คิดสูตรเอนไซม์ย่อยกระดาษลามิเนท เปลี่ยนขยะไร้ค่าเป็นวัสดุมีราคา

เอกชนไทยคิดค้นเทคโนโลยีย่อยกระดาษลามิเนทเป็นรายแรกของโลก คว้ารางวัลเหรียญทอง ITEX 09 ใช้เอนไซม์ย่อยกล่องนม ซองบุหรี่ กระดาษสติ๊กเกอร์ แยกกระดาษจากพลาสติก/อลูมินั่ม ช่วยลดปริมาณขยะ เพิ่มมูลค่าของเหลือทิ้ง เตรียมเปิดโรงงานต้นแบบที่ฉะเชิงเทรา

นายไพจิตร แสงไชย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เคม ครีเอชั่น จำกัด คิดค้นเทคโนโลยีสำหรับการนำกระดาษลามิเนทกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งได้นำไปร่วมแสดงในงานนิทรรศการสิ่งประดิษฐ์ นวัตกรรม และเทคโนโลยีนานาชาติ หรือไอเท็กซ์ 09 (International Invention, Innovation and Technology Exhibition: ITEX 09) ที่จัดขึ้นในประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 15-19 พ.ค.52 ที่ผ่านมา โดยการสนับสนุนของศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี (ทีเอ็มซี) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) พร้อมกับสร้างชื่อเสียงให้ประเทศด้วยการได้รับรางวัลเหรียญทอง ITEX 09 สาขาสิ่งแวดล้อมและพลังงาน

นายไพจิตรเปิดเผยกับทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTVผู้จัดการออนไลน์ว่า กระดาษลามิเนท เป็นกระดาษชนิดพิเศษที่มีพลาสติกหรืออลูมินัมเป็นส่วนประกอบอยู่ด้วย มีอยู่ในกล่องเครื่องดื่ม ถุงอุตสาหกรรม ซองบุหรี่ หรือกระดาษหลังสติ๊กเกอร์ โดยกระดาษเหล่านี้มักเหลือทิ้งและย่อยสลายได้ยาก อีกทั้งยังไม่ค่อยมีการนำกลับมาใช้ใหม่ เพราะว่ายังไม่มีเทคโนโลยีรองรับการรีไซเคิลกระดาษลามิเนท โรงงานรีไซเคิลกระดาษนำไปใช้ไม่ได้ เพราะมีพลาสติกหรืออลูมินัมเจือปน ด้านโรงงานรีไซเคิลพลาสติกหรืออลูมินัมก็นำไปใช้ไม่ได้เพราะมีกระดาษเจือปนอยู่

จากปัญหาดังกล่าว ประกอบกับประสบการณ์ที่เคยทำงานเป็นวิศวกรประจำโรงงานกระดาษแห่งหนึ่ง และเคยไปศึกษาในระดับปริญญาโทด้านเทคโนโลยีกระดาษและบรรจุภัณฑ์ที่สถาบันเทคโนโลยีโรเชสเตอร์ (Rochester Institute of Technology) สหรัฐอเมริกา นายไพจิตรจึงได้ออกมาตั้งบริษัทเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการย่อยกระดาษลามิเนท ซึ่งยังไม่มีที่ใดในโลกเคยทำได้มาก่อน

"ขณะที่ศึกษาอยู่ที่สหรัฐฯ เกี่ยวกับการย่อยกระดาษ โดยที่นั่นเขาพยายามใช้เอนไซม์เพียงชนิดเดียวย่อยกระดาษทุกชนิดให้ได้ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลย จึงได้เกิดแนวคิดพัฒนาสูตรเอนไซม์สำหรับย่อยกระดาษลามิเนทนี้ขึ้นมา เพื่อแยกกระดาษลามิเนทให้เป็นกระดาษและพลาสติก/อลูมินัม ซึ่งสามารถนำชิ้นส่วนที่แยกได้เหล่านี้กลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ได้ทั้งหมด โดยเฉพาะอลูมินั่ม ซึ่งเป็นวัสดุราคาแพงมาก (ตันละประมาณ 2-3 แสนบาท) สามารถนำกลับไปใช้เป็นเป็นส่วนประกอบในชิ้นส่วนรถยนต์ได้" นายไพจิตร กล่าว

กระบวนการย่อยกระดาษลามิเนท เริ่มจากนำกระดาษลามิเนทใส่ลงในบ่อกวนที่มีเอนไซม์สำหรับย่อยกระดาษลามิเนท โดยกระดาษลามิเนทแต่ละชนิดจะมีสูตรของเอนไซม์และเทคนิคในการย่อยแตกต่างกันตามความเหมาะสม และใช้เอนไซม์ไม่เกิน 2 กิโลกรัม ต่อกระดาษลามิเนท 1 ตัน

เอนไซม์ในบ่อกวนจะช่วยย่อยกาว และสิ่งสกปรกต่างๆ เช่น โปรตีนและไขมันในกล่องนม หรือนิโคตินบนซองบุหรี่ คงเหลือไว้แต่กระดาษและพลาสติกหรืออลูมินั่มที่แยกออกจากกันแล้วภายในเวลาไม่เกิน 45 นาที จากนั้นนำวัสดุที่แยกได้ไปผ่านกระบวนการทำความสะอาดและนำไปรีไซเคิลต่อไปได้ทันที โดยกระดาษที่ยังไม่ผ่านการรีไซเคิลจะมีราคากิโลกรัมละประมาณ 1.5 บาท แต่เมื่อผ่านการรีไซเคิลแล้วจะมีมูลค่าราว 14 บาทต่อกิโลกกรัม สามารถนำกลับไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย เช่น ขึ้นรูปเป็นบรรจุภัณฑ์ทดแทนโฟม

"เทคโนโลยีดังกล่าวสามารถเอาชนะข้อจำกัดของโรงงานกระดาษและโรงงานพลาสติกรีไซเคิลไม่สามารถนำกระดาษลามิเนทไปใช้ได้ อีกทั้งยังทำงานง่าย ไม่ซับซ้อน และไม่สิ้นเปลืองพลังงาน ช่วยลดการใช้ทรัพยากรสำหรับผลิตสินค้าใหม่ได้" นายไพจิตร กล่าว

ทั้งนี้ ทางบริษัทได้ดำเนินธุรกิจรีไซเคิลกระดาษลามิเนทมาแล้วประมาณ 4 ปี โดยร่วมมือกับโรงงานรีไซเคิลกระดาษที่เป็นพันธมิตรกัน และขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงานต้นแบบที่ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งลงทุนประมาณ 12 ล้านบาท และสามารถย่อยกระดาษลามิเนทได้ 30 ตันต่อวัน คาดว่าจะแล้วเสร็จในราวเดือน ส.ค. นี้

นายไพจิตรบอกว่าทางบริษัทได้วางแผนการตลาดไว้ 3 ส่วน ได้แก่ การจำหน่ายเอนไซม์ (300-4,000 บาทต่อกิโลกรัม ขึ้นอยู่กับสูตรของเอนไซม์), การขายเทคโนโลยี และการร่วมลงทุนในธุรกิจรีไซเคิลทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจากการได้เข้าร่วมในงาน ITEX 09 ที่ผ่านมา ทำให้มีเอกชนในมาเลเซียจำนวน 3 ราย สนใจนำเทคโนโลยีดังกล่าวไปใช้ในมาเลเซีย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาว่าจะซื้อขายเทคโนโลยีหรือร่วมลงทุนด้วยกัน คาดว่าอีก 2 เดือนได้คำตอบ.