เอกชนร่วมปลุกจิตสำนึกเยาวชนและคนไทย ให้รักษ์สิ่งแวดล้อมและพลังงาน เปิดตัวโครงการ "วังดุม เมาท์เทนแคมป์" ชูจุดเด่นเป็นศูนย์เรียนรู้พลังงานทดแทน เจาะกลุ่มเยาวชนเป็นหลัก หวังสร้างความตระหนักคุณค่าของพลังงาน พร้อมเป็นตัวอย่างให้ชุมชนเข้ามาศึกษาและนำไปปรับใช้จริงในท้องถิ่นของตน
บริษัท โกลบอลทรอนิค อินเตอร์เทรด จำกัด แถลงข่าวเปิดตัวโครงการ "วังดุม เมาท์เทนแคมป์" ศูนย์เรียนรู้พลังงานทดแทนเพื่อการศึกษา เมื่อวันที่ 20 ก.พ.52 ที่โรงแรมเจ้าพระยา ปาร์ค พร้อมกับพิธีลงนามในสัญญาร่วมกับสมาคมส่งเสริมเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน เรื่องการนำเยาวชนเข้าศึกษาเรื่องพลังงานทดแทนที่วังดุม เทาท์เทนแคมป์ ในระยะเวลา 1 ปี ซึ่งงานนี้มีสื่อมวลชนหลายแขนงให้ความสนใจมาร่วมงาน รวมทั้งทีมข่าว "วิทยาศาสตร์ ASTVผู้จัดการออนไลน์"
นายสมชัย บุญเสริมวิชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลทรอนิค อินเตอร์เทรด จำกัด และประธานกลุ่มสนับสนุนพลังงานทดแทนเพื่อการศึกษาแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า โครงการ วังดุม เมาท์เทนแคมป์ เกิดจากกลุ่มบุคคลหลายฝ่ายที่แนวคิดเดียวกันเกี่ยวกับปัญหาภาวะโลกร้อน และวิกฤติพลังงานในอนาคต จึงรวมตัวกันทำโครงการนี้ เพื่อมุ่งเน้นสร้างความตระหนักเรื่องพลังงานให้กับเยาวชนและประชาชน ชี้ให้เห็นความสำคัญและปัญหาของพลังงาน พร้อมกับเตรียมตัวรับสถานการณ์ในอนาคตโดยการศึกษาเรียนรู้เพื่อนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้ทดแทนพลังงานฟอสซิลในชีวิตประจำวัน
ทั้งนี้ วังดุม เมาท์เทนแคมป์ ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 40 ไร่ ที่มีภูเขารายรอบ อยู่ในเขตหมู่บ้านวังดุม ตำบลบ้านใหม่ อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ที่พักและอาคารต่างๆ สร้างจากวัสดุและการออกแบบที่ช่วยประหยัดพลังงาน เช่น ออกแบบให้ได้รับแสงแดดอย่างเพียงพอเพื่อลดการใช้ไฟฟ้า มีช่องรับลมและระบายอากาศช่วยลดการใช้เครื่องปรับอากาศ และยังได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงพลังงาน และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในส่วนของเทคโนโลยีการผลิตพลังงานทดแทนสำหรับชุมชน
ภายในโครงการมีการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ขนาด 40 วัตต์ จำนวน 20 แผง (ได้รับความอนุเคราะห์จากบริษัทบางกอกโซลาร์), กังหันลมขนาด 200 วัตต์ 3 ตัว ขนาด 1,000 วัตต์ 1 ตัว, เครื่องกำเนิดไฟฟ้าพลังน้ำ, การผลิตไบโอดีเซล และการผลิตแก๊สชีวมวล เพื่อผลิตพลังงานใช้ในโครงการ พร้อมกับใช้ในการสาธิตพลังงานทดแทนด้วยเช่นกัน โดยปัจจุบันทางโครงการได้นำพลังงานทดแทนดังกล่าวมาใช้ประมาณ 20% นอกจากนั้นยังมีแปลงเพาะปลูกพืชผักสวนครัวปลอดสารพิษสำหรับบริโภคในโครงการ และมีลานกิจกรรมกลางแจ้งจำนวน 10 ฐาน
ส่วนแนวทางในอนาคต นายสมชัยกล่าวว่าได้วางแผนไว้ว่าจะมีการปรับปรุง พัฒนาเทคโนโลยี และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานทดแทนให้มากขึ้นจนสามารถใช้พลังงานทดแทนได้ทั้งหมด โดยจะศึกษาจากข้อมูลงานวิจัยด้านพลังงานทดแทนของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เป็นหลัก และนำมาต่อยอดใช้ในโครงการ
กลุ่มเป้าหมายหลักของโครงการนี้คือนักเรียน นักศึกษา ตลอดจนเยาวชนและประชาชนทั่วไป โดยหวังให้ผู้ที่ได้เข้ามาร่วมทำกิจกรรมในวังดุมได้ตระหนักถึงความสำคัญของพลังงาน และเกิดจิตสำนึกติดตัวกลับออกไปเพื่อใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่าและคุ้มค่ามากที่สุด โดยในเบื้องต้นจะเน้นการร่วมมือกับโรงเรียน สถาบันการศึกษา หรือหน่วยงานต่างๆ ในการจัดกิจกรรม
นอกจากนั้นยังมีโครงการจะร่วมมือกับองค์กรการปกท้องส่วนท้องถิ่น ในการจัดให้เป็นศูนย์สาธิตพลังงานทดแทนสำหรับชุมชนหรือหน่วยงานต่างๆที่สนใจได้เข้ามาเรียนรู้ และนำไปใช้กับท้องถิ่นหรือหน่วยงานของตนเอง เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับชุมชน และนายสมชัยยังบอกด้วยว่าหากผู้ใดสนใจนำแนวคิดนี้ไปปรับใช้กับรีสอร์ทหรือโครงการของตนเองก็สามารถปรึกษากับโครงการวังดุมได้เช่นกัน
สำหรับความร่วมมือกับสมาคมส่งเสริมเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน ในการนำเยาวชนมาร่วมเข้าค่ายและทำกิจกรรมที่วังดุมนั้น จะจัดขึ้นครั้งแรกในวันที่ 5-6 มี.ค. 2552 โดยมีครูและนักเรียนระดับมัธยมจากโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ จำนวน 1,000 คน มาร่วมทำกิจกรรม ซึ่งครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการจัดงานประชุมวิชาการและนิทรรศการพลังงานทางเลือกนานาชาติ (World Alternative Energy Sciences Expo 2009) ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-8 มี.ค. นี้ ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี และยังมีอีก 2 โครงการใหญ่ที่จะจัดในวันที่ 5 มิ.ย. ซึ่งเป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก และวันที่ 5 ธ.ค. ซึ่งตรงกับวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ผู้ที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ วังดุม เมาท์เทนแคมป์ สามารถเข้าไปดูได้ที่ http://www.wangdummountaincamp.com