xs
xsm
sm
md
lg

คริสต์มาสนี้มองที่ "ดาวเสาร์" วงแหวนเอียงเกือบเป็นเส้นตรง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพแสดงการเปลี่ยนแปลงลักษณะทางภูมิศาสตร์ของดาวเสาร์ ที่บันทึกโดยนักดาราศาสตร์สมัครเล่น แอเฟรน มอเรลส์ ริเวอรา (Efrain Morales Rivera) - นาซา
วงแหวนดาวเสาร์ จะหายไปจากการมองเห็นในเดือนกันยาปีหน้า แต่ไม่สามารถสังเกตได้ เพราะดาวเสาร์อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากเกินไป ต้องรอไปอีก 30 ปี นาซาจึงชวนดูวงแหวนที่เหลือเป็นเส้นบางๆ ตัดกลางดาวเคราะห์เป็น 2 ซีกใน "คืนคริสต์มาส" นี้

องค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐฯ (นาซา) เผยว่า ตลอดทั้งปีระนาบวงแหวนเอียงจนแทบจะหายไปจากระนาบสายตา และวันคริสต์มาสที่ 25 ธ.ค.51 นี้ ดาวเสาร์จะเอียงจนวงแหวนทำมุมกับโลกแค่ 0.8 องศา ซึ่งทำให้เรามองเห็นวงแหวน เป็นเพียงเส้นบางๆ จากที่เคยมองเห็นเป็นวงแหวนสว่างๆ และมีความกว้างพอสมควรรอบๆ ดาวเสาร์

อีกทั้ง เส้นบางๆ ซึ่งเกิดจากเงาของวงแหวนนั้นได้แบ่งครึ่งดาวเสาร์ออกเป็น 2 ส่วน นับเป็นภาพที่หาดูได้ยาก

นาซาเรียกปรากฏการณ์ที่จะเกิดขึ้นในวันคริสต์มาสปีนี้ว่า "แนวเอียงหรรษาแห่งวันคริสต์มาส" (Crazy Christmas Tilt) ของดาวเสาร์ ขณะที่นักดาราศาสตร์เรียกปรากฏการณ์นี้ว่า "จุดตัดระนาบวงแหวน" (ring plane crossing)

ทั้งนี้ในคาบการโคจรรอบดวงอาทิตย์ทุก 14-15 ปี วงแหวนดาวเสาร์จะทำระนาบเดียวกับโลก และด้วยวงแหวนที่บางมาก ทำให้ดูคล้ายกับว่าวงแหวนของดาวเสาร์หายไป หากเราส่องดูด้วยกล้องโทรทรรศน์ขนาดเล็ก ซึ่งเพียงชั่วขณะของการตัดผ่านภาพของดาวเสาร์ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงจนน่าใจหาย จากดาววงแหวนเปลี่ยนดาวก๊าซกลมๆ ที่ยากจะจำได้

ข้อมูลจากอดีตระบุว่า เพียงไม่นานนักหลังจากกาลิเลโอ กาลิเลอิ (Galileo Galilei) ค้นพบวงแหวนดาวเสาร์เมื่อปี พ.ศ.2153 วงแหวนเหล่านั้นก็หายไป ซึ่งกาลิเลโอเองยังไม่เข้าใจธรรมชาติของวงแหวนและการหายไปดังกล่าวก็สร้างความสับสนไม่น้อย แต่ลางสังหรณ์บางอย่างทำให้เขาทำนายว่า "วงแหวนจะกลับมา" และก็เป็นเช่นนั้น แม้ว่าเขาจะไม่ทราบเหตุผลก็ตาม

ปรากฏการณ์ที่วงแหวนของดาวเสาร์จะหายไป (จากการมองเห็น) จะเกิดขึ้นในวันที่ 4 ก.ย.2552 ซึ่งระนาบวงแหวนจะทำมุมกับระนาบของโลกเป็น 0 องศา

ทว่า อาจต้องกล่าวเสียใจกับผู้ที่จะรอเฝ้าดูปรากฎการณ์วงแหวนหายในปีหน้า เพราะดาวเสาร์จะอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มาก จนไม่มีใครมองเห็นวงแหวนหายไปตาหน้าต่อตา

หากแต่เวลาดีที่สุดที่จะจดจ้องวงแหวนดาวเสาร์ คือช่วงเวลานี้ในค่ำคืนคริสต์มาส ซึ่งนาซาระบุว่า เป็นช่วงเวลาที่วงแหวนทำมุมกับระนาบน้อยที่สุดคือ 0.8 องศา และในเดือน ม.ค.52 วงแหวนก็จะกลับมากว้างขึ้นอีก อันเป็นผลจากการเคลื่อนที่ในวงโคจรของโลกและดาวเสาร์

จากนั้น วงแหวนดาวเสาร์จะแคบลงอีกในช่วงฤดูร้อนทางซีกโลกเหนือปีหน้า แต่ดาวเสาร์ก็อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ จนอันตรายเกินกว่าที่จะส่องด้วยกล้องโทรทรรศน์ สำหรับโอกาสครั้งต่อไปที่ระนาบวงแหวนจะตัดผ่านอีกครั้งคือในปี พ.ศ. 2581.
กำลังโหลดความคิดเห็น