xs
xsm
sm
md
lg

งบวิจัยปี 53 วช. เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจพอเพียง พร้อมมุ่งแก้ปัญหารอบด้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศ.ดร.อานนท์ บุณยะรัตเวช
วช. ชี้แจงกรอบวิจัยปี 53 เน้นวิจัยกระตุ้นเศรษฐกิจพอเพียง หวังขับเคลื่อนประเทศในยุคเศรษฐกิจตกต่ำ ที่ได้รับทุนวิจัยลดลงตามสภาพ พร้อมสนับสนุนงานวิจัยแก้ปัญหารอบด้าน วางยุทธศาสตร์เชิงรุก ให้ทันประเด็นอุบัติใหม่ในอนาคต

สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) จัดประชุมชี้แจงกรอบการให้ทุนอุดหนุนการวิจัย ปีงบประมาณ 2553 ของ วช. เมื่อวันศุกร์ที่ 29 พ.ค.52 ที่ผ่านมา ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชัน กรุงเทพฯ โดยมีนักวิจัยจากทั่วประเทศกว่า 1,000 คน ร่วมฟังการชี้แจง พร้อมด้วยทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTVผู้จัดการออนไลน์ และสื่อมวลชนอีกจำนวนหนึ่ง

ศ.ดร.อานนท์ บุณยะรัตนเวช วช. กล่าวชี้แจงว่า ในปีงบประมาณ 2553 วช. ได้รับงบประมาณเกือบ 1,000 ล้านบาท ซึ่งจากปัญหาเศรษฐกิจโลก ทำให้ภาพรวมของงบประมาณที่ได้รับนั้นลดลงกว่าปีก่อนๆ เล็กน้อย แต่งบประมาณในส่วนของทุนวิจัย วช. จะไม่ปรับลดลง แต่จะตัดงบในส่วนอื่นแทน

"วช.ได้วางยุทธศาสตร์ ในการสนับสนุนการวิจัยในปีงบประมาณ 2553 เพื่อสร้างองค์รวม การบริหารจัดการวิจัยที่มีความร่วมมือกัน ระหว่างหน่วยงานต่างๆ สร้างกลไกขับเคลื่อนงานวิจัย ด้วยระบบสารสนเทศที่ทำให้ติดตามประเมินความก้าวหน้าของงานวิจัยได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น พัฒนางานวิจัยให้ก้าวทันกับสถานการณ์โลกในทุกประเด็นปัญหา รวมถึงการวิจัยเชิงรุกเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ดังเช่น งานวิจัยเรื่องไข้หวัดใหญ่ที่ได้ให้การสนับสนุนตั้งแต่ปี 47 และเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น งานวิจัยดังกล่าวก็สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทันที" เลขาธิการ วช. กล่าว

ทั้งนี้ วช. ได้กำหนดกรอบการวิจัยในปีงบประมาณ 2553 โดยแบ่งเป็น 11 เรื่องหลัก ได้แก่ การประยุกต์ใช้เศรษฐกิจพอเพียง, ความมั่นคงของรัฐและการเสริมสร้างธรรมาภิบาล, การเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรเพื่อการส่งออกและลดการนำเข้า, เทคโนโลยีใหม่และเทคโนโลยีที่สำคัญเพื่ออุตสาหกรรม, การบริหารจัดการการท่องเที่ยว, การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ, การจัดการขยะ, พลังงานทดแทน, พลาสติกชีวภาพ, สังคมผู้สูงอายุ และโลจิสติกส์ โดยจะให้ความสำคัญในทุกๆ ด้านเท่าเทียมกัน โดยพิจารณาตามความเหมาะสม

สำหรับประเด็นปัญหาเร่งด่วนที่ต้องการการศึกษาวิจัยเพื่อแก้ไขในเรื่องของไข้หวัดใหญ่, ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ และพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ โดยในส่วนของไข้หวัดใหญ่ ได้ให้ทุนนักวิจัยศึกษาทำความเข้าใจกับเชื้อไวรัส ตลอดจนการพัฒนาไปสู่วิธีตรวจวินิจฉัยที่รวดเร็วและคิดค้นวัคซีนป้องกัน

ส่วนการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ จะเน้นการวิจัยด้านเศรษฐกิจพอเพียงประยุกต์ใช้ได้กับทุกๆ ด้าน เพื่อขับเคลื่อนสังคมในยุคเศรษฐกิจขาลง ซึ่งเชื่อมั่นว่าหากทำได้ จะเป็นแบบให้กับประเทศอื่นได้

"ปีนี้คาดว่าจะมีนักวิจัยเสนอโครงการขอทุนวิจัยเข้ามามากกว่าปีก่อนๆ นับพันโครงการ จากปีงบประมาณ 2552 ที่ วช. ให้ทุนไปประมาณ 300-400 โครงการ ซึ่งเห็นได้จากนักวิจัยที่มาร่วมประชุมในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนอย่างมาก และบรรยากาศการวิจัยในประเทศก็ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนอย่างเห็นได้ชัด" ศ.ดร.อานนท์กล่าว

ที่เป็นเช่นนั้น ศ.ดร.อานนท์ตั้งชข้อสังเกตว่า เพราะมีระบบกลไกที่เอื้อให้นักวิจัยมีความสะดวกในการทำงานวิจัยมากขึ้น มีความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานต่างๆ มากยิ่งขึ้น และบุคคลภายนอกให้ความสนใจผลงานวิจัยที่สำเร็จแล้วมากขึ้น เช่น รถยนต์พลังงานไฮโดรเจน และเชื่อว่าในอนาคตมีแนวโน้มที่รัฐบาลจะสนับสนุนงบวิจัยเพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่รวมทั้งประเทศเพียง 0.26% ของจีดีพี (ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ)
นักวิจัยจากทั่วประเทศกว่า 1,000 คน ร่วมประชุมในการชี้แจงกรอบการให้ทุนอุดหนุนการวิจัย ปีงบประมาณ 2553 ของ วช.
กำลังโหลดความคิดเห็น