xs
xsm
sm
md
lg

แจงไข้หวัดใหญ่พันธุ์ใหม่อาการไม่รุนแรง ทำให้แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ (ขวา) ให้สัมภาษณ์สื่อมวลเกี่ยวกับโรคไข้หวัดใหม่สายพันธุ์ใหม่ 2009
นพ.ยง เตือนอย่าห่วงไข้หวัดใหญ่พันธุ์ใหม่ระบาดระลอกสอง เผยไม่ได้กลายพันธุ์เร็วไปกว่าไข้หวัดตามฤดูกาล ศึกษานาฬิกาโมเลกุลพบมีการพัฒนามาแล้ว 20 ปี แนะให้ทุกภาคส่วนร่วมมือควบคุมป้องกันการระบาด ส่วนองค์การอนามัยโลกต้องตัดสินใจว่าจะผลิตวัคซีนป้องกันหรือไม่ ถ้าเลือกป้องกันหวัดสายพันธุ์ใหม่อาจทำให้วัคซีนไข้หวัดตามฤดูกาลขาดแคลนในปีหน้า

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ความรู้เรื่อง "โรคอุบัติใหม่อุบัติซ้ำกับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ" ที่จัดขึ้น ณ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) โดย ศูนย์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้านภัยพิบัติและการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (ศวภอ.) เมื่อวันที่ 18 พ.ค.52 ที่ผ่านมา โดยมีสื่อมวลชนให้ความสนใจร่วมงานมากมาย รวมทั้งทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTVผู้จัดการออนไลน์

หัวหน้าผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาคลินิก กล่าวว่า ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 หรือ เอช1เอ็น1 2009 (H1N1 2009) มีต้นตอการระบาดจากประเทศเม็กซิโก และแพร่เข้าสู่อเมริกาเหนือ จนกระจายไปยัง 39 ประเทศทั่วโลก โดยขณะนี้มีผู้ติดเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ดังกล่าวแล้วกว่า 8,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 72 ราย (ข้อมูลล่าสุดของวันที่ 18 พ.ค.52)

อย่างไรก็ตาม โรคดังกล่าวไม่ได้รุนแรงมากอย่างที่คิด จากเดิมที่ระบาดอยู่ในเฉพาะเม็กซิโก ประเมินกันว่ามีอัตราการตายราว 6% แต่ไม่ทราบอัตราผู้ป่วยที่แน่ชัด เพราะไม่มีรายงานผู้ป่วยในรายที่ไม่รุนแรง

แต่หลังจากที่แพร่กระจายไปยังประเทศต่างๆ ได้มีการประเมินความรุนแรงใหม่ พบว่ามีอัตราการตายอยู่ที่ประมาณ 1 ใน 1,000 ราย หรือไม่เกิน 1% ซึ่งรุนแรงน้อยกว่าไข้หวัดนกมาก และจะเป็นในผู้ที่มีพื้นฐานโรคอยู่ก่อนแล้ว เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ โรคปอดเรื้อรัง หรือเด็กเล็ก ส่วนผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงจะมีอาการน้อย

ศ.นพ.ยงกล่าวต่อว่า เนื่องจากเป็นโรคที่ไม่รุนแรงมากนัก ทำให้ควบคุมการแพร่ระบาดได้ยาก ส่งผลให้มีการแพร่ระบาดออกไปในวงกว้างได้อย่างรวดเร็ว เพราะผู้ติดเชื้อบางคนอาการไม่รุนแรงมาก จึงไม่ได้ไปพบแพทย์ แต่ซื้อยากินเองและหายจากอาการป่วยไข้ได้ และสามารถแพร่กระจายเชื้อไปสู่ผู้อื่นได้ด้วย

ทั้งนี้ ผู้ป่วยที่มีอาการไม่มาก ถ้าไม่ได้รับการตรวจวินิจฉัย จะไม่ทราบว่าเป็นโรคดังกล่าว เพราะอากาศของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เหมือนกับโรคทางเดินหายใจทั่วไป


"จากการศึกษาของศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก พบว่าอัตราการกลายพันธุของโรคดังกล่าว ไม่ได้มากไปกว่าไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลและไข้หวัดนกเลย ซึ่งถือว่าเป็นการกลายพันธุ์ทีละเล็กละน้อยและเป็นปกติของไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ (Influenza A) ไข้หวัดนกยังกลายพันธุ์เร็วกว่าด้วยซ้ำ" ศ.นพ.ยง กล่าว

อีกทั้ง จากการวิเคราะห์สารพันธุกรรมของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่พบในประเทศต่างๆ รวมทั้งไทย ศ.นพ.ยง ย้ำว่า ล้วนมีสารพันธุกรรมที่เหมือนกันเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์

ศ.นพ.ยง กล่าวกับทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTVผู้จัดการออนไลน์ อีกว่า การระบาดที่เกิดขึ้นเพียง 2 เดือน ยังเร็วเกินไปที่จะบอกได้ว่าไวรัสมีการกลายพันธุ์แล้วหรือไม่ ซึ่งจากการศึกษานาฬิกาโมเลกุลพบว่า เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ที่ระบาดอยู่ในขณะนี้มีการวิวัฒนาการมาประมาณ 20 ปี ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นใน 2-3 วัน แล้วระบาดอย่างแน่นอน

พร้อมกันนี้ ศ.นพ.ยงได้กล่าวเตือนประชาชนว่า อย่าตื่นตระหนกจนเกินไปว่าจะมีการระบาดระลอกสอง แต่ควรร่วมมือกันทุกภาคส่วนเพื่อควบคุมและป้องกันการระบาดระลอกแรกให้ได้เสียก่อนจะดีกว่า

นอกจากนั้น ศ.นพ.ยง ยังบอกอีกว่าวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลนั้นไม่น่าจะสามารถป้องกันไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกได้ เนื่องจากว่ามีสารพันธุกรรมแตกต่างกัน แต่เชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ยังไวต่อยาต้านเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ธรรมดาอยู่

ที่สำคัญ ในการผลิตวัคซีนป้องกันนั้นองค์การอนามัยโลก (WHO) ต้องตัดสินใจว่าจะผลิตวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 หรือไม่ ซึ่งหากพิจารณาและเห็นว่ารุนแรงแล้วเลือกที่จะผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ก็อาจจะทำให้ต้องลดการผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ซึ่งจะส่งผลให้วัคซีนป้องกันไข้หวัดตามฤดูกาลในปีหน้าขาดแคลนได้.
กำลังโหลดความคิดเห็น