว่า เป็นไฮไลต์จริงๆ เหตุเกิดก่อนหน้าวันประชุม ครม. 29 กันยายนที่ผ่านมา ที่กลายเป็นฟางเส้นสุดท้าย ทำให้นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการนายกฯ เมื่อวันที่30กันยายน หลังระหองระแหงกับผู้นำมาพักหลัง

ว่าด้วยกรณีปัญหา การ แต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่

มีกระแสข่าวว่า ก่อนที่อภิสิทธิ์จะแต่งตั้ง พล.ต.อ.ปทีป ขึ้นรักษาการในตำแหน่ง ผบ.ตร. พอมีข่าวเรื่องนี้เท่านั้น “นิพนธ์” หัวหอกกลุ่มพลังต้านอำนาจนายกฯอภิสิทธิ์ไม่ให้เลือก พล.อ.ต.ปทีปแต่จะเอา พล.ต.อ.จุมพลอยู่เฉยไม่ได้

พยายามเข้าหาล็อบบี้ “ผู้ใหญ่” ที่นายกฯ อภิสิทธิ์เคารพและเชื่อฟังมากที่สุดท่านหนึ่ง เพื่อขอให้ช่วยกล่อมเปลี่ยนการตัดสินใจ แต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ “อภิสิทธิ์” เดินหน้าทำตามที่ตัวเองต้องการ

และแน่นอน เมื่อนิพนธ์ไขก๊อก ลาตำแหน่งเลขาธิการนายกฯ ไปแล้ว ก็เท่ากับว่าเขาได้หมดบทบาท “หนังหน้าไฟ” ไปด้วยในทันที ขณะที่อีกกระแสหนึ่งก็ว่า การถอยออกมาครั้งนี้ของนิพนธ์ เพราะเริ่มเห็นอะไรๆ เด่นชัดขึ้น ว่างานนี้ได้ไม่คุ้มเสีย

เพราะที่จะได้มากกว่า คือพรรคภูมิใจไทย ที่มีแผน ยัดส่งบุคคลในเครือข่ายของตัวเองลงไปในขุมอำนาจต่างๆ สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็คืออีกองค์กรหนึ่ง ที่ค่ายสีน้ำเงินพยายามแผ่อิทธิพล ต้องการสยายปีกเข้าไปควบคุมเบ็ดเสร็จ

แต่เมื่อต้องเสีย “ตัวเชื่อม” ที่เริ่มรู้ตัวว่าเป็นม้าใช้อย่าง “นิพนธ์” ไป อีกทางหนึ่งก็กระทบกระเทือนโดยตรงไปถึงแผนการของบรรดาคนใหญ่คนโตในพรรคภูมิใจไทย ในแผนสร้าง “รัฐตำรวจ” เวอร์ชัน “สีน้ำเงิน” ที่เสี่ยงที่จะพังพาบในเร็ววันนี้

ไม่แปลกใจ เมื่อเริ่มเห็นการวิ่งพล่านของบรรดาแกนนำพรรคภูมิใจไทย ที่เริ่มแสดงตัวแสดงความต้องการ หลังปิดบังอำพราง หลบอยู่หลังฉากมาตลอด

“คุณแอบสีน้ำเงิน” โผล่!

นอกจาก “เนวิน” ยังมี “พ่อลูกซิโนไทย” ทั้งนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล และ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล ลูกชาย เริ่มเดินจากมุมมืด ออกมางัดข้อกับอภิสิทธิ์หลายครั้ง


หลังจากที่ก่อนหน้าพยายามปล่อยข่าว โยนปมความขัดแย้งการแต่งตั้ง ผบ.ตร.เป็นเรื่องที่คนในพรรคประชาธิปัตย์ขัดแย้งกันเอง

โดยเฉพาะ “เสี่ยหนู-อนุทิน” ที่กำลังมั่นใจในศักยภาพ และซูเปอร์คอนเนกชัน แม้จะมาทีหลังแต่ก็ฮึกเหิมจนประเมินตัวเองสูงไปว่า ทาบรัศมีเทียบชั้นกับนิพนธ์ที่เป็นรุ่นพี่ร่วมเครือข่าย…

ที่สำคัญ หลังจากได้สนิทสนมร่วมวงใกล้ชิดกับเนวิน เชื่อมนักการเมืองระดับเก๋าเกม มีซูเปอร์คอนเนกชันชั้นพิเศษ อีกทั้งได้ร่วมเป็นสมาชิกในเครือข่ายสีเขียวขั้วอำนาจใหม่กับทางปีก “บูรพาพยัคฆ์” ที่ผงาดยกแผงในกองทัพ

จน “อนุทิน” คงคิดว่าตัวเองได้เรียนลัดในหลักสูตร บันไดสร้างตัวเองไปสู่ความยิ่งใหญ่ ใกล้จบเล่มแล้ว

โดยลืมคิดไปว่า ความยิ่งใหญ่ที่แท้จริงนั้น ต้องมาจากการสั่งสมบุญบารมี และสร้างความดีความงาม ไม่ใช่เพียงการหว่านโปรย ตีราคาความสัมพันธ์คอนเน็กชั่นอย่างผิวเผินเท่านั้น

และที่ต้องสะกิดเตือนให้ระวัง และอย่าคิดว่าคนอื่นไม่รู้ คนดูตามไม่ทัน คิดว่าเข้าขั้นระดมเซียนเหยียบเมฆ ในการปล่อยวิชามารทางการเมือง โดยเฉพาะการ “ปล่อยข่าว” ที่แม้แต่มือใหม่ นักการเมืองปลายแถว ก็ทำกันเป็น

เช่นกรณีล่าสุด กับกระแสข่าวปล่อย อภิสิทธิ์ เข้าหารือนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกฯ ที่บ้านพักย่านรามคำแหง โดยมีนายสนธิ ลิ้มทองกุล หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ เข้าร่วมด้วย และหารือถึงประเด็นร้อน ผบ.ตร.

“ข้อมูลลวง” ที่ “เสี่ยหนู-อนุทิน” คือ ผู้ที่กระซิบนักข่าวให้เขียนลงสื่อในเครือย่านประชาชื่น ที่เป็นมือเป็นไม้ให้กับลูกเศรษฐีริจะเล่นกับอำนาจรายนี้ เล่นเกม “ปล่อยข่าว” ที่ได้เรียนรู้จากรุ่นพี่บางคน ทำซ้ำทำบ่อยจนคิดว่าตัวเองเชี่ยวชาญ ไม่มีใครจับทางได้

และที่น่าจะเป็นสัญญาณอันตราย เตือน “พ่อ-ลูกชาญวีรกูล” ไว้ล่วงหน้า คีย์แมนผู้สนับสนุนหลักพรรคภูมิใจไทย ก็หนีไม่พ้นที่จะตกเป็นเป้าหมายของขั้วประชาธิปัตย์ ที่จับจ้องรอจังหวะสอยร่วงอยู่

กับปมที่คณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริต สภาผู้แทนราษฎร ที่คนพรรคสีฟ้าคุมเกมอยู่ เริ่มเกาะติดในประเด็นการประมูลจัดซื้อจัดจ้างโครงการแอร์พอร์ตลิงค์ ของบริษัทซิโนไทย

คนในรัฐบาล สายประชาธิปัตย์ถือดาบรอเชือด ขณะที่ “คนเสื้อแดง” ของทักษิณ ก็รอถล่ม วันนี้ “พรรคสีน้ำเงิน” ภูมิใจไทย จึงต้องเผชิญหน้ากับสองฝ่าย รับศึกพร้อมกันทั้งสองด้าน

หากไม่ลดดีกรีผยอง คิดจะเบียดแทรกขึ้นเป็นขั้วอำนาจใหม่ ก็รอวันโดนดับอหังการได้เลย!
เนวิน ชิดชอบ
อนุทิน ชาญวีรกุล
กำลังโหลดความคิดเห็น