กรีนพีซ เผย กินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด ให้การยกย่องพร้อมบันทึกไทย ไว้ในฐานะผู้ส่งออกข้าวมากที่สุดในโลก พร้อมจัดกิจกรรม “ข้าวไทย ที่ 1 ในโลก” ชวนคนไทยร่วมอนุรักษ์ข้าวไทยให้ปลอดภัย ไร้จีเอ็มโอ กลางห้างเซ็นทรัลเวิลด์
เมื่อวันที่ 22 ม.ค.2552 ที่ผ่านมา กรีนพีซ ได้แถลงข่าวถึงการที่ประเทศไทยได้รับประกาศนียบัตรยกย่องให้เป็นประเทศที่ส่งออกข้าวมากที่สุดในโลก จากกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด พร้อมจัดกิจกรรมและนิทรรศการ “ข้าวไทย ที่ 1 ในโลก” ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เวิลด์ เพื่อเรียกร้องให้ประชาชนไทยร่วมปกป้องข้าวไทยจากจีเอ็มโอ โดยมีสื่อมวลชนให้ความสนใจร่วมงานมากมาย รวมทั้งทีมข่าว “วิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์”
น.ส.ณัฐวิภา อิ้วสกุล ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านเกษตรกรรมยั่งยืน กรีนพีซ เปิดเผยว่า เป็นครั้งแรกที่มีการบันทึกสถิติโลกเกี่ยวกับการส่งออกข้าว ซึ่งประเทศไทยได้รับการบันทึกจากกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด ว่า เป็นประเทศที่ส่งออกข้าวมากที่สุดในโลก มานานหลายสิบปี นับตั้งแต่มีการปฏิวัติเขียว โดยข้อมูลจากองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติปี 2550 ระบุว่า ประเทศไทยส่งออกข้าวมากที่สุดในโลกเป็นจำนวนกว่า 8 ล้านตัน ซึ่งคิดเป็น 27% ของตลาดข้าวส่งออกทั่วโลก
ทั้งนี้ กรีนพีซ ได้นำเสนอเรื่องดังกล่าวต่อกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด เมื่อช่วงปี 2551 กระทั่งเกือบสิ้นปี จึงมีการประกาศออกมาว่าประเทศไทยได้รับการบันทึกว่าเป็นประเทศที่ส่งออกข้าวมากที่สุดในโลก
“การบันทึกข้าวไทยไว้ในสถิติโลกครั้งนี้เป็นสิ่งยืนยันว่า ข้าวไทยเป็นหนึ่งในข้าวที่ดีที่สุดในโลก” ผู้ประสานงานของกรีนพีซ กล่าว
“แต่กรีนพีซก็ยังกังวัลการเข้ามาของข้าวดัดแปลงพันธุกรรม หรือข้าวจีเอ็มโอ ในประเทศ ซึ่งขณะนี้ก็มีการวิจัยข้าวจีเอ็มโอเกิดขึ้นแล้วในไทย โดยสิ่งที่น่าเป็นห่วง ก็คือเรื่องความปลอดภัยของข้าวจีเอ็มโอต่อผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม การครอบครองข้าวไทยและการถูกครอบงำโดยระบบทุนของบริษัทต่างชาติที่เป็นเจ้าของเทคโนโลยี ซึ่งอาจทำให้เกษตรกรต้องเสียเงินซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวในราคาแพงขึ้นเพื่อเป็นค่าสิทธิบัตร และยังจะมีสารเคมีต่างๆ จากบริษัทเดียวกันอีกมากมาย ซึ่งอาจทำให้วิถีเกษตรกรรมดั้งเดิมของไทยเปลี่ยนแปลงไป” น.ส.ณัฐวิภา แจง
นอกจากนี้ ผู้ประสานงานของกรีนพีซ ยังยกตัวอย่างให้เห็นว่า ข้าวจีเอ็มโอเคยสร้างความเสียหายให้กับสหรัฐฯ มาแล้วในปี 2549 เมื่อมีการปนเปื้อนของข้าวจีเอ็มโอพันธุ์ลิเบอร์ตี ลิงค์ แอลแอล 601 ของบริษัท ไบเออร์ จากสหรัฐฯ ไปสู่ตลาดข้าวกว่า 30 แห่งทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและผู้ส่งออกข้าวของสหรัฐฯ กว่าครึ่งหนึ่ง ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายกว่า 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เนื่องจากนานาประเทศปฏิเสธการนำเข้าข้าวจากสหรัฐฯ
เพื่อให้ประชาชนไทยให้ความสนใจร่วมกันปกป้องข้าวไทยให้ปลอดภัยจากจีเอ็มโอ กรีนพีซจึงได้จัดกิจกรรม “ข้าวไทย ที่ 1 ในโลก” โดยมีนิทรรศการจัดแสดงจุดกำเนิดและประวัติข้าวไทย ความเชื่อ พิธีกรรม และความผูกพันของคนไทยกับข้าวไทยที่มีมาแต่โบราณ ประโยชน์และคุณค่าทางโภชนาการของข้าว รวมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับข้าวดัดแปลงพันธุกรรมที่เกิดขึ้นแล้ว และผลกระทบที่อาจตามมาในอนาคต
นอกจากนี้ ในวันเดียวกันยังมี นางสำเนียง ฮวดลิ้ม และ นายก้องหล้า มีสวัสดิ์ 2 เกษตรกรจาก อ.โพธาราม จ.ราชบุรี มาร่วมแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับวิถีการทำนาแบบดั้งเดิมของคนไทย และเล่าประสบการณ์ทำนาของแต่ละคน ซึ่งเคยหลงไปใช้สารเคมีในนาข้าวอยู่นานหลายปี แต่ปัจจุบันกลับมาใช้แนวทางของเกษตรอินทรีย์ ทำเท่าที่มีกำลัง ซึ่งก็ได้ผลผลิตดี ดินน้ำไม่เสีย ข้าวที่ผลิตได้ส่วนใหญ่เก็บไว้กินในครัวเรือน และแบ่งขายบางส่วน
ส่วนกิจกรรมไฮไลต์ในวันที่ 23 ม.ค.2552 จะมีการแสดงคอนเสิร์ตของวงสินเจริญบราเธอร์ส เวลา 15.00-15.30 น.และวันที่ 25 ม.ค.เวลา 13.00-14.30 น.มีการเสวนาเรื่อง “ดียังไงถ้าข้าวไทยปลอดจีเอ็มโอ” โดย อ.ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์ ที่จะมาสาธิตการทำอาหารเมนูจากข้าวกล้องงอกปลอดจีเอ็มโอ
นิทรรศการและกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นที่บริเวณชั้น 6 โซน Beacon ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เวิลด์ โดยนิทรรศการจะมีตั้งแต่วันที่ 22-25 ม.ค.2552 ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมกิจกรรมและชมนิทรรศการได้ตามวันเวลาดังกล่าวโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ