∞ สวัสดีแฟนๆ ทุกท่านที่ "คลิก" เข้ามา "เม้าท์กระจาย” กับ "ไซน์กระซิบ” ในวันเสาร์นี้เจ้าค่า สัปดาห์ที่ผ่านมา "อเมริกันชน” ส่วนใหญ่ได้อิ่มอก-อิ่มใจกับ "ผู้นำคนใหม่” ที่จะประกาศจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลง เห็นบรรยากาศการเมืองบ้านเขาแล้วอดปลื้มอก-ปลื้มใจแทนไม่ได้∞
∞ สุดๆ สำหรับเทคโนโลยีรายงานข่าวของ "ซีเอ็นเอ็น” ที่ยิง "ลำแสง” ผู้ประกาศหญิงไปยังห้องส่งที่อยู่ห่างไกลกันหลายรัฐ เลียนแบบ "การส่งสัญญาณฮอโลแกรม" ในหนังสงครามอวกาศ ทำเอาทั้งแฟนๆ "สตาร์วอร์” และไม่ใช่ ฮือฮาไปไม่น้อย ∞
∞ แถลงข่าวหลังกระแส "เลือกตั้ง" จากฝั่งสหรัฐฯ ยังคุกรุ่น "ผอ.ซุป” แห่งสำนักงานนวัตกรรมก็อดเปรียบเทียบการทำงานภายใต้การบริหารของตนเองไม่ได้ว่า "นวัตกรรม” ก็คือการเปลี่ยนแปลง และเสริมไปอีกว่า ถ้าเปลี่ยนชื่อหน่วยงาน "สำนักงานนวัตกรรม” ไปเป็น "สำนักงานการเปลี่ยนแปลง” อาจเป็นที่เข้าใจและรู้จักมากขึ้น แต่พูดจบ เจ้าตัวก็อดขำและตั้งคำถามเองไม่ได้ว่า "หรือจะทำให้ไปกันใหญ่” หุหุ ∞
∞ ขอเม้าท์กันต่อเลยล่ะกัน ก็เมื่อวันก่อน "สนช." เจ้าแห่งนวัตกรรมของไทยจัดงานแนะนำ 10 นวัตกรรมเด่นจากธรรมชาติกลางห้างดัง ย่านพระราม 1 เหลียวซ้ายแลขวาเห็นจะมีแต่ "นวัตกรรมเครื่องสำอาง" เสียส่วนใหญ่ ทั้งครีมลำไย โลชั่นมะละกอ เซรัมผงไหม ครีมไคโตซาน สร้างความตื่นตาให้สาวน้อยสาวใหญ่ที่มาร่วมงานเป็นพิเศษ บางรายควักกระเป๋าจ่ายตรงนั้นทั้งๆ ที่เจ้าของบูธไม่ได้เตรียมมาขาย ทำให้ของที่เอามาโชว์หดหายไปบ้างเหมือนกัน ∞
∞ ส่วนนี่ไม่ได้มาจากธรรมชาติ แต่ก็มาร่วมเปิดตัวในงานเดียวกัน "ไอ-โม" พาหนะสองล้อทรงตัวอัตโนมัติ สัญชาติไทยแท้ๆ เพราะคนไทยออกแบบและพัฒนาขึ้นเอง แม้จะไม่ใช่เจ้าแรกของโลก แต่ก็เป็นชาติแรกๆ ที่ถอยนวัตกรรมนี้ออกมาโชว์ตามหลังพี่ยุ่นที่เปิดตัวพาหนะแบบเดียวกันไป เมื่อไม่กี่เดือนก่อน แถมสนนราคาถูกกว่าของนำเข้าจากบ้านพี่กันตั้งหลายเท่า ใครสนใจจะลองถอยไปขับเล่นๆ ดูก็ได้เจ้าค่ะ แค่ 8 หมื่นเอ๊ง ∞
∞ ในงานเดียวกัน สนช. ก็ขอเปิดตัวเว็บไซต์ "อินโนโอเค" ด้วยเลย หลังจากทุ่มเททำมากว่า 2 ปี กับอีก 2 ล้านกว่าๆ ดังนั้นจะปล่อยให้เข้าไปล้วง เอ๊ย! ดูข้อมูลนวัตกรรมกันแบบฟรีๆ ก็กระไรอยู่ ดังนั้นถ้าอยากได้ "ข้อมูล" ต้องผ่านการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกก่อนและจ่าย 500 เหรียญ จึงได้รับอนุญาตให้เข้าไปดูได้ ออกมาเผยอย่างนี้ ทำเอาหลายคนตกใจ ทำไมแพงจังหว่า!? ∞
∞ แต่ "ดร.ศุภชัย" ชี้แจงทันควัน ราคามโหฬารนี้ ตั้งไว้เรียกเก็บจากนักลงทุนต่างชาติเท่านั้นเจ้าค่า และต้องทำให้รัดกุม จ่ายเงินซื้อข้อมูลไปแล้วก็ต้องลงทุนในไทยเท่านั้นด้วย จะข้ามไปพม่า มาเลย์ หรือที่อื่นๆ ไม่ได้เด็ดขาด และเว็บไซต์นี้ขายธุรกิจ เพราะงั้นก็เลยไม่หวังว่าจะให้คนเข้ามาดูถล่มทลาย ขอแค่ปีละ 50-100 ราย ก็พอใจแล้วเจ้าค่า ส่วนผู้ประกอบการไทยที่สนใจทำธุรกิจนวัตกรรม ก็ติดต่อ สนช. ได้โดยตรง ไม่ต้องเสีย "สตางค์" ผ่านเว็บใดๆ ทั้งสิ้น "งานนี้ ผอ.เอ็นไอเอ" ยินดีช่วยเต็มที่เจ้าค่า ∞
∞ อพวช. จัดแสดงนิทรรศการชุดใหม่ "โลกสีเงิน" ให้เด็กและผู้ใหญ่เรียนรู้วิทยาศาสตร์ผ่านเงินตราที่เราใช้จ่ายกันในทุกวัน นี้ เล่ากันตั้งแต่สมัยยุคแรกเริ่มที่เอา "หอยเบี้ย" มาใช้เป็นเงิน ไปจนถึงยุคอนาคตที่เราอาจใช้จ่ายกันได้โดยไม่ต้องเห็น "ตัวเงิน" กันแล้ว ใครสนใจไปชมกันได้ทุกวันจันทร์ถึงเสาร์ ตั้งแต่ 3-29 พ.ย. นี้ ที่พิพิธภัณฑ์ธนาคารไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ใกล้แยกรัชโยธินจ้า ∞
∞ ในงานแถลงข่าวเปิดนิทรรศการ "โลกสีเงิน" พิธีกรถามว่าวิทยาศาสตร์จะช่วยให้คนไทยรับมือกับวิกฤติเศรษฐกิจขณะนี้ได้ ยังไงบ้าง "ดร.พิสัย สนแจ้ง" ผอ.อพวช. แนะว่าให้ใช้หลักเหตุและผลที่เป็นหัวใจของวิทยาศาสตร์ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตนเอง ด้วยเศรษฐกิจพอเพียงที่อยู่บนพื้นฐานของความมีเหตุผล เพียงเท่านี้เราก็จะสามารถรอดพ้นจากวิกฤติเศรษฐกิจครั้งนี้หรือครั้งไหนๆ ก็ได้ทั้งนั้นเจ้าค่า ∞
∞ นอกจากบัตรเครดิตจะย่อโลกการเงินให้เล็กลงแล้ว ในอนาคตอาจย่อ "โลกการแพทย์" ให้เล็กลงได้ด้วย เพราะนักวิทย์มะกันเขาทำ "บัตรตรวจสุขภาพ" สำเร็จแล้ว ตรวจได้หลายร้อยโรคในเวลาอันรวดเร็ว ด้วยเทคโนโลยีคล้ายกับการอ่านฮาร์ดไดรฟ์ในคอมพิวเตอร์ที่ค้นพบโดยสองนัก วิทย์โนเบลฟิสิกส์เมื่อปีก่อน แถมนักวิทย์ที่คิดค้นยังรับประกันด้วยว่าบัตรตรวจสุขภาพนี้ไม่แพงแน่นอน เพราะพัฒนาจากเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้ว แถมอาจตรวจหาตัวบ่งชี้โรคมะเร็งและหัวใจได้ด้วย แบบนี้คงเป็นข่าวดีที่ทุกคนอยากได้ยินมานานแล้ว ∞
∞ ระหว่างนี้เมืองไทยอาจต้องพึ่งพา "บัตรทอง” ในการดูแลรักษาทุกโรคด้วยเงิน 30 บาทกันไปก่อน และตอนนี้หากใครมียาอะไรอยู่ในมือ ก็เข้าไปตรวจสอบข้อมูลที่ควรรู้ในเว็บไซต์ "ya&you” www.yaandyou.com กันได้แล้ว พร้อมคำห่วงใยจากเภสัญกรที่ร่วมพัฒนาเว็บไซต์ว่า เรามีเวลาคุยกับ "หมอ-เภสัช” แค่ไม่กี่นาที แต่ "การกินยา" และ "สุขภาพ” ต้องอยู่กับตัวเราไปอีกนาน เราจึงเป็นผู้ที่รู้ตัวดีที่สุด และต้องปฏิบัติตัวอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันอันตรายอันไม่พึ่งประสงค์จากการใช้ยาเจ้าค่า ∞
∞ ส่วนผลิตภัณฑ์ต่อไปนี้จะเป็น “นวัตกรรม” ที่นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่ ยังไม่อาจตอบได้ในทันที สำหรับ “สารอาหารบำรุงรากผม” ซึ่ง “เฮียโก้” ได้โปรโมทไว้ ก่อนเริ่มงาน “นาโนไทยแลนด์” ที่จัดขึ้นในวันนี้เป็นวันสุดท้าย พร้อมประกาศรับอาสาสมัคร 1,000 ทดลองใช้สารอาหารบำรุงรากผมนี้ ∞
∞ แว่วข่าวว่าวันแรกของงาน “ชายรักผม” ต่อคิวรับตัวอย่างผลิตภัณฑ์กันอย่างแน่นขนัด แต่ยังไม่สู้วันที่ 2 ที่ได้ยินเสียงกระซิบมาว่า "ล้านแทบแตก" เพราะเหล่าชายมน้อยรวมตัวกันอย่างแน่นขนัด "แย่งซีน" เวทีสัมมนาวิชาการไปเสียหมด ∞
∞ แล้วที่ประกาศรับอาสาสมัครพันคนก็ใช่ว่าทุกคนจะได้ตัวอย่างผลิตภัณฑ์กันทุกคน เพราะต้องมีการพิสูจน์กันก่อน "ล้านจริง" หรือไม่ และถ้าใครที่ไม่ได้รับผลิตภัณฑ์ก็มี "พลายกระซิบ" ให้สมัครสมาชิก 150 บาท เพื่อซื้อสินค้าของบริษัทในราคาพิเศษ!! โอ้วแม่เจ้า...มีพรีเซนเตอร์เป็นรัฐมนตรีก็ดีอย่างนี้...นี่เองงงง ∞
∞ ถามว่า "สารอาหารบำรุงรากผม" ชูความหวังให้คน "หัวล้าน" ได้จริงหรือเปล่า "หนูไซน์" ก็ตอบไม่ได้ หากแต่เสียงกระซิบ (อีกแล้ว) ของ "ล้านอาสาสมัคร" บอกมาว่า เจ้าหน้าที่ผู้แจกผลิตภัณฑ์อธิบายว่า สารอาหารบำรุงรากผม มีส่วนผสมของ "ซิลเวอร์นาโน" ที่ช่วยรักษาความสะอาดและเปิดรูขุมขน โอ้ว...แม่เจ้า ใครเชื่อก็...แล้ว ∞
∞ ไม่อยากจะเชื่อว่า “ญี่ปุ่น” ชนชาติที่มี “นวัตกรรม” และ “เทคโนโลยี” อยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก จะประสบกับปัญหาขาดแคลนกำลังคนในการพัฒนา “เทคโนโลยีสมองกลฝังตัว” จนต้องมาดึงกำลังคนจากไทยไปร่วมพัฒนา “เทคโนโลยีฉลาด” ที่จะเปลี่ยนเครื่องใช้ไฟฟ้าธรรมดาๆ ให้กลายเป็น “เครื่องใช้ไฟฟ้าฉลาดล้ำ” เหมือนมีสมองคิดเองได้ ∞
∞ ถึงเวลา "หนูไซน์” ต้องอำลาแล้วสำหรับสัปดาห์นี้ ใครมีเรื่องอยาก "เม้าท์" ก็กระซิบผ่าน scigossip@gmail.com เช่นเคยจ้า ∞